General

แก๊งแฮ็กเกอร์สุดฉาวโดนริบคริปโตมูลค่ากว่า 1.3 ล้าน USD

Xtrwznnhksw.jpg

Europol และหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมระหว่างประเทศจำนวนมากร่วมบุกทลายรังแก๊งแฮ็กเกอร์สุดฉาวที่ส่ง Ransomware ไปเรียกค่าไถ่มานับครั้งไม่ถ้วน พร้อมทำการยึดทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลเอาไว้ได้

หน่วยงานสหภาพยุโรปเพื่อความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมาย หรือ Europol ซึ่งมีหน้าที่หลักในการสืบราชการลับทางอาญา ปราบองค์กรอาชญากรรม และ การก่อการร้ายระหว่างประเทศ ได้จับมือกับ กองทหารรักษาการณ์แห่งชาติฝรั่งเศส, สำนักงานตำรวจแห่งชาติยูเครน, สำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) และ INTERPOL Cyber ​​Fusion Centre เข้าทลายรังของแก็งแฮ็กเกอร์สุดฉาวที่กบดานอยู่ในยูเครน และสามารถจับกุมสมาชิกแก๊งสองคน พร้อมยึดทรัพย์สินจำนวนมากเอาไว้ได้

แก๊งแฮ็กเกอร์ที่จู่โจมนับครั้งไม่ถ้วน

กลุ่มผู้ก่ออาชญากรรมที่ถูกจับคุมนั้นเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในการโจมตีกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมากในยุโรป และอเมริกาเหนือ โดยอาชญากรเหล่านี้จะใช้ Ransomware ในการจู่โจมเป็นหลักเพื่อเรียกค่าไถ และทำเงินเป็นจำนวนมหาศาลนั่นเอง

ทั้งนี้ทาง Europol ได้เผยข้อมูลว่าอาชญากรทั้งคู่ที่ถูกจับกุมนั้นเป็นที่รู้จักจากการเรียกค่าไถ่ในลักษณะขู่กรรโชก ซึ่งทำเงินให้พวกเขาตั้งแต่ 5 ถึง 70 ล้านยูโร เลยทีเดียว โดยการร่วมมือกันทลายรังในครั้งนี้สามารถนำไปสู่การยึดเงินสดมูลค่า 375,000 ดอลลาร์ การยึดรถหรูสองคันมูลค่า 217,000 ยูโร และการยึดคริปโตเคอเรนซีมูลค่า 1.3 ล้านดอลลาร์

ในรายงานของ Europol ให้รายละเอียดของการจับกุมครั้งดังกล่าวโดยอธิบายว่า

“กลุ่มอาชญากรเหล่านี้เป็นผู้ต้องสงสัยว่าได้ทำการโจมตีกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมากในยุโรป และอเมริกาเหนือตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 เป็นต้นมา ทั้งนี้อาชญากรจะติดตั้งมัลแวร์ และขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจากบริษัทเหล่านี้ก่อนที่จะเข้ารหัสไฟล์ของพวกเขา”

“จากนั้นพวกเขาจะดำเนินการเสนอคีย์ถอดรหัสเพื่อแลกกับค่าไถ่หลายล้านยูโร ทั้งยังขู่ว่าข้อมูลที่พวกเขาขโมยไปจะรั่วไหล และขายทอดตลาดบนเว็บมืดหากทางเหยื่อของพวกเขาไม่ตอบรับการเรียกค่าไถ่”

อันตรายของโลกดิจิทัล

การโจมตีด้วย Ransomware และเรียกร้องค่าไถ่ในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัลไม่ใช่เรื่องแปลกในเศรษฐกิจดิจิทัลขั้นสูงในปัจจุบัน เนื่องจากมันจะสามารถปกปิดตัวตนของเหล่าคนร้ายได้เป็นอย่างดี แถมการเคลื่อนย้ายเงินก็ทำได้โดยง่ายอีกด้วย ทั้งนี้เหตุผลข้างต้น บวกกับสภาวะเศรษฐกิจอันฝืดเคืองก็ได้ทำให้ตัวเลขการโจมตี Ransomware นั้นก็ได้เพิ่มขึ้นสูงอย่างมากในปีที่ผ่านมา

แต่ถึงแม้เรื่องนี้จะซับซ้อนมากเพียงใด เหล่าเจ้าหน้าที่ของ Europol และนานาประเทศก็ไม่ได้ยอมแพ้ในการต่อสู้กับผู้ไม่หวังดีเหล่านี้แม้แต่น้อย ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันในการรับมือเหล่าผู้ไม่หวังดีเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น ทางสหรัฐอเมริกา นั้นเล็งเห็นว่าการคล้อยตามเหล่าแฮ็กเกอร์ และยอมจ่ายค่าไถ่เป็นการทำให้เหล่าผู้โจมตีได้ใจ และได้ห้ามการกระทำดังกล่าวตั้งแต่นั้น ในทางกลับกันทาง Europol ก็ได้คิดค้นโปรแกรมต่อต้านแรนซัมแวร์ที่สามารถช่วยให้องค์กรที่มีความเสี่ยงสามารถป้องกันการโจมตีได้

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC
พบผู้ถือ Memecoin เกินกว่าครึ่ง ไม่ได้รับผลกระทบ จากการปรับตัวของตลาด