แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล Santiment เตือนว่าการที่นักลงทุนรายย่อยแห่ซื้อ Bitcoin ขณะที่วาฬขายออกอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณเตือนเชิงลบ ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายยังเชื่อว่าแรงซื้อจากสถาบันและปัจจัยมหภาคอาจพา BTC ทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้งในปีนี้
หลังจากนักวิเคราะห์อย่าง Tom Lee และ Arthur Hayes เคยมั่นใจว่า Bitcoin จะพุ่งแตะ 250,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2025 ล่าสุด นักวิเคราะห์หลายรายเริ่มปรับมุมมองเป็นขาลง โดยระบุว่าราคาน่าจะไปไม่ถึงแม้แต่ครึ่งของเป้าหมายดังกล่าว ท่ามกลางแรงขายจากผู้ถือระยะยาวและความเชื่อมั่นในตลาดที่เริ่มอ่อนตัวลง
ดัชนี Crypto Fear & Greed ร่วงลงกว่า 21 จุด สู่ระดับ “Extreme Fear” ต่ำสุดในรอบเจ็ดเดือน หลัง Bitcoin ร่วงหลุดแนวรับสำคัญที่ 106,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และกระแสเทขายจากนักลงทุนสถาบัน
Bitcoin กลับมาดึงเม็ดเงินลงทุนกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ Realized Cap แตะระดับสูงสุดใหม่เหนือ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนตลาดอาจยังไม่ฟื้นตัว หากกระแสเงินจาก ETF และบริษัท Strategy ของ Michael Saylor ยังไม่กลับมา
นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ระบุว่า Bitcoin มีโอกาสปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 6–12 เดือนข้างหน้า โดยประเมินว่าอาจมีราคาแตะ 170,000 ดอลลาร์ หากเทียบมูลค่ากับทองคำตามอัตราความผันผวนของราคา

Coinbase เดินหน้าเสริมธุรกิจ Stablecoin หลังรายมีรายได้เพิ่มขึ้นจนคิดเป็นกว่า 20% ของรายได้ทั้งหมดในไตรมาส 3 ขณะอยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้ายเพื่อซื้อกิจการ BVNK บริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐาน Stablecoin มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์

ธนาคารกลางอินโดนีเซีย เดินหน้าออกเหรียญดิจิทัลที่มีพันธบัตรรัฐบาลหนุนหลัง โดยระบุว่าเป็น “Stablecoin แห่งชาติ” ซึ่งจะถูกผนวกเข้ากับสกุลเงินดิจิทัลรูเปียห์ ที่พัฒนาอยู่ในปัจจุบัน


นักวิเคราะห์มหภาค Mel Mattison มองว่าหากราคา Bitcoin พุ่งแตะ 250,000 ดอลลาร์เร็วเกินไป อาจนำไปสู่ “ฟองสบู่แตก” หรือการที่นักลงทุนเร่งขายทำกำไรพร้อมกัน กดให้ราคาทรุดหนักในระยะสั้น

แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล Santiment เตือนว่าการที่นักลงทุนรายย่อยแห่ซื้อ Bitcoin ขณะที่วาฬขายออกอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณเตือนเชิงลบ ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายยังเชื่อว่าแรงซื้อจากสถาบันและปัจจัยมหภาคอาจพา BTC ทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้งในปีนี้

รายงานจาก Schwab Asset Management ระบุว่า นักลงทุน ETF กว่า 45% มีแผนลงทุนในกองทุนคริปโต เทียบเท่าผู้ที่ตั้งใจลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ชี้ “น่าตกใจ” ที่คริปโตได้รับความสนใจในระดับเดียวกับตลาดตราสารหนี้ที่ใหญ่กว่าหลายเท่า

กองทุน Spot Solana ETF ยังคงดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันได้ต่อเนื่องกว่า 400 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์เดียว สะท้อนความต้องการสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย Solana ที่ยังแข็งแรง แต่ราคาของ SOL กลับหลุดแนวโน้มขาขึ้นรายปีและแนวรับสำคัญที่ 155 ดอลลาร์ สร้างความกังวลว่าอาจปรับฐานลงต่อสู่ช่วง 120–100 ดอลลาร์