ย้อนรอย เส้นทางการล้มละลายของ BlockFi แมวเก้าชีวิตที่ถึงคราวดับสูญ
ย้อนรอย ‘เส้นทางการล้มละลายของ BlockFi’ บริษัทผู้ให้กู้คริปโตชื่อกระฉ่อนที่บอกได้เลยว่านักลงทุนจำนวนมาก เห็นสัญญาณนี้มานานแล้ว!
ย้อนรอย ‘เส้นทางการล้มละลายของ BlockFi’ บริษัทผู้ให้กู้คริปโตชื่อกระฉ่อนที่บอกได้เลยว่านักลงทุนจำนวนมาก เห็นสัญญาณนี้มานานแล้ว!
Table of contents
BlockFi ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัปแถวหน้าของโลกที่เชี่ยวชาญในด้านสินเชื่อส่วนบุคคลของ Crypto และการเปิดบัญชีออมทรัพย์ ได้ ‘สิ้นชื่อ’ เป็นที่เรียบร้อย โดยพวกเขาเพิ่งออกมาประกาศเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้นี่เอง
ซึ่งหลาย ๆ คนก็คงมีคำถามในใจว่า... แล้วอะไรที่ทำให้บริษัทสตาร์ทอัป ที่ถึงขั้นอยู่ในระดับ ‘แถวหน้า’ ของโลกรายนี้ มีชะตากรรมที่จบไม่สวยสักเท่าไหร่? ซึ่งวันนี้ CryptoSiam มีคำตอบมาให้คุณแล้ว
ย้อนรอย เส้นทางการล้มละลายของ BlockFi
สัญญาณมีให้เห็นมาระยะหนึ่งแล้ว!
แม้ว่าปัญหาของ BlockFi จะไม่เห็นต้นตอที่ปรากฏเป็นภาพให้เห็นเด่นชัดเท่า ‘ความพัง’ ของ Celsius Network หรือ 3AC ก็ตาม แต่ทว่ากลิ่นตุ ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทสายเลือดคริปโตแท้ ๆ รายนี้ มีให้เห็นมานานแล้ว
โดยสัญญาณร้ายครั้งแรก เริ่มต้นจากการประกาศปลดพนักงานรอบแรกของบริษัทในจำนวนกว่า 20% (ประมาณ 170 คน) เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลเอาไว้ว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาค
ทั้งนี้ Zac Prince ซีอีโอของ BlockFi กล่าว ณ ขณะนั้นว่า พวกเขาจะลดจำนวนพนักงานลง “ประมาณ 20% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด โดยจะทำการเลิกจ้างบุคลากรในทุกทีมในบริษัท การตัดสินใจครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากสภาวะตลาดที่ไม่ดีต่ออัตราการเติบโต ผนวกกับการพิจารณาลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์อย่างถี่ถ้วน"
หนี้ก้อนโตก้อนแรก
นอกเหนือจากต้องไล่ปลดพนักงาน สถานการณ์ของ BlockFi ก็ย่ำแย่ลงไปอีก ยังมีหนี้ก้อนมหึมาอีกด้วย โดยเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 BlockFi ได้ทำการรายงานถึง ‘ความโปร่งใสในการประกอบการ’ และระบุว่ามีหนี้สินเป็นเงิน 1.8 พันล้านฯ USD ซึ่งแบ่งเป็น
- หนี้ของนักลงทุนสถาบัน 1.5 พันล้านดอลลาร์
- หนี้สินจากเจ้าหนี้รายย่อย 300 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ความสูญเสียของ BlockFi ในครั้งนี้ ได้รับอธิพลมาจากการที่ Three Arrows Capital (3AC) ผู้จัดกองทุนป้องกันความเสี่ยงสัญชาติสิงคโปร์ ล้มไม่เป็นท่า ซึ่งผลิตภัณฑ์การลงทุน GBTC ของ BlockFi สูญมูลค่าไปประมาณ 80 ล้านดอลลาร์ เพราะถูกตีเป็นหนี้เสียของ Three Arrows นั่นเอง
และเรา ๆ ก็รู้กันใช่ไหมครับว่าใครพา 3AC ร่วง... ก็ Terra และ LUNA ลูกรักของ Do Kwon ยังไงล่ะ!
เลือกคนผิด คิดจนตัวตาย
แม้สถานการณ์ของ BlockFi นั้นเริ่มไม่ค่อยจะดี แต่พวกเขาก็ยังคงอาศัย ‘โชค’ ของแมวเก้าชีวิต และขับเคลื่อนบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง
โดย ณ ขณะนั้น ทางบริษัทได้กล่าวอย่างมั่นใจว่า พวกเขามีแนวทางในการรับมือกับสถานะทางธุรกิจในปัจจุบัน และจะทำให้การดำเนินงานหลัก ๆ ไปต่อได้อย่างแน่นอน มิหนำซ้ำยังระบุว่าลูกค้าต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดอีกด้วยนะ!
