นอร์ทดาโคตาเตรียมเปิดตัว “Roughrider Coin” Stablecoin ของรัฐ ร่วมมือ Fiserv ลุยตลาดคริปโตปี 2026

ธนาคารกลางของรัฐนอร์ทดาโคตา (Bank of North Dakota) ประกาศเข้าสู่ตลาด Stablecoin ด้วยการเปิดตัว “Roughrider Coin” ซึ่งเป็นเหรียญดิจิทัลที่มี เงินดอลลาร์สหรัฐหนุนมูลค่าแบบเต็มจำนวน ร่วมพัฒนาโดยบริษัทชำระเงินยักษ์ใหญ่ Fiserv

โครงการนี้จะเปิดให้ธนาคารและสหกรณ์เครดิตในรัฐนอร์ทดาโคตาเริ่มใช้งานในปี 2026 โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ในธุรกรรมระหว่างธนาคาร การชำระเงินของร้านค้า และการโอนเงินระหว่างประเทศ

Fiserv ซึ่งประมวลผลธุรกรรมร้านค้ากว่า 3.5 หมื่นล้านรายการในปี 2022 ระบุว่า Roughrider Coin จะใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกับแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท และคาดว่าจะสามารถทำงานร่วมกับ Stablecoin เหรียญอื่น ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ

ผู้ว่าการรัฐ Kelly Armstrong กล่าวว่า การออกเหรียญดิจิทัลที่มีสินทรัพย์หนุนหลังเป็น “ก้าวสำคัญของรัฐนอร์ทดาโคตาในการสร้างระบบการเงินที่ปลอดภัย ทันสมัย และมีประสิทธิภาพสำหรับประชาชน”

ชื่อ “Roughrider” มาจากชื่อหน่วยทหารที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Theodore Roosevelt เคยนำในช่วงสงครามสเปน–คิวบา ก่อนที่เขาจะย้ายมาอยู่ที่รัฐนอร์ทดาโคตา

ธนาคารกลางของรัฐนอร์ทดาโคตาเป็นธนาคารที่รัฐบาลเป็นเจ้าเพียงของแห่งเดียวในสหรัฐฯ ก่อตั้งเมื่อปี 1919 มีสินทรัพย์รวมกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากการดำเนินงานจะถูกนำกลับไปพัฒนาภาคเกษตรและเศรษฐกิจในท้องถิ่น

สหรัฐฯ เริ่มเห็น “สงคราม Stablecoin ของรัฐ”

Roughrider Coin ถือเป็นเหรียญ Stablecoin ภาครัฐลำดับที่สองของสหรัฐฯ ต่อจาก Wyoming Frontier Stable Token (FRNT) ที่เปิดตัวบน 7 บล็อกเชนเมื่อเดือนสิงหาคม และประกาศใช้บริษัท Hedera เป็นผู้ออกเหรียญในเดือนกันยายน

การเปิดตัวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่ร้อนแรงในตลาด Stablecoin หลังจาก กฎหมาย GENIUS Act ผ่านสภาคองเกรสเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งเปิดทางให้ผู้ออกเหรียญรายใหม่เข้ามาแข่งขันกับผู้นำตลาดอย่าง USDT และ USDC

ล่าสุด แพลตฟอร์มการเทรดอนุพันธ์ Hyperliquid ก็เพิ่งเปิดตัวเหรียญ USDH ส่วนบริษัท Cloudflare ก็ประกาศพัฒนาเหรียญ NET Dollar เพื่อรองรับการชำระเงินแบบเรียลไทม์ระหว่างระบบ AI

ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นสัญญาณของ “การเติบโตที่เป็นธรรมชาติของอุตสาหกรรม”Austin Ballard ผู้จัดการฝ่ายพันธมิตรจาก Offchain Labs กล่าวกับ Cointelegraph ว่า “หากมีผู้เล่นใหม่เข้ามามากขึ้น แปลว่า Stablecoin กำลังตอบโจทย์ธุรกิจและผู้ใช้ได้จริง ซึ่งในระยะยาวถือเป็นประโยชน์ต่อระบบโดยรวม”

อ้างอิง : Cointelegraph