Chivo แอปกระเป๋าเงิน Bitcoin ของเอลซัลวาดอร์ ลบฟีเจอร์ด้านราคาทิ้ง

Chivo ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลลูกหม้อของเอลซัลวาดอร์ ประเทศที่ถูกจารึกว่าเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุญาตให้ใช้ Bitcoin (BTC) ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ได้ถูกพบเห็นว่ามีแผนการ “ลบ” คุณสมบัติสำคัญบางประการออกจากแอปพลิเคชันของพวกเขา ซึ่งการกำจัดคุณสมบัติดังกล่าวนั้นจะส่งผลโดยตรงต่อเหล่าผู้ใช้ในการกำไรจากการซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว

ฟีเจอร์ที่หายไปของแอปกระเป๋าเงิน Bitcoin

เดิมที กระเป๋าเงิน Bitcoin Chivo ของประเทศในละตินอเมริกาแห่งนี้ มีฟีเจอร์พิเศษที่จะสามารถ “แช่แข็ง” ราคาได้ชั่วขณะ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือเมื่อเราทำการวางออร์เดอร์การซื้อขาย ราคาของ Bitcoin ที่เราวางออร์เดอร์เอาไว้นั้นจะหยุดนิ่งเป็นเวลาหนึ่งนาทีก่อนที่การขายได้จะรับการยืนยันนั่นเอง

อย่างไรก็ตามทางเอลซัลวาดอร์ได้มีแผนที่จะลบฟีเจอร์ที่กล่าวไว้ข้างต้นออก เนื่องจากผลเสียของฟีเจอร์แช่แข็งราคาดังกล่าวได้ “เอื้อประโยชน์” ให้เหล่าผู้ใช้มีเวลามากพอในการตรวจสอบ และเปรียบเทียบราคาที่พวกเขาจะขายกับบริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลเจ้าอื่น ๆ และตัดสินใจว่าจะทำการซื้อหรือขาย ซึ่งเข้าข่ายเทคนิคการลงทุนที่เรียกว่า "Scalping"

*Scalping เป็นกลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้นที่จะเน้นการทำกำไรเพียงเล็กน้อยแต่อาศัยการซื้อขายแบบบ่อยครั้ง โดยกลยุทธ์ดังกล่าวจะอาศัยความผันผวน และการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของตลาดสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งทำให้ระดับราคาจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในแต่ละวัน มาเป็นหัวใจหลักในการทำกำไร กล่าวคือหากเราซื้อขายให้ถูกช่วงก็จะทำให้ทำกำไรได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปเรื่อย ๆ ไม่มีหยุดนั่นเอง ซึ่งเป้าหมายของการทำ Scalping ก็คือเพื่อสร้างผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำเมื่อสิ้นสุดวัน*

ทั้งนี้ทาง Chivo ได้ออกมาแถลงการณ์บน Twitter อย่างเป็นทางการของพวกเขาว่า “น่าเสียดายที่ผู้ใช้ของเราหลายคนใช้มัน (ฟีเจอร์แช่แข็ง) เพื่อการทำ Scalping ซึ่งมันก็ถูกกฎหมายแหละ แต่ทว่าโดยปกติแล้วมันจะไม่สามารถแช่แข็งราคาได้ โดยการใช้กลยุทธ์ดังกล่าวด้วยราคาที่ถูกแช่แข็ง และนำราคาไปเปรียบเทียบกับบริการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ แบบเรียลไทม์ จัดเป็นการฉ้อโกงประเภทหนึ่ง”

ความสำคัญของ Bitcoin ต่อเอลซัลวาดอร์ ที่มากกว่าแค่ “ความนิยม”

ในเดือนมิถุนายน เอลซัลวาดอร์กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่นำ Bitcoin มาใช้ชำระหนี้ได้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทางรัฐสภาของประเทศได้อนุมัติข้อเสนอของประธานาธิบดี Nayib Bukele ที่จะเปิดรับสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 ของตลาดสกุลนี้ และการกระทำในครั้งนั้นถือเป็นที่ยกย่องจากเหล่านักลงทุนสกุลเงินดิจิทัลทั่วทั้งโลก

อย่างไรก็ตาม การที่เอลซัลวาดอร์นั้นหันมาหยิบยก BTC ให้เป็นหนึ่งในสกุลเงินหลักของประเทศนั้นมีที่มาที่ไปมากกว่าแค่ “ความนิยม” ที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดของสกุลเงินคริปโท เพราะแรกเริ่มเดิมทีเอลซัลวาดอร์มักจะมีการโอนเงินข้ามพรมแดนจากพลเมืองที่ทำงานในต่างประเทศในจำนวนมาก โดยข้อมูลจากธนาคารโลกได้แสดงให้เห็นว่าการโอนเงินของประเทศเอลซัลวาดอร์นั้นมีจำนวนเงินเกือบ 6 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณหนึ่งใน 5 ของ GDP ของประเทศดังกล่าวในปี 2019 ตัวเลขนี้จัดเป็นหนึ่งในอัตราส่วนการโอนเงินข้ามพรมแดนต่อ GDP ที่สูงที่สุดในโลก

และดังที่เราทั้งหลายต่างรู้กันดีว่าในทางทฤษฎี สกุลเงินดิจิทัลสามารถนำเสนอวิธีการที่รวดเร็ว และราคาถูกในการส่งเงินข้ามพรมแดนโดยไม่ต้องพึ่งพาเหล่า “ตัวกลาง” อย่างบริษัทส่งเงินทั้งหลายนั่นเอง ซึ่งนั่นหมายความว่าการนำ Bitcoin มาใช้ชำระหนี้ได้ถูกต้องตามกฎหมายของเอลซัลวาดอร์จึงถือเป็นกลยุทธ์ที่ตรงจุดเลยทีเดียว