ทั้งนี้ หากเรานับตั้งแต่วันแรกสัญญาณแรกที่บ่งชี้ว่า BlockFi ล้มละลายแน่ ลากยาวมาจวบจนปัจจุบัน พวกเขาก็ใช้พลังแมวเก้าชีวิต เอาตัวรอดแบบไม่มีใครสงสัยได้ถึงกว่า 6 เดือนที่เดียว
อย่างไรก็ดี ‘ความซวย’ ระลอกใหม่ ก็ดันมาซัดใส่ BlockFi ในช่วงที่พวกเขาเพลี่ยงพล้ำที่สุด ซึ่งทำให้แมวเก้าชีวิตตัวนี้ถูกตอกฝาโลงลงแบบถาวร
ความซวยที่ว่าก็คือ พวกเขาเลือกแก้ไขปัญหาหนี้สินด้วยการขอรับวงเงินสินเชื่อ 250 ล้านดอลลาร์ จาก FTX ด้วยความหวังที่ว่าจะอยู่รอดจากภาวะตกต่ำของตลาด Crypto ไปได้
แมวเก้าชีวิตที่ถึงคราวดับสูญ
ล่าสุด ผู้ให้บริการกู้ยืมเงินคริปโตรายใหญ่สัญชาติมะกันอย่าง BlockFi ได้ออกมาประกาศเมื่อช่วงเที่ยงคืนวันที่ 29 พ.ย. (ตามเวลาประเทศไทย) ว่าพวกเขาได้ยื่นล้มละลายอย่างสมัครใจ และพร้อมที่เข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ ตามบทบัญญัติที่ 11 (Chapter11)
ตามแถลงการณ์ของ BlockFi ระบุว่า ณ ปัจจุบันนี้ ทางองค์กรมีเงินทั้งหมดในมืออยู่ที่ 256.9 ล้านเหรียญสหรัฐ และทาง BlockFi ก็มีความประสงค์เป็นอย่างยิ่งที่จะยังคง “จ่ายค่าจ้างพนักงาน และดูแลผลประโยชน์พนักงานต่อไปไม่หยุดพัก”
ทั้งนี้ ทาง BlockFi มองว่าการกระทำข้างต้นถือเป็นการกระทำเพื่อให้แน่ใจว่า BlockFi ยังพอกระท่อนกระแท่นเดินต่อไปได้โดยยังคงมีสิ่งที่มีความสำคัญต่อธุรกิจอยู่ในมือนั่นเอง
นับตั้งแต่ที่ [BlockFi] หยุดให้ผู้ใช้ถอนเงินชั่วคราว ทางทีมงานของเราต่างลงไปสำรวจทางเลือกทั้งหมดที่มีให้เรา และยังคงมุ่งเน้นที่เป้าหมายหลักของเราในการทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าของเราการเข้ายื่นล้มละลาย และดำเนินการตามบทบัญญัติที่ 11 จะช่วยให้ BlockFi รักษาเสถียรภาพของธุรกิจ และมอบโอกาสให้ BlockFi บรรลุแผนการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ที่เพิ่มมูลค่าสูงสุดสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด รวมถึงลูกค้าที่มีค่าของเราด้วย
บริษัทยังทวีตอีกว่า “ในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับโครงสร้างใหม่ เราจะมุ่งเน้นไปที่การกู้คืนภาระผูกพันทั้งหมดที่คู่สัญญาเป็นหนี้ BlockFi รวมถึง FTX”
โตเร็ว ก็ร่วงเร็ว
BlockFi รวมไปถึงบริษัทสายเลือดคริปโตอีกว่า ‘ค่อน’ โลก ถือว่าเป็นกลุ่มบริษัทที่เข้าสูตร ‘โตมากเกินในช่วงตลาดกระทิง’ โดยหากอ้างตามทวีตของ CEO อย่าง Zac Prince ทาง BlockFi ได้เติบโตขึ้นจนสามารถรองรับพนังงานกว่า 850 คนในช่วงกลางเดือนมิถุนายนจากประมาณ 150 คนในช่วงปลายปี 2020
ทั้งนี้ เจ้าอาการ ‘โตเกิน’ ที่ว่า หากให้อธิบายง่าย ๆ ก็คือ การที่บริษัทประสบความสำเร็จมาก ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ และได้แห่ขยายบริษัทในมือแบบ ‘ไม่สนสี่สนแปด’ พอตลาดหมีบุกปุ๊ป พายุอันแสนหนาวเหน็บของ Crypto Winter พัดถล่มปั๊ป บริษัทก็เจ๊งสิครับ
เจ๊งไปเยอะด้วยนะรอบนี้!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว