Changpeng Zhao ซีอีโอแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนรายใหญ่อย่าง Binance ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงแนวความคิดการ Hard Fork หรือ แผนการสร้างเครือข่าย Terra Blockchain ใหม่ทั้งหมดของนักพัฒนา Terra เพื่อชุบชีวิตให้กับระบบ Terra (LUNA) และ TerraUST (UST) อีกครั้ง ว่าเป็นแนวทางการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม โดยซีอีโอ Binance แนะ Terra ให้เปลี่ยนวิธีการจัดการเพื่อทำให้โปรเจกต์ที่ล่มสลายสามารถกลับมาดำเนินการบนตลาดคริปโตต่อไปได้
Table of Contents
- ซีอีโอ Binance แนะ Terra ให้ Burn เหรียญแทน
- ความโปร่งใสสำคัญที่สุด
- CZ ปฏิเสธข่าวลือสนใจลงทุนกับ Terra
- Binance พร้อมสนับสนุน Terra เสมอ
- ราคา LUNA ทะยานขึ้นอีกครั้งแล้ว
ซีอีโอ Binance แนะ Terra ให้ Burn เหรียญแทน

แม้ว่า CZ จะไม่ได้ถือครองเหรียญ LUNA หรือ UST ก็ตาม แต่ทว่าจากวิกฤตที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เขาอดที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นไม่ได้ โดยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซีอีโอชื่อดังก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาที่มองว่าแนวคิดในการทำ Hard Forking เพื่อสร้าง TERRA2 หรือ LUNA เวอร์ชันใหม่ ที่จะช่วยให้ผู้ถือครองโทเคนทุกรายสามารถ Snapshot สินทรัพย์ได้ก่อนที่ตลาดจะล่มสลายนั้นไม่เหมาะสมที่จะนำมาแก้ปัญหาวิกฤตของเหรียญที่เกิดขึ้นเท่าไรนัก เนื่องจากวิธีเหล่านั้นไม่สามารถช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับเหรียญได้ พร้อมแนะนำทีมนักพัฒนาของ Terra ให้ดำเนินการลดอุปทานของเหรียญลงด้วยการเผาทิ้ง แทนการ Fork เหรียญที่หมดอายุ และทอดทิ้งผู้ใช้งานทุกคนที่พยายามจะกู้โทเคนคืนกลับมาแทน นอกจากนี้แล้ว Terra ควรหันมาใช้ Bitcoin (BTC) เป็นกองทุนสำรองซื้อ UST กลับคืนมา เพื่อชุบชีวิตให้กับเหรียญอีกครั้งด้วยเช่นเดียวกัน
ความโปร่งใสสำคัญที่สุด
ในขณะเดียวกัน CZ ก็ได้ออกมาย้ำชัดถึงความจำเป็นที่ทางองค์กรควรสร้างความโปร่งใสให้กับชุมชน Terra มากขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงการเปิดเผยข้อมูล Transaction ID ของกองทุนทั้งหมดที่บริษัทถือเอาไว้ให้ผู้ใช้งานทราบ พร้อมกล่าวว่า
“ความล้มเหลวอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ได้ก็คือการสร้างความโปร่งใส และส่งเสริมให้เกิดการสื่อสารที่รวดเร็ว รวมไปถึงการออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อชุมชนในทันทีนั่นเอง”
CZ ปฏิเสธข่าวลือสนใจลงทุนกับ Terra
แม้ว่าก่อนหน้านี้ Binance Labs จะเคยทุ่มเงิน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปกับเครือข่าย Blockchain Layer0 ของ Terra ในปี 2018 ก็ตาม แต่ทว่าซีอีโอรายนี้ก็ได้ออกมาปฏิเสธถึงข่าวลือบนแพลตฟอร์ม Twitter ที่อ้างว่า Binance กำลังให้ความสนใจใน Terra พร้อมยืนยันว่าองค์กรของเขาไม่ได้สนใจที่จะร่วมลงทุนกับทางบริษัทผู้สร้างเหรียญ รวมไปถึงไม่ได้ถือครองโทเคน UST แต่อย่างใด เนื่องด้วยการเปิดตัวโทเคนดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นช้ากว่าแผนการลงทุนข้างต้นไปค่อนข้างมาก
Binance พร้อมสนับสนุน Terra เสมอ
ทั้งนี้ จากประสบการณ์การร่วมลงทุนกับโปรเจกต์จำนวนมากภายในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาของ Binance ทำให้ CZ มองเห็นช่องโหว่ของ Terra ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ซึ่งซีอีโอรายนี้ก็ทำได้แค่เพียงหวังว่าทีมนักพัฒนาจะสามารถกลับมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ด้วยวิธีการที่เหมาะสมกว่านี้ นอกจากนั้นแล้วเขายังได้แสดงจุดยืนเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนสำคัญที่พร้อมจะคอยช่วยเหลือชุมชน Terra อีกด้วย
ราคา LUNA ทะยานขึ้นอีกครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เกิดความปั่นป่วนขึ้นบนตลาดคริปโต ทาง Binance เองก็เป็นตลาดแลกเปลี่ยนรายแรก ๆ ที่สั่งถอดเหรียญ UST และ LUNA ออกจากแพลตฟอร์ม หลังจากที่ระบบนิเวศของ Terra ได้สร้างความเสียหาย และความขัดข้องอย่างมหาศาลให้กับผู้ใช้งาน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทีมนักพัฒนาดำเนินการตรวจสอบเครือข่าย Terra Blockchain อย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจระงับการทำงานลงในวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ใช้งานจำนวนมากไม่สามารถที่จะใช้บริการคู่สินทรัพย์ LUNA/BUSD และ UST/BUSD ได้นั่นเอง

ในเวลาต่อมา ทางแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนก็ได้ออกมาประกาศฟ้าแลบเปิดให้บริการเหรียญ LUNA และ UST ของ Terra ขึ้นอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม สร้างความประหลาดใจให้กับผู้เล่นในตลาดจำนวนมาก ซึ่งแม้ว่า Binance จะไม่ได้ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุของการกระทำในครั้งนี้ก็ตาม แต่การตัดสินใจในครั้งนี้ก็ได้ช่วยหนุนให้ราคาของโทเคนทะยานขึ้นมาได้อย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว จะเห็นได้จากปริมาณการซื้อขายของ LUNA ที่ทะยานขึ้นมากว่า 200% ภายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ข้อมูลจาก CoinMarketCap ยังพบว่าปริมาณการซื้อขายโทเคนดังกล่าวบนตลาด Binance ได้เพิ่มจำนวนