เงินหนุน Bitcoin กลับมาติดลบท่ามกลางตลาดหมี
อัตราสนับสนุนเงินทุน หรือ Funding Rate ของ Bitcoin นั้นกลับกลายเป็นมาเป็นลบหลังจากมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 ได้ดิ่งลงอย่างรวดเร็วกว่า 20% แล้วตัวเลขเหล่านี้กำลังบอกอะไรเรากันแน่?
อัตราสนับสนุนเงินทุน หรือ Funding Rate ของ Bitcoin นั้นกลับกลายเป็นมาเป็นลบหลังจากมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 ได้ดิ่งลงอย่างรวดเร็วกว่า 20% แล้วตัวเลขเหล่านี้กำลังบอกอะไรเรากันแน่?
เรียกได้ว่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นแทบจะเป็น “ฝันร้าย” ของเหล่านักลงทุนแทบจะทุก ๆ รายเลยก็ว่าได้ เพราะราคาของ Bitcoin (BTC) นั้นได้ดิ่งลงอย่างรวดเร็วกว่า 20% จนหล่นไปแตะระดับต่ำสุดที่ 42,000 ดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม แม้เหตุการณ์ดังกล่าวในช่วงตลาดหมีครั้งนี้จะเป็นเรื่องร้ายของใครหลาย ๆ คน แต่ทว่า “ฟ้าหลังฝน” ก็มักจะสดใสอยู่เสมอ แล้วเหล่านักวิเคราะห์มองเห็นตัวเลขอะไรจากเหตุการณ์วันแดงเดือดที่ว่านี้บ้าง? วันนี้เรามาหาคำตอบกัน
พอร์ต Long พังยับเยิน
Dylan LeClair นักวิเคราะห์เครือข่ายได้ออกมาระบุว่า การร่วงของราคาบิทคอยน์อย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดนั้นได้ส่งผลอย่างร้ายแรงต่อตลาดฟิวเจอร์ โดยเรียกได้ว่าเป็นการล้างสัญญาฝัง Long มูลค่ามหาศาลกันเลยทีเดียว ซึ่งนั่นได้ทำให้อัตราสนับสนุนเงินทุนของ Bitcoin จากที่บวกอยู่ ก็กลับกลายมาเป็นลบอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของอัตราสนับสนุนเงินทุนของ Bitcoin ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับการล้างพอร์ต Long เท่านั้น เพราะในช่วงเวลาเดียวกันจำนวนสัญญาคงค้าง (Open Interest – OI) ที่เปิดอยู่ซึ่งมีมูลค่ากว่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ ก็กำลังจะปิดตัวลงเช่นเดียวกัน ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงส่งผลต่อการสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“สัญญาคงค้าง 5.1 พันล้านดอลลาร์ (23.4%) ได้ถูกปิดลงแล้ว มันส่งผลให้อัตราสนับสนุนเงินทุนจากบวกปานกลางกลับกลายไปเป็นติดลบอย่างหนัก อย่างไรก็ตามจำนวนเปอร์เซ็นต์ของกำไรขั้นต้นที่ได้รับการสนับสนุนจาก Bitcoin นั้นกลับเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติในระหว่างการที่พอร์ต Long นั้นแตกยับขนาดนี้”
ตลาดหมีจะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่?
การร่วงของราคาครั้งล่าสุดนี้ ได้ทำให้เกิดการชำระบัญชีครั้งใหญ่ในตลาด Bitcoin แถมมันยังถูกจารึกว่าเป็นการ “ล้างพอร์ต” ครั้งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในปี 2021 เลยก็ว่าได้ ซึ่งครั้งแรกเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาของ BTC นั้นลดลง 50% เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เหตุการณ์เบื้องหลัง “พฤษภาทมิฬ” แห่งโลกคริปโตนั้น ก็มาจากการที่การจีนได้เริ่มปราบปรามการทำเหมือง Crypto อย่างจริงจัง และรุนแรงขึ้น แล้วท้ายที่สุดราคาที่วิ่งอยู่ช่วงระดับสูงสุด ณ ขณะนั้นที่ 60,000 ดอลลาร์ ก็หล่นมาทำระดับต่ำสุดที่ 30,000 ดอลลาร์ ในไม่กี่อึดใจ
โดยในความเป็นจริง สถานการณ์ข้างต้นนั้นเลวร้ายถึงขนาดที่ราคา Bitcoin ตกลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (MA) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีนาคม 2020 ซึ่งเจ้าเส้น MA200 ที่ว่านี้ เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่สำคัญที่กำหนดแนวโน้มตลาดทั่วไปเนื่องจากแสดงค่าเฉลี่ยประมาณ 40 สัปดาห์ ของการซื้อขาย
อย่างไรก็ตาม การปรับฐานอย่างรุนแรงเรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติของตลาด Bitcoin เลยก็ว่าได้ โดยหากมองย้อนกลับไปในอดีตเมื่อปี 2017 เราก็จะเห็นว่าตลาดกระทิง Bitcoin มีการปรับฐานอย่างรวดเร็ว และรุนแรงถึงประมาณหกครั้ง โดยราคาร่วงสูงสุดจะอยู่ที่ครั้งละ 38% จากสุดสูงสุดในแต่ละครั้ง
นั่นจึงทำให้เราสรุปได้ว่าการดึงกลับของราคาครั้งใหญ่ ๆ นั้นเป็นบรรทัดฐานในการมาถึงของตลาดกระทิงของ Bitcoin ดังนั้น การปรับฐานครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ อาจจะเป็นสัญญาณการกลับมาของตลาดกระทิงก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่ตลาดจะดำเนินไปในทิศทางใด เวลาเท่านั้นที่จะเป็นตัวพิสูจน์ได้ในที่สุด
Funding Rate คืออะไร?
อัตราสนับสนุนเงินทุน หรือ Funding Rate คือ เครื่องมือควบคุมราคาบนตลาดฟิวเจอร์ให้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของราคาจริง โดยเป็นการจ่ายเงินระหว่างผู้ที่ถือสัญญา Long และ ผู้ที่ถือสัญญา Short ซึ่งจะใช้ส่วนต่างของราคาในตลาดสัญญา Perpetual Futures และ ตลาด Spot เป็นเกณฑ์ ทั้งนี้หาก Funding Rate เป็นบวกจะหมายถึง การที่ผู้ที่เปิด Position Long ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ผู้ที่เปิด Position Short ในทางกลับกันถ้าราคาเป็นลบเหล่าผู้เปิด Short ก็จะต้องจ่างเงินให้ผู้ที่ถือสัญญา Long แทน นั่นเอง
ทั้งนี้หากผู้ลงทุนเข้าใจการมี Funding Rate ในลักษณะบวก และลบ ได้เป็นอย่างดี นั่นก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถเดาทิศทางของราคาที่กำลังจะเกิด และลงุทนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น