Spot Bitcoin ETF ดึงเงินลงทุนกลับเข้ามา $238 ล้าน ขณะที่กองทุน Ether พลิกกลับรับเงินไหลเข้า สิ้นสุดการไหลออกติดต่อกัน 8 วัน และ Solana ETF เดินหน้าทำสถิติรับเงินไหลเข้าต่อเนื่องเป็นวันที่ 10
แม้กองทุน Bitcoin และ Ether ETF จะเผชิญกับการไหลออกมากถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่แรงซื้อสะสมจากนักลงทุนรายใหญ่ และกระแสเงินไหลเข้าสู่กองทุน Altcoin ยังช่วยพยุงความเชื่อมั่นของตลาดคริปโตโดยรวมไม่ให้ทรุดตัวลงต่อ
รายงานจาก Schwab Asset Management ระบุว่า นักลงทุน ETF กว่า 45% มีแผนลงทุนในกองทุนคริปโต เทียบเท่าผู้ที่ตั้งใจลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ชี้ “น่าตกใจ” ที่คริปโตได้รับความสนใจในระดับเดียวกับตลาดตราสารหนี้ที่ใหญ่กว่าหลายเท่า
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันศุกร์นี้อาจกลายเป็นสัญญาณลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก รวมถึง Bitcoin ซึ่งเคยร่วงกว่า 20–30% ทุกครั้งหลัง BoJ ขึ้นดอกเบี้ยในรอบที่ผ่านมา

XRP ETF ดูดซับเหรียญกว่า 506 ล้านโทเค็นภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน หนุนแนวโน้มราคาขาขึ้น และเพิ่มโอกาสให้ XRP ทำจุดสูงสุดใหม่ภายในปี 2026

Eric Balchunas ผู้เชี่ยวชาญด้านกองทุน ETF ระบุว่า Bitcoin ที่ยืนหยัดมาได้นานถึง 17 ปี และการฟื้นตัวจากวิกฤตหลายครั้ง ทำให้การเปรียบเทียบกับภาวะฟองสบู่ทิวลิปนั้นล้าสมัยไปแล้ว แม้จะมีการวิจารณ์อย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

นักวิเคราะห์จาก Bitfinex ชี้ถึงปัจจัยสำคัญหลายประการ เช่น สภาวะ "การล้างสัญญาเก็งกำไรขั้นรุนแรง" และตัวชี้วัดอื่น ๆ ที่สามารถช่วยให้ Bitcoin สามารถรักษาฐานราคาไว้ได้และมีศักยภาพในการปรับตัวสูงขึ้นต่อไป

รัฐบาลท้องถิ่นของเท็กซัสเข้าถือ Spot Bitcoin ETF และจัดสรรอีก 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับการเข้าซื้อ Bitcoin โดยตรงผ่านการเก็บรักษาด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับรัฐของสหรัฐฯ ที่กำลังเพิ่มขึ้น


ราชอาณาจักรภูฏานจะใช้ Bitcoin มูลค่ากว่า 875 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ Gelephu Mindfulness City ซึ่งตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางใหม่ของนวัตกรรม เทคโนโลยี และการเงินสีเขียวในเอเชียใต้

แม้โอกาสที่ Bitcoin จะปรับฐานลงสู่ 70,000 ดอลลาร์จะเพิ่มขึ้น แต่นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า การปรับฐานรอบนี้เป็นเพียงจังหวะรีเซ็ตที่จะปูทางสู่ขาขึ้นรอบใหม่ มากกว่าจะเป็นจุดเริ่มของตลาดขาลง

สำนักงานคุ้มครองเงินฝากของสหรัฐฯ เผยกรอบข้อเสนอสำหรับธนาคารที่ต้องการขออนุมัติออก Stablecoin ชำระเงิน ถือเป็นก้าวสำคัญของการบังคับใช้กฎหมายคริปโตฉบับประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ

Nasdaq ให้เวลาบริษัท 180 วันจนถึงเดือนมิถุนายน 2026 เพื่อให้ราคาหุ้นกลับมาสูงกว่า 1 ดอลลาร์ มิฉะนั้นอาจถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่หุ้นร่วงกว่า 98% จากจุดสูงสุดหลังควบรวมกับ Nakamoto Holdings