มีความเป็นไปได้อย่างมากว่า Bitcoin Bulls นั้นจะยังคงเชื่อมันว่าราคาของ Bitcoin (BTC) จะไปได้ไกลกว่านี้ เพราะถึงแม้ราคาของมันจะขึ้นมาอยู่จุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน พวกเขาก็ยังไม่ยอมเทขาย โดยปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินที่เหล่านักลงทุนเบอร์ใหญ่ถือรวมกันทั้งหมดจะอยู่ที่ 7.54 แสนล้านดอลลาร์
แม้ก่อนหน้านี้สถานการณ์ของสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 อย่าง Bitcoin นั้นจะไม่สู้ดีนัก เพราะได้ประสบกับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ซึ่งราคาของมันร่วงมาเกินกว่าครึ่งหนึ่งจากสุดสูงสุดตลอดกาลในเดือนเมษายน และนั่นก็ทำให้เหล่านักลงทุนเล็กใหญ่ขาดทุนกันทั่วทั้งตลาด แต่ทว่า ณ ขณะนี้เรื่องเศร้าเหล่านั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว
สกุลเงินดิจิทัลอันดับที่ 2 ของตลาดอย่าง Ether กลับมาผงาดอีกครั้งหลังเผชิญช่วงขาลงมาเป็นระยะเวลานาน โดยมูลค่าของมันนั้นก้าวขึ้นเหนือระดับราคา $2,700 เป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ซึ่งการที่ Ethereum โตในครั้งนี้ได้สร้างความอิ่มเอมใจให้กับเหล่าสาวกอย่างมากมาย
แม้เราจะผ่านสัปดาห์ที่แสนเจ็บปวดซึ่งราคาของสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 อย่าง Bitcoin นั้นร่วงแบบน่าใจหาย แต่ทว่านักวิเคราะห์ Bitcoin ชื่อดังอย่าง Willy Woo ได้สังเกตเห็นสัญญาณ และอาการบางอย่างที่บ่งชี้ว่า Bull Run ของ BTC นั้นยังคงไปต่อได้อยู่!
แม้สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านจะยืดเยื้อ แต่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับไม่แสดงบทบาทในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเหมือนในอดีต ขณะที่ Bitcoin กลับพุ่งขึ้นแตะระดับ $108,000 ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของตลาดโลกที่กำลังเปลี่ยนทิศทาง
Ethereum กำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยขยับเข้าใกล้แนวต้านสำคัญที่ $2,500 ท่ามกลางแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนรายใหญ่และสัญญาณบวกจาก Spot ETF ที่สะท้อนถึงความต้องการจากสถาบันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รัฐเท็กซัสกลายเป็นรัฐแรกในสหรัฐฯ ที่ใช้เงินของรัฐลงทุนถือ Bitcoin อย่างเป็นทางการในฐานะสินทรัพย์สำรองระยะยาว
GENIUS Act ซึ่งมีเป้าหมายวางกรอบการกำกับดูแล Stablecoin ในสหรัฐฯ ใกล้ก้าวสู่การเป็นกฎหมาย แม้ยังมีเสียงวิจารณ์ว่าร่างนี้อาจเอื้อผลประโยชน์ให้กับประธานาธิบดี Donald Trump
แม้ราคา Bitcoin จะเข้าใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 111,970 ดอลลาร์อีกครั้ง แต่บรรดานักวิเคราะห์เตือนว่ายังไม่มีปัจจัยพื้นฐานเพียงพอที่จะผลักดันราคาให้ทะลุจุดสูงสุดเดิมได้อย่างมั่นคง ขณะที่นักลงทุนรายใหญ่เริ่มเผชิญทางเลือกระหว่างถือหรือขาย
จำนวน Bitcoin ที่ถือครองโดยกลุ่มวาฬรายใหญ่ลดลงไปแล้วกว่า 40% ตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมา สะท้อนแนวโน้มการขายทำกำไรที่ยังดำเนินอยู่