โฆษณา Bitcoin ปลอมถูกปล่อยมาจากกรุงมอสโก

สำนักข่าวชื่อดังแดนผู้ดีอย่าง The Guardian ได้รายงานถึงโฆษณาปลอมชิ้นมโหฬารเกี่ยวกับ Bitcoin (BTC) ที่นำรูปภาพของคนดังชาวออสเตรเลียมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตหลายต่อหลายคน เช่น Dick Smith และ Andrew Forrest ผู้เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ Organized ระดับโลก

ซึ่งเนื้อหาภายในโฆษณาสุดฉ้อฉลตัวนี้เป็นการโปรโมทแผนการลงทุนปลอมไปสู่สาธารณชนในวงกว้าง โดยโฆษณาดังกล่าวถูกกกล่าวอ้างว่ามีต้นตอมาจากประเทศรัสเซีย เนื่องจากค้นพบการระบุที่อยู่อย่างน้อยห้าแห่งในกรุงมอสโกบนโฆษณา

โฆษณาตัวนี้มีมานานแล้ว!

แท้ที่จริงแล้วโฆษณา Bitcoin จอมปลอมชิ้นนี้นั้นปรากฎอยู่บนเว็บไซต์ข่าวมาตั้งแต่ปี 2018 โดยโฆษณาดังกล่าว มีการเขียนบทความปลอม และนำรูปภาพของคนดังมาใช้โดยที่ไม่ได้รับการอนุญาต เพื่อป่าวประกาศถึงแผนการลงทุน Crypto ปลอม รวมถึงการหลอกลวงเพื่อขโมยเงิน ซึ่ง The Guardian ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในเหยื่อของแผนการต้มตุ๋นนี้ เนื่องจากทางสำนักข่าวบังเอิญเข้าใช้งานโฆษณาหลอกลวงเหล่านี้ด้วยเช่นกัน

และจากการรายงานล่าสุดของ The Guardian Australia ได้ระบุว่า พวกเขานั้นพบรายชื่อบุคคล 5 รายที่ลงทะเบียนกับเว็บไซต์ปลอมหลายร้อยเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงนี้ “ซึ่งรายชื่อทั้งหมดนี้ระบุถึงที่อยู่ในใจกลางกรุงมอสโก” และทางสำนักข่าวยังกล่าวต่อว่า Google ก็ได้ทำการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน เนื่องจาก Email addresses ทั้งสองบัญชีนั้นเชื่อมโยงกับบัญชี Gmail

การฉ้อฉลระดับโลก

The Guardian ตั้งข้อสังเกตว่ามีข้อมูลอื่น ๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าแผนการหลอกลวงนี่อาจเชื่อมโยงไปยังประเทศยูเครนด้วย เมื่อกล่าวถึงรายงานในเดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรายงานจากโครงการ Organized Crime and Corruption Reporting หรือ OCCRP โดยเอกสารข้างต้นได้กล่าวถึงการตรวจสอบของ OCCRP ว่าได้พบ Call center ที่มีแผนการหลอกลวง Bitcoin ที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งดำเนินการจากเมืองเคียฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศยูเครน

นอกจากนี้ในเดือนมีนาคม 2020 ยังมีผู้แจ้งเบาะแสที่เปิดเผยว่ามีการหลอกลวง Crypto ที่ดำเนินงานจากยูเครน ซึ่งโครงการนั้นได้ต้มตุ๋นพนักงานจำนวน 200 คน โดยส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่นักลงทุนจากออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร โดยโปรโมทบทความปลอม ที่ใช้รูปของคนดังเช่น Gordon Ramsay, Hugh Jackman และ Martin Lewis มีรายงานว่าโครงการต้มตุ๋นนี้มีมูลค่าสุทธิ 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019 และนั่นอาจจะเป็นกุญแจเชื่อมโยงของแก๊งหลอกลวงทั้งสองประเทศก็เป็นได้