นักลงทุนเทขาย Bitcoin หลังจากถือไว้นานถึง 2 ปี
นักลงทุนรายใหญ่ (Whale) เทขายเหรียญกว่า 9,000 BTC ชี้เหตุเพราะนักลงทุนรายย่อยเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด

นักลงทุนรายใหญ่ (Whale) เทขายเหรียญกว่า 9,000 BTC ชี้เหตุเพราะนักลงทุนรายย่อยเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด
เหล่านักลงทุนรายใหญ่เริ่มเคลื่อนไหว
ในช่วงที่ราคา bitcoin วิ่งเหนือระดับที่ 12,000 ดอลลาร์ไม่นานในช่วงที่ผ่านมาได้ปรากฏว่ามีนักลงทุนรายใหญ่หลายราย (Whale) เริ่มที่จะเคลื่อนไหวโยกย้ายสินทรัพย์ของพวกเขาแล้ว โดยล่าสุดนั้นได้มีนักลงทุนรายหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นนักลงทุนอิสระได้เทขายเหรียญ Bitcoin จำนวนกว่า 9,000 เหรียญเพื่อทำกำไรหลังจากที่ได้มีการถือเหรียญจำนวนดังกล่าวไว้มากว่า 22 เดือนหรือราวๆสองปี
เมื่อพิจารณาข้อมูลที่ได้จาก Whalemap นั้นแสดงให้เห็นว่าเหรียญปริมาณดังกล่าวนั้นมีการเริ่มสะสมไว้ตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2018 โดยที่การเริ่มต้นของการถือเหรียญนั้นเห็นได้ชัดเจนบนกราฟด้านล่าง โดยในวงกลมใหญ่วงแรกนั้นแสดงถึงการเรื่มรวบรวมเหรียญในครั้งแรก

สิ่งที่น่าสนใจคือการตัดสินใจของนักลงทุนรายดังกล่าว เนื่องจากในช่วงสองปีที่ผ่านมานั้นตลาดสกุลเงินคริปโตโดยเฉพาะ Bitcoin นั้นได้ผ่านช่วงที่ย่ำแย่มาหลายหลายครั้ง โดยได้ปรากฏช่วงที่เป็นการเก็งกำไรอย่างชัดเจนทั้งหมดสองช่วงซึ่งนักลงทุนรายดังกล่าวก็ได้อดทนจนผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ แต่กลับเลือกช่วงเวลาในปัจจุบันเพื่อที่จะเทขายเหรียญในระดับราคาล่าสุดนี้
This whale is a legend.
— Byzantine General (@ByzGeneral) August 23, 2020
See that big bubble around 6k in 2018?
That's almost 9k BTC that was accumulated there.
He finally took profit, after 2 years and 2 major capitulation events. pic.twitter.com/JXhlAxmIlo
หรือจะเป็นสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาด?
ในช่วงราคาระหว่าง 12,000 ดอลลาร์นั้นไม่ใช่มีเพียงแค่นักลงทุนรายนี้รายเดียวที่เริ่มตื่นตัวกับขาขึ้นของตลาด แต่นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่หลายรายก็ได้เริ่มมีการเคลื่อนไหว ซึ่งกรณีอาจมีที่มาจากการที่ระดับราคาในปัจจุบันนั้นเป็นจุดเท่าทุนหรือจุดที่นักลงทุนรายใหญ่เหล่านี้สามารถที่จะทำกำไรได้แล้วนั่นเอง
โดยปกติแล้วการเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดนั้นจะเป็นการส่งสัญญาณที่สำคัญให้แก่นักลงทุนรายอื่นๆ อย่างเช่นการที่ปริมาณการซื้อขายรายวันนั้นสร้างกระแสสภาพคล่องในตลาดคริปโตมากพอที่จะให้เหล่านักลงทุนรายใหญ่เคลื่อนย้ายหรือเทขายเหรียญของพวกเขาออกมาแล้วก็เป็นได้
หรืออีกนัยหนึ่งคือการที่เหล่านักลงทุนรายใหญ่ได้พิจารณาการเปลี่ยนแปลงราคาและทิศทางการเติบโตในอนาคตแล้วเห็นว่ามูลค่าของสินทรัพย์นี้ไม่อาจที่จะเพิ่มสูงไปกว่านี้ได้ในระยะสั้น ๆ แล้ว ซึ่งหมายความว่าระดับราคาในปัจจุบันนั้นได้สร้างกรอบราคาสูงสุดที่ยากจะทำลายลงได้ ทั้งยังหมายความว่าตลาดได้กลับตัวลงแล้วอีกด้วยนั่นเอง
$BTC Market remains awkwardly spot driven for now
— //Litecoin ?ack ? (@BTC_JackSparrow) August 23, 2020
Market remains relatively high on-chain dominance
Price expansion is therefore imminent again - direction unclear but low derivatives vs spot and spot exchange vs onchain dominance indicates we have not seen an irrational top pic.twitter.com/9k72gEgRdY
สัญญาณจากการเทขายครั้งนี้
การเทขายเหรียญในปัจจุบันนั้นเป็นไปได้อย่างมากที่จะเป็นกรณีแรก เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายเหรียญในตลาดปกติ (Spot Market) ของนักลงทุนรายย่อย (Retail Investor) นั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 นี้ อีกทั้งเมื่อพิจาณาตลาดที่เกี่ยวของกับสกุลคริปโตทั้งหมดนั้นยังไม่พบว่าได้มีการก่อตัวของกรอบราคาสูงสุดแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม อนาคตอันใกล้นี้เราอาจคาดการณ์ได้ว่าราคา Bitcoin นั้นอาจจะลดระดับราคาลงมาต่ำสุดได้ถึง 10,000 ดอลลาร์หากราคานั้นร่วงลงต่ำกว่าแนวต้านสำคัญที่ 11,450 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามราคานั้นอาจจะพุ่งสูงขึ้นไปแตะระดับที่ 12,000 ดอลลาร์หรือมากกว่าได้หากราคายังคงอยู่ในกรอบ 11,450 ถึง 11,500ได้
$BTC #BITCOIN
— Crypto Michaël (@CryptoMichNL) August 23, 2020
Pretty easy going here as there's a rejection at $11,600.
If we hold the $11,450-11,500 area I think we'll have a breakout towards $12,000 in the coming week.
Losing the green zone and I'm targeting $10,700 or even $10,000. pic.twitter.com/icCCUIZpwk