รัฐนอร์ทดาโคตาประกาศแผนเปิดตัว “Roughrider Coin” เหรียญ Stablecoin ที่มีดอลลาร์หนุนเต็มมูลค่า ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัทชำระเงินรายใหญ่ Fiserv เตรียมเปิดใช้อย่างเป็นทางการในปี 2026 เพื่อยกระดับระบบการเงินภายในรัฐและการชำระเงินข้ามพรมแดน
ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ถูกปรับลดลงกว่า 911,000 ตำแหน่ง จุดกระแสคาดการณ์ FED หั่นดอกเบี้ย ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อ Bitcoin อาจได้แรงหนุนกลับมาพุ่งอีกครั้งในไตรมาส 4 ปีนี้
Mike Novogratz ผู้บริหาร Galaxy Digital ระบุว่าหาก Bitcoin ขึ้นไปแตะ $1 ล้านภายในปี 2026 จะไม่ใช่เรื่องน่ายินดี แต่กลับสะท้อนถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจสหรัฐอย่างรุนแรง
ขณะที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เดินหน้าออกกฎหมายชุดใหญ่ด้านคริปโตในสัปดาห์ที่ถูกขนานนามว่า “Crypto Week” รายงานล่าสุดเผยให้เห็นว่า รัฐในระดับท้องถิ่นอย่าง Arizona, Texas และ Utah กำลังกลายเป็นผู้นำสำคัญในการผลักดันนโยบายบล็อกเชนและคริปโตภายในประเทศ
แม้ JD Vance รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเปิดเผยว่าถือครอง Bitcoin มูลค่าสูงสุดถึง 500,001 ดอลลาร์เมื่อเดือนสิงหาคม 2024 แต่ในช่วงที่ผ่านมา เขากลับปล่อยให้ Donald Trump เป็นผู้เดินหน้านโยบายคริปโตแทบฝ่ายเดียวภายในทำเนียบขาว
นักวิเคราะห์จาก Bitfinex เตือนว่าความไม่แน่นอนทางนโยบายการเงินของสหรัฐอาจทำให้ Bitcoin เข้าสู่ช่วงพักฐานมากกว่าปรับตัวขึ้น ขณะที่นักเทรดบางรายยังเชื่อว่าพฤศจิกายนจะเป็นเดือนที่ดีของ Bitcoin ตามสถิติ
นักวิเคราะห์คริปโต Matthew Hyland ชี้ ตลาดอาจกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญหลัง “Bitcoin Dominance” อยู่ในแนวโน้มขาลงมาหลายสัปดาห์ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่า Altcoin Season กำลังจะเริ่มต้นในไม่ช้า
นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ระบุว่า Bitcoin มีโอกาสปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 6–12 เดือนข้างหน้า โดยประเมินว่าอาจมีราคาแตะ 170,000 ดอลลาร์ หากเทียบมูลค่ากับทองคำตามอัตราความผันผวนของราคา
Coinbase เดินหน้าเสริมธุรกิจ Stablecoin หลังรายมีรายได้เพิ่มขึ้นจนคิดเป็นกว่า 20% ของรายได้ทั้งหมดในไตรมาส 3 ขณะอยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้ายเพื่อซื้อกิจการ BVNK บริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐาน Stablecoin มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มบริษัทเหมืองขุด Bitcoin รายใหญ่ร่วง 20%–50% ภายในสัปดาห์เดียว ส่งผลให้มูลค่าตลาดหายไปหลายพันล้านดอลลาร์ ขณะที่หลายบริษัทยังคงต้องปรับโมเดลธุรกิจหลังเกิด Halving ครั้งล่าสุด
แม้ดัชนีความเชื่อมั่นของตลาดคริปโตจะลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 8 เดือน แต่นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าสถานการณ์อาจไม่รุนแรงเท่าที่ตัวเลขสะท้อนออกมา
Ether อาจเผชิญการปรับฐานลงอีกราว 23% สู่ระดับ $2,500 หากกลุ่มผู้ถือระยะยาวยังคงเทขายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ถึงเงื่อนไขสำคัญที่ต้องเกิดขึ้นก่อนที่แนวโน้มขาขึ้นจะกลับมา
