วาฬเทขายบิทคอยน์ 5.5 พันล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์จาก Arcane Research ได้พบเจอสัญญาณการเทขาย BTC จำนวนมากจากสถาบันต่าง ๆ ซึ่งนี่อาจจะเป็น ‘คลื่นใต้น้ำ’ ที่อยู่เบื้องหลังราคา Bitcoin ดิ่งลงเหวในเดือนพฤษภาคม
นักวิเคราะห์จาก Arcane Research ได้พบเจอสัญญาณการเทขาย BTC จำนวนมากจากสถาบันต่าง ๆ ซึ่งนี่อาจจะเป็น ‘คลื่นใต้น้ำ’ ที่อยู่เบื้องหลังราคา Bitcoin ดิ่งลงเหวในเดือนพฤษภาคม
Vetle Lunde นักวิเคราะห์ระดับหัวกะทิของ Arcane Research ได้ออกมาให้รายละเอียดถึง ‘คลื่นใต้น้ำ’ ที่เราแทบจะมองไม่เห็น แต่ส่งผลให้ตลาดสั่นคลอนอย่างหนัก ซึ่งเกิดขึ้นจากที่เหล่านักลงทุนสถาบัน หรือวาฬเทขายบิทคอยน์จำนวนมาก
ทั้งนี้ Lunde ได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า “ทุกอย่างเริ่มต้นที่โด ควอน (Do Kwon)”
วาฬเทขายบิทคอยน์ ‘หนีตาย’
ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม มากถึง Bitcoin (BTC) จำนวนมากถึง 236,237 ซึ่งตีเป็นมูลค่า 5.452 พันล้านดอลลาร์ ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ ได้ถูกขายโดย “นักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่” ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการบังคับขาย
*การบังคับขาย (Forced Sell) คือการที่บริษัทที่เป็นเจ้าหนี้ขายหลักทรัพย์ในบัญชีของลูกค้าที่เป็นหนี้ เพื่อเป็นการลดภาระหนี้ของลูกค้ารายนั้น
ทั้งนี้ โดยปกติแล้วบริษัทหลักทรัพย์จะทำการบังคับขายก็ต่อเมื่อหลักประกันหนี้ของลูกค้ามีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ที่ซื้อไว้แล้ว*
Lunde ยังได้กล่าวผ่านกระทู้ Twitter ส่วนตัวของเขาอีกด้วยว่า “เรื่องทุกอย่างเริ่มต้นที่โด ควอน”
ตลาด BTC จะไปต่อได้ไหม?
แม้ว่าตลาด Crypto จะเผชิญกับสภาวะกดดันจากแรงขายจำนวนมากจากนักลงทุนสถาบันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ตลาด Bitcoin ยังคงมีความยืดหยุ่นอย่างน่าทึ่ง
โดยหากมองถึงปริมาณการซื้อขายเหรียญ BTC จะพบว่าตัวเลขนี้ยังคงสูงขึ้นตลอด ซึ่งเมื่อนำไปเทียบกับจุดสูงสุดของตลาดกระทิงในปี 2017 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2017 ปริมาณการซื้อขายรายวันของ Bitcoin อยู่ที่ 12 พันล้านดอลลาร์ในขณะที่ปริมาณรายวันในเดือนกรกฎาคม 2022 ที่เป็นตลาดหมีกลับอยู่ที่ 20 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่า นั่นเอง
Yongjin Kim ซึ่งเป็น CEO ของ Presto Labs บริษัทผู้ดูแลสภาพคล่องในสิงคโปร์ เห็นด้วยกับ Lunde ว่าความพังจาก 3AC และบริษัทอื่น ๆ ทำให้ราคาลดลงอย่างมีนัยสำคัญในเดือนมิถุนายน แต่เขาก็ยังเชื่อว่าราคาของ BTC จะกลับมาเป็น $30,000 ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า
Kim กล่าวเสริมว่า จะต้องใช้เวลาสำหรับนักลงทุนรายย่อยในการฟื้นความเชื่อมั่นใน Crypto ให้กลับคืนมา เพราะพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมาระยะใหญ่ แต่อย่างไรก็ดี การลงทุนของสถาบันจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งแน่นอน
“ผมคิดว่าหัวใจของนักลงทุนรายย่อยมันพังไปหมดแล้ว ดังนั้นต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่เราจะฟื้นความเชื่อมั่นในตลาด อย่างไรก็ดีมันจะมีการกลับตัวภายในสิ้นปีนี้แน่นอน”
