Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin หวังสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงาน
Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin ลุยเพิ่มความโปร่งใส่ในการดำเนินงานด้วยการตั้งเป้าลดการถือครอง “กระดาษเชิงพาณิชย์” ลงอีก 5 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม
Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin ลุยเพิ่มความโปร่งใส่ในการดำเนินงานด้วยการตั้งเป้าลดการถือครอง “กระดาษเชิงพาณิชย์” ลงอีก 5 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม
Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin สัญชาติฮ่องกงที่เรารู้จักกันดีอย่าง Tether (USDT) ได้ประกาศความตั้งใจที่จะทำให้องค์กรของตนนั้น “ขาวสะอาด” และกลับมามีความน่าเชื่อถือในสายตานักลงทุนคริปโตอีกครั้งหลังจากที่เหล่า Stablecoin บางตัว ได้ทำให้นักลงทุนมีบทเรียนที่ต้องจดจำไม่รู้ลืม
โดยความพยายามในการสร้างความโปร่งใสของพวกเขาเริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทาง Tether เปิดเผยว่าจะลดการถือครอง “กระดาษเชิงพาณิชย์ (Commercial Paper)” ลงอีก 5 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin กับการดำเนินงานความโปร่งใส
Tether ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่าพวกเขาจะลดการถือครองตั๋วสัญญาใช้เงินไม่มีหลักประกันที่ว่านี้ลง ซึ่งพวกเขาก็ได้อัปเดตว่าแผนการลดการถือครองกระดาษเชิงพาณิชย์ของพวกเขานั้นดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่ต้น
ก่อนหน้านี้ Tether Stablecoin USDT นั้นเคยมี Commercial Paper มูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 31 มีนาคม แต่ในปัจจุบัน บริษัทผู้สร้าง Stablecoin รายนี้ลดการถือครองตราสารรูปแบบดังกล่าวลงไปแล้วว่า 8.4 พันล้านดอลลาร์ และจะยังคงลดการถือครองต่อไปในอนาคตอันใกล้
ทั้งนี้ ในวันที่ 31 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ การถือครองกระดาษเชิงพาณิชย์ของ Tether มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์จะหมดอายุลง ส่งผลให้บริษัทจะได้เงินมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์เข้ามาในพอร์ตโฟลิโอของพวกเขา ซึ่งส่งผลให้เงินสำรองคงคลังจะมีสัดส่วนที่มากขึ้นในของเงินสำรองของบริษัท
กระดาษเชิงพาณิชย์ หรือ Commercial Paper คืออะไร?
กระดาษเชิงพาณิชย์ หรือ Commercial Paper (CP) คือ ตราสารการเงินระยะสั้นซึ่งผู้ออกส่วนใหญ่จะเป็นสถาบันการเงิน หรือบริษัทเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือ โดยมีระยะเวลาการกู้ยืมที่สั้นกว่าตราสารหนี้ทั่วไป (มักจะน้อยกว่า 270 วัน หรือ 9 เดือน) พูดง่าย ๆ ก็คือ กระดาษเชิงพาณิชย์ ก็คือ ตั๋วสัญญาใช้เงินแบบไม่มีหลักประกัน นั่นเอง
ทั้งนี้ การออกกระดาษเชิงพาณิชย์จะเป็นประโยชน์แก่บริษัทในแง่ของการได้รับเงินทุนจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้นเพื่อมาใช้แก้หนี้ภาระผูกพัน นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Commercial Paper ไม่มีหลักประกัน และอาศัยเพียงชื่อเสียงของบริษัทที่มีอันดับเครดิตดีเยี่ยม จึงทำให้อัตราดอกเบี้ยของเหล่าผู้ลงทุนมีผันผวนตามสภาวะตลาด แถมโดยทั่วไปแล้วดอกเบี้ยจะต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารเสียด้วยซ้ำ
ปัญหาใหญ่ในแวดวง Stablecoin
เรียกได้ว่าภาคส่วนของ Stablecoin นั้นได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจากการล่มสลายของอัลกอริทึม Terra หรือ UST Stablecoin ในเดือนพฤษภาคม ที่ซึ่งเหรียญ UST หลุดจากการตรึงมูลค่าอย่างย่อยยับในช่วงเวลาสั้น ๆ และสร้างความปั่นป่วนต่อตลาดในวงกว้างจนถึงปัจจุบัน
เหตุการณ์ดังกล่าวนอกจากจะทำให้นักลงทุนทั้งเจ็บทั้งจุก มันยังส่งผลให้รัฐบาลต่าง ๆ หันกลับมาพิจารณาความน่าเชื่อถือของ Stablecoin แบบยกเครื่อง พร้อมทั้งตั้งป้อมปราการในการกำกับดูแลการออกเหรียญชนิดนี้แบบหนาแน่นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
เรียกได้ว่าเหล่าผู้ออก Stablecoin ทั้งหลายต้องปวดหัวกันไปอีกนานเลยทีเดียว