การที่มูลค่าของ Bitcoin (BTC) นั้นพุ่งทยานขึ้นสู่ ATH ระดับใหม่ที่ 66,900 ดอลลาร์ในวันที่ 20 ตุลาคม ได้สร้างความเชื่อมั่นอย่างมหาศาลแก่เหล่านักลงทุนไม่ว่าจะเป็นรายเล็ก หรือรายใหญ่ โดยพวกเขาได้หันกลับมาสะสมคริปโทอันดับ 1 เข้าในกระเป๋าอีกครั้ง
เหล่านักขุด Ether (ETH) ทั้งหลายไม่มีความเต็มใจที่จะขายสินทรัพย์ ETH ของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย เนื่องด้วยความคาดหวังว่าราคาของมันจะเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง
แม้สถานการณ์ของ Bitcoin (BTC) นั้นจะไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะในเดือนที่แล้ว แต่ทว่าสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ภายใต้ตลาดสีแดงในเดือนก่อนก็คือการเข้ามาของนักลงทุนสถาบันจำนวนมาก โดยบริษัทมหาชนเหล่านี้ครอบครอง Bitcoin รวมกันราว ๆ 200,000 BTC
หลังจาก Bitcoin (BTC) แตะระดับสูงสุดตลอดกาลด้วยราคาที่มากกว่า 61,000 ดอลลาร์ หลังจากนั้น Bitcoin ก็ย่อลงมาครั้งใหญ่แบบไม่ให้ทันตั้งตัว ซึ่งแม้แต่เหล่าวาฬหลายตัวก็เทขายออกไป แล้วสิ่งนี้กำลังจะบอกอะไรเรากันแน่?
นักลงทุนรายใหญ่ (Whale) เทขายเหรียญกว่า 9,000 BTC ชี้เหตุเพราะนักลงทุนรายย่อยเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด
นักวิเคราะห์จาก Bitfinex ชี้ถึงปัจจัยสำคัญหลายประการ เช่น สภาวะ "การล้างสัญญาเก็งกำไรขั้นรุนแรง" และตัวชี้วัดอื่น ๆ ที่สามารถช่วยให้ Bitcoin สามารถรักษาฐานราคาไว้ได้และมีศักยภาพในการปรับตัวสูงขึ้นต่อไป
รัฐบาลท้องถิ่นของเท็กซัสเข้าถือ Spot Bitcoin ETF และจัดสรรอีก 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับการเข้าซื้อ Bitcoin โดยตรงผ่านการเก็บรักษาด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับรัฐของสหรัฐฯ ที่กำลังเพิ่มขึ้น
NYSE Arca อนุมัติการจดทะเบียนกองทุน Dogecoin และ XRP ETF ของ Grayscale เปิดซื้อขายอย่างเป็นทางการวันนี้
นักวิเคราะห์จาก Bitfinex เตือนว่าความไม่แน่นอนทางนโยบายการเงินของสหรัฐอาจทำให้ Bitcoin เข้าสู่ช่วงพักฐานมากกว่าปรับตัวขึ้น ขณะที่นักเทรดบางรายยังเชื่อว่าพฤศจิกายนจะเป็นเดือนที่ดีของ Bitcoin ตามสถิติ
Galaxy Research เตือนว่า บริษัทที่ถือครอง Bitcoin ในงบดุล กำลังเข้าสู่ “ช่วงเอาตัวรอด” หลังโมเดลธุรกิจที่เคยรุ่งเรืองเริ่มพังทลาย เมื่อราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และการใช้ Leverage กลายเป็นความเสี่ยงขาลง
3 ข้อมูลจาก Binance บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพคล่องและพฤติกรรมการเทรดของยนักลงทุนที่อาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางราคาของตลาดในระยะถัดไป
