กระเป๋ายุค Genesis ของ Ethereum ตื่นตัวหลังหลับใหลเกือบ 10 ปี โอนเหรียญมูลค่าเกือบ 3 ล้านดอลลาร์ ดันความสนใจตลาดคริปโตกลับมาอีกครั้ง
กระเป๋าเงิน Ethereum ยุคแรก ที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมานานเกือบ 10 ปี กลับมาโอนเหรียญอีกครั้ง รวมมูลค่าเกือบ 3 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางกระแสความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อกระเป๋าเงินวาฬ

กระเป๋าเงิน Ethereum ยุคแรก ที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมานานเกือบ 10 ปี กลับมาโอนเหรียญอีกครั้ง รวมมูลค่าเกือบ 3 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางกระแสความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อกระเป๋าเงินวาฬ
ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อกระเป๋าเงิน Ethereum ยุคบุกเบิกสองใบที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมาเกือบ 10 ปี ได้ทำธุรกรรมอีกครั้งในวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีการโอน Ether รวม 1,140 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 2.9 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางกระแสความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อกระเป๋าเงินที่ถือครองเหรียญจำนวนมากมาตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของระบบ
ตื่นขึ้นจากยุค "Frontier" จุดเริ่มต้นของ Ethereum
กระเป๋าเงินทั้งสองใบซึ่งขึ้นต้นด้วย “0x27” และ “0x7f” ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2015 ซึ่งตรงกับวันที่เครือข่าย Ethereum เปิดตัวบนเครือข่ายหลัก (Mainnet) ภายใต้เฟสที่เรียกว่า “Frontier” โดยข้อมูลบน Etherscan ระบุว่า ทั้งสองกระเป๋าได้รับเหรียญจากธุรกรรมประเภท “GENESIS” ซึ่งหมายความว่าเป็นการแจกจ่าย Ether ในรอบแรกสุดของระบบ
นับตั้งแต่วันนั้น ราคา ETH ได้ปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 89,450% ตามข้อมูลจาก TradingView
กระเป๋าวาฬยุคแรก ๆ เริ่มขยับตัวอีกครั้ง
ปรากฏการณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่นักวิเคราะห์เริ่มสังเกตเห็นว่า กระเป๋าเงินที่ถือครองคริปโตจำนวนมากตั้งแต่ยุคแรก ๆ เริ่มมีความเคลื่อนไหวมากขึ้น โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีการโอน Bitcoin มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จากกระเป๋าที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมากว่า 14 ปี
ในปี 2024 ยังมีการเคลื่อนไหวของกระเป๋า Bitcoin ยุค Satoshi ที่มีการโอนเหรียญรวมมูลค่าเกือบ 44 ล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่า “เหรียญที่หลับอยู่” กำลังตื่นตัวอีกครั้งในช่วงเวลาที่ตลาดเริ่มกลับมาฟื้นตัว
Ethereum กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สู่เครือข่ายที่เสถียรและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ในด้านของพัฒนาการของ Ethereum ระบบยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง โดยการอัปเกรดครั้งล่าสุดชื่อ “Pectra” ซึ่งเริ่มใช้งานเมื่อ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เพิ่มฟีเจอร์ Smart Accounts, ปรับปรุงความสามารถในการรองรับการใช้งาน และเพิ่มเพดานสำหรับการ Stake เหรียญ โดยภายหลังการอัปเกรด ราคาของ ETH ปรับตัวขึ้นจาก $1,812 ไปแตะระดับ $2,540
ขณะเดียวกัน Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum และ Toni Wahrstätter นักวิจัยของระบบ ยังได้เสนอแนวคิดใหม่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเสนอให้กำหนดเพดานค่าธรรมเนียมแก๊ส (Gas Cap) สำหรับแต่ละธุรกรรมไว้ที่ 16.77 ล้านหน่วย เพื่อเพิ่มความเสถียร ความปลอดภัย และทำให้ต้นทุนของการทำธุรกรรมมีความแน่นอนมากยิ่งขึ้น
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว