ข่าวคริปโตเคอเรนซี่

ย้อนรอย เส้นทางการล้มละลายของ BlockFi แมวเก้าชีวิตที่ถึงคราวดับสูญ

9

ย้อนรอย ‘เส้นทางการล้มละลายของ BlockFi’ บริษัทผู้ให้กู้คริปโตชื่อกระฉ่อนที่บอกได้เลยว่านักลงทุนจำนวนมาก เห็นสัญญาณนี้มานานแล้ว!

BlockFi ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัปแถวหน้าของโลกที่เชี่ยวชาญในด้านสินเชื่อส่วนบุคคลของ Crypto และการเปิดบัญชีออมทรัพย์ ได้ ‘สิ้นชื่อ’ เป็นที่เรียบร้อย โดยพวกเขาเพิ่งออกมาประกาศเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้นี่เอง

ซึ่งหลาย ๆ คนก็คงมีคำถามในใจว่า... แล้วอะไรที่ทำให้บริษัทสตาร์ทอัป ที่ถึงขั้นอยู่ในระดับ แถวหน้าของโลกรายนี้ มีชะตากรรมที่จบไม่สวยสักเท่าไหร่? ซึ่งวันนี้ CryptoSiam มีคำตอบมาให้คุณแล้ว

ย้อนรอย เส้นทางการล้มละลายของ BlockFi

สัญญาณมีให้เห็นมาระยะหนึ่งแล้ว!

แม้ว่าปัญหาของ BlockFi จะไม่เห็นต้นตอที่ปรากฏเป็นภาพให้เห็นเด่นชัดเท่า ‘ความพัง’ ของ Celsius Network หรือ 3AC ก็ตาม แต่ทว่ากลิ่นตุ ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทสายเลือดคริปโตแท้ ๆ รายนี้ มีให้เห็นมานานแล้ว

โดยสัญญาณร้ายครั้งแรก เริ่มต้นจากการประกาศปลดพนักงานรอบแรกของบริษัทในจำนวนกว่า 20% (ประมาณ 170 คน) เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลเอาไว้ว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาค

ทั้งนี้ Zac Prince ซีอีโอของ BlockFi กล่าว ณ ขณะนั้นว่า พวกเขาจะลดจำนวนพนักงานลง “ประมาณ 20% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด โดยจะทำการเลิกจ้างบุคลากรในทุกทีมในบริษัท การตัดสินใจครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากสภาวะตลาดที่ไม่ดีต่ออัตราการเติบโต ผนวกกับการพิจารณาลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์อย่างถี่ถ้วน"

หนี้ก้อนโตก้อนแรก

นอกเหนือจากต้องไล่ปลดพนักงาน สถานการณ์ของ BlockFi ก็ย่ำแย่ลงไปอีก ยังมีหนี้ก้อนมหึมาอีกด้วย โดยเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 BlockFi ได้ทำการรายงานถึง ‘ความโปร่งใสในการประกอบการ’ และระบุว่ามีหนี้สินเป็นเงิน 1.8 พันล้านฯ USD ซึ่งแบ่งเป็น

  • หนี้ของนักลงทุนสถาบัน 1.5 พันล้านดอลลาร์
  • หนี้สินจากเจ้าหนี้รายย่อย 300 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ดี ความสูญเสียของ BlockFi ในครั้งนี้ ได้รับอธิพลมาจากการที่ Three Arrows Capital (3AC) ผู้จัดกองทุนป้องกันความเสี่ยงสัญชาติสิงคโปร์ ล้มไม่เป็นท่า ซึ่งผลิตภัณฑ์การลงทุน GBTC ของ BlockFi สูญมูลค่าไปประมาณ 80 ล้านดอลลาร์ เพราะถูกตีเป็นหนี้เสียของ Three Arrows นั่นเอง

และเรา ๆ ก็รู้กันใช่ไหมครับว่าใครพา 3AC ร่วง... ก็ Terra และ LUNA ลูกรักของ Do Kwon ยังไงล่ะ!

เลือกคนผิด คิดจนตัวตาย

แม้สถานการณ์ของ BlockFi นั้นเริ่มไม่ค่อยจะดี แต่พวกเขาก็ยังคงอาศัย ‘โชค’ ของแมวเก้าชีวิต และขับเคลื่อนบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง

โดย ณ ขณะนั้น ทางบริษัทได้กล่าวอย่างมั่นใจว่า พวกเขามีแนวทางในการรับมือกับสถานะทางธุรกิจในปัจจุบัน และจะทำให้การดำเนินงานหลัก ๆ ไปต่อได้อย่างแน่นอน มิหนำซ้ำยังระบุว่าลูกค้าต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดอีกด้วยนะ!

ทั้งนี้ หากเรานับตั้งแต่วันแรกสัญญาณแรกที่บ่งชี้ว่า BlockFi ล้มละลายแน่ ลากยาวมาจวบจนปัจจุบัน พวกเขาก็ใช้พลังแมวเก้าชีวิต เอาตัวรอดแบบไม่มีใครสงสัยได้ถึงกว่า 6 เดือนที่เดียว

อย่างไรก็ดี ‘ความซวย’ ระลอกใหม่ ก็ดันมาซัดใส่ BlockFi ในช่วงที่พวกเขาเพลี่ยงพล้ำที่สุด ซึ่งทำให้แมวเก้าชีวิตตัวนี้ถูกตอกฝาโลงลงแบบถาวร

ความซวยที่ว่าก็คือ พวกเขาเลือกแก้ไขปัญหาหนี้สินด้วยการขอรับวงเงินสินเชื่อ 250 ล้านดอลลาร์ จาก FTX ด้วยความหวังที่ว่าจะอยู่รอดจากภาวะตกต่ำของตลาด Crypto ไปได้

แมวเก้าชีวิตที่ถึงคราวดับสูญ

ล่าสุด ผู้ให้บริการกู้ยืมเงินคริปโตรายใหญ่สัญชาติมะกันอย่าง BlockFi ได้ออกมาประกาศเมื่อช่วงเที่ยงคืนวันที่ 29 พ.ย. (ตามเวลาประเทศไทย) ว่าพวกเขาได้ยื่นล้มละลายอย่างสมัครใจ และพร้อมที่เข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ ตามบทบัญญัติที่ 11 (Chapter11)

ตามแถลงการณ์ของ BlockFi ระบุว่า ณ ปัจจุบันนี้ ทางองค์กรมีเงินทั้งหมดในมืออยู่ที่ 256.9 ล้านเหรียญสหรัฐ และทาง BlockFi ก็มีความประสงค์เป็นอย่างยิ่งที่จะยังคง “จ่ายค่าจ้างพนักงาน และดูแลผลประโยชน์พนักงานต่อไปไม่หยุดพัก”

ทั้งนี้ ทาง BlockFi มองว่าการกระทำข้างต้นถือเป็นการกระทำเพื่อให้แน่ใจว่า BlockFi ยังพอกระท่อนกระแท่นเดินต่อไปได้โดยยังคงมีสิ่งที่มีความสำคัญต่อธุรกิจอยู่ในมือนั่นเอง

นับตั้งแต่ที่ [BlockFi] หยุดให้ผู้ใช้ถอนเงินชั่วคราว ทางทีมงานของเราต่างลงไปสำรวจทางเลือกทั้งหมดที่มีให้เรา และยังคงมุ่งเน้นที่เป้าหมายหลักของเราในการทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าของเราการเข้ายื่นล้มละลาย และดำเนินการตามบทบัญญัติที่ 11 จะช่วยให้ BlockFi รักษาเสถียรภาพของธุรกิจ และมอบโอกาสให้ BlockFi บรรลุแผนการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ที่เพิ่มมูลค่าสูงสุดสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด รวมถึงลูกค้าที่มีค่าของเราด้วย

บริษัทยังทวีตอีกว่า “ในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับโครงสร้างใหม่ เราจะมุ่งเน้นไปที่การกู้คืนภาระผูกพันทั้งหมดที่คู่สัญญาเป็นหนี้ BlockFi รวมถึง FTX”

โตเร็ว ก็ร่วงเร็ว

BlockFi รวมไปถึงบริษัทสายเลือดคริปโตอีกว่า ‘ค่อน’ โลก ถือว่าเป็นกลุ่มบริษัทที่เข้าสูตร ‘โตมากเกินในช่วงตลาดกระทิง’ โดยหากอ้างตามทวีตของ CEO อย่าง Zac Prince ทาง BlockFi ได้เติบโตขึ้นจนสามารถรองรับพนังงานกว่า 850 คนในช่วงกลางเดือนมิถุนายนจากประมาณ 150 คนในช่วงปลายปี 2020

ทั้งนี้ เจ้าอาการ ‘โตเกิน’ ที่ว่า หากให้อธิบายง่าย ๆ ก็คือ การที่บริษัทประสบความสำเร็จมาก ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ และได้แห่ขยายบริษัทในมือแบบ ‘ไม่สนสี่สนแปด’ พอตลาดหมีบุกปุ๊ป พายุอันแสนหนาวเหน็บของ Crypto Winter พัดถล่มปั๊ป บริษัทก็เจ๊งสิครับ

เจ๊งไปเยอะด้วยนะรอบนี้!

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

The Smarter Web Company จากสหราชอาณาจักรระดมทุนกว่า 56 ล้านดอลลาร์ หลังทุ่มซื้อ Bitcoin กว่า 20 ล้านภายในไม่กี่วัน
หุ้น Coinbase พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ นักวิเคราะห์บางส่วนชี้ "ใกล้พักฐาน" แต่แรงหนุนจากกฎ Stablecoin และกระแสคริปโตยังสดใส
สัญญาณ Ether ETF ยังแข็งแกร่ง แต่ข้อมูลจากตลาดฟิวเจอร์สบ่งชี้ถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุน
Bitcoin กลับมาแตะ $105,000 หลัง Coinbase Premium พุ่งทำจุดสูงสุดอันดับ 2 ของปี ขานรับแรงซื้อจากฝั่งสหรัฐฯ