สำรวจหลังการกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ทำให้ Bitcoin พุ่งขึ้น 'พอตัว' 0.02%

นักวิจัยของธนาคารกลางสำรวจตลาดคริปโต หลังมตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 มีการลงทุนใน Bitcoin เพิ่มเพียง 0.02% จาก 3.8% ของสกุลเงินอื่น ๆ

นักวิจัยของธนาคารกลางสำรวจตลาดคริปโต หลังมตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 มีการลงทุนใน Bitcoin เพิ่มเพียง 0.02% จาก 3.8% ของสกุลเงินอื่น ๆ

จากการศึกษาของ Federal Reserve จากสาขาคลีฟแลนด์ที่โพสต์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา การตรวจสอบผลลัพธ์หลังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกในสหรัฐอเมริกาในช่วงที่ประชาชนต้องเผชิญกับการระบาดครั้งใหญ่ในเดือนเมษายน 2020 ธนาคารกลางทำการตรวจสอบทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับเศรษกิจของประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือทรัพสินดิจิทัล โดยเฉพาะสกุลเงินอันดับหนึ่งอย่าง Bitcoin ที่ทำราคาพุ่งขึ้น “พอประมาณ” ในปริมาณและราคาซื้อขาย Bitcoin

นักวิจัยของธนาคารกลางประเมินว่า การตรวจสอบการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1,200 ดอลลาร์ของรัฐบาลที่ส่งไปยังชาวอเมริกันในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายของคริปโตเพิ่มขึ้น 3.8% และมีราคาเพิ่มขึ้นที่ 0.7% เมื่อสรุปผลโดยรวมแล้ว มีเพียง 0.02% ของเงินกระตุ้นทั้งหมดที่เป็นส่วนของ Bitcoin

การผันผวนของ Bitcoin

เมื่อวางกรอบต่อความผันผวนที่รุนแรงของ Bitcoin ตัวเลขเหล่านี้ (0.02%) ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก นอกจากนี้ นักวิจัยยังกล่าวว่า

“การเพิ่มขึ้นของราคาอย่างถาวร” 0.07% นั้น “เล็กน้อยเมื่อเทียบกับส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 4.6%” ในการแกว่งของราคารายวันของ bitcoin อย่างไรก็ตาม นักวิจัยกล่าวว่าการกระโดดดังกล่าว “มีนัยสำคัญทางสถิติ”
นักวิจัยของธนาคารกลาง

ผลการวิจัยได้เพิ่มข้อมูลวงในที่สำคัญบางส่วนในสถานการณ์ในช่วงการล็อคดาวน์ของการซื้อ Bitcoin จากเงินมูลค่า 1,200 ดอลลาร์ที่ได้จากจากรัฐบาล นักวิจัยพบว่ายังคงมีการซื้อขายในตลาดสกุลเงินดิจิทัลเกิดขึ้น แต่เป็นการลงทุนในหมู่นักลงทุนรายย่อยที่มีรายได้ปานกลางเกือบทั้งหมด นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า:

“จากการสำรวจ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สอดคล้องกับสิ่งที่นักลงทุน Bitcoin ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้” นักวิจัยตั้งข้อสังเกต
นักวิจัย

นอกจากผลลัพธ์ดังกล่าวที่ได้จากการตรวจสอบหลังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ยังมีญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่เห็นผลลัพธ์ที่คล้ายกันในตลาด Bitcoin ของพวกเขาหลังจากรอบการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

นักวิจัยพบว่ากลุ่มที่มีความต้องการเงินกระตุ้นจำนวนนั้นจากรัฐบาลอย่างเร่งด่วน ได้แก่ ครอบครัวและผู้ว่างงาน กลุ่มที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