General

บริษัทท่องเที่ยวโดนแฮ็กเกอร์รีดค่าไถ่เป็นเงินกว่า 140 ล้านบาท

Photo 1553729459 Efe14ef6055d.jpg

บริษัทด้านการท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกายอมจ่ายเงินมูลค่ากว่า 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐในรูปแบบ Bitcoin เพื่อซื้อระบบคอมพิวเตอร์ของพวกเขาคืนจากแฮ็กเกอร์

CWT บริษัทด้านการจัดการการท่องเที่ยวในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จ่ายเงินค่าไถ่ในรูปแบบ Bitcoin กว่า 4.5 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐให้แก่แฮ็กเกอร์ผู้ที่ได้ทำการเจาะระบบและขโมยไฟล์สำคัญของทางองค์กรไป

CWT นั้นถือเป็นบริษัทมีผู้ใช้บริการทั่วโลกและเป็นบริษัทด้านการท่องเที่ยวยักษ์ใหญ่ลำดับที่ 5 แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัทนั้นมีรายรับต่อปีประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นมูลค่ามากกว่าหนึ่งในสามของบริษัทบนดัชนีตลาดหุ้นอย่าง S&P 500

ความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว

แฮ็กเกอร์ได้ทำการลักลอบเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของทางบริษัท CWT โดยได้ขโมยไฟล์สำคัญของทางองค์กรไป ทั้งยังทำการปิดระบบคอมพิวเตอร์ดังกล่าวให้เป็น Offline ทั้งหมด เนื่องจากต้องการเรียกค่าไถ่จากทางบริษัท ซึ่งผู้โจมตีได้ใช้ Ransomware ที่เรียกว่า Ragnar Locker เข้ารหัสระบบของบริษัทไว้และจะข้อมูลทั้งหมดขององค์กรจะถูกแสดงผลเป็นไฟล์คอมพิวเตอร์ที่ไม่สามารถใช้งานได้จนกว่าองค์กรที่ตกเป็นเหยื่อจะทำการจ่ายเงินค่าไถ่เพื่อให้สามารถทำการกู้คืนได้

ทาง CWT ออกมายืนยันว่าเกิดการโจมตีดังกล่าวจริง แต่ก็ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อรายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยทางบริษัทได้กล่าวว่ากำลังจะปิดระบบไอทีทั้งหมดชั่วคราวเพื่อทำการวางมาตรการป้องกันใหม่ทั้งหมดหลังจากได้รับความเสียหายจากการละเมิดความมั่นคงปลอดภัยทางโลกไซเบอร์ (Cyber-Security Breach) ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

บริษัทหมดหนทางอย่างแท้จริง

หลังจากเกิดการแฮ็กบนระบบคอมพิวเตอร์ ทางแฮ็กเกอร์ได้ทิ้ง Ransomware Note เอาไว้ ซึ่งกล่าวว่าพวกเขาได้ทำการขโมยไฟล์ขนาด 2 Terabyte ประกอบไปด้วย เอกสารด้านความปลอดภัย, รายงานด้านการเงิน และข้อมูลส่วนตัวของพนักงานในบริษัท เช่น ข้อมูลเงินเดือน และ Email Address

ในช่วงแรกแฮ็กเกอร์ต้องการเรียกค่าไถ่จำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการกู้ไฟล์ของทางบริษัทและลบข้อมูลที่ถูกขโมยไปทั้งหมดออกไป

ตัวแทนบริษัท CWT ที่มีส่วนร่วมในการเจรจาครั้งนี้กล่าวว่า พวกเขาทำหน้าที่ในนามของหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท ตัวแทนคนดังกล่าวยังระบุว่าทางบริษัทได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงจากการระบาดของ Coronavirus และตกลงที่จะจ่ายเงิน 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐในรูปแบบการทำธุรกรรม Bitcoin บนบัญชีแยกประเภทสาธารณะที่เป็น Online Walletซึ่งถูกควยคุมโดยแฮ็กเกอร์ที่ได้รับเงินค่าไถ่ตามที่ได้มีการตกลงกันเป็นจำนวน 414 Bitcoin

Ransomware ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง

การโจมตีของ Ransomware นั้งมีอัตราเพิ่มขึ้นสูงมากและยังคงไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างใด ซึ่งได้กลายเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อธุรกิจ หรือองค์กรเอกชนทั้งหลาย การโจมตีดังกล่าวเป็นที่ทราบกันดีว่ามีค่าใช้จ่ายเป็นหลักหลายพันล้านดอลลาร์ในทุก ๆ ปี ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการกู้ระบบคืน หรือเป็นการเรียกค่าไถ่

ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์แนะนำให้ทางสาธารณะชนรักษาความปลอดภัยด้วยการสำรองข้อมูลสำรอง และหยุดจ่ายเงินค่าไถ่แก่กลุ่มผู้ไม่หวังดีเหล่านี้ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวที่ส่งเสริมการโจมตีของอาชญากรต่อไปโดยไม่สามารถการันตีได้ว่าไฟล์ที่ถูกเข้ารหัสจะถูกกู้คืนกลับมาได้

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC