ดัชนี Crypto Fear & Greed ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่นของสภาพตลาดคริปโต ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าสองปี หลัง Bitcoin ดิ่งลงต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์
หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Swyftx เตือนนักลงทุนว่าไม่ควรเดิมพันทั้งหมดในการปรับฐานระยะสั้น แม้จะมีสัญญาณเชิงบวกที่อาจผลักดันให้ Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในเดือนมีนาคมและหลังจากนั้น
กองทุน Spot ETF Bitcoin ในสหรัฐฯ เผชิญกระแสเงินไหลออกมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุน
นักวิเคราะห์มองว่า หาก Bitcoin สามารถฟื้นตัวกลับไปเหนือระดับ $106,000 ได้ อาจเป็นสัญญาณยืนยันแนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่ อย่างไรก็ตาม ยังมีบางส่วนที่เชื่อว่า BTC อาจร่วงลงแตะ $85,000 ก่อน
นักเทรดเริ่มมีความหวังหลัง SEC รับรองการยื่นขอ Spot XRP ETF ถึง 4 ฉบับ ซึ่งถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจผลักดันราคาให้พุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่
การเคลื่อนไหวของวาฬในตลาด Bitcoin บ่งชี้ว่าราคากำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้ง หลังจากกระแสเงินไหลเข้าจากวาฬไปยังแพลตฟอร์มซื้อขายเริ่มลดลง
ราคาหุ้นของ Metaplanet พุ่งขึ้น 4,800% ในช่วงปีที่ผ่านมา หลังบริษัทเดินหน้าสะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่อง จนได้รับฉายาว่า "MicroStrategy แห่งเอเชีย"
นักวิเคราะห์ Matthew Hyland คาดการณ์ว่า ราคาของ Altcoin อาจไม่กลับไปแตะระดับสูงสุดของเดือนธันวาคมที่ผ่านมาได้ก่อนเดือนเมษายนปีนี้
โอกาสที่ Bitcoin จะปรับตัวลงต่ำกว่า $75,000 ในไตรมาสแรกของปีนี้ยังคงต่ำกว่า 10% แม้ตลาดจะเผชิญความผันผวนเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ตามการวิเคราะห์ของ Sean Dawson จาก Derive
Bitcoin ปรับตัวลดลงแตะ $102,220 ก่อนจะกลับขึ้นมาที่ $105,000 หลังประธานาธิบดี Donald Trump ลงนามคำสั่งพิเศษจัดตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมวางแนวทางสร้างคลังสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งชาติ ท่ามกลางความคาดหวังของนักลงทุนที่ผิดหวังจากการขาดนโยบายเกี่ยวกับทุนสำรอง Bitcoin โดยเฉพาะ
Bitcoin ส่อแววเดินรอยตามเส้นทางการเติบโตของราคาทองคำ เปิดโอกาสให้ราคาอาจพุ่งทะลุไปถึงระดับ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ
Ben Zhou CEO ของ Bybit ยืนยันว่าระบบของแพลตฟอร์มกลับมาทำงานได้ตามปกติ หลังจากเหตุการณ์แฮ็กครั้งประวัติศาสตร์ที่สร้างความเสียหายมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
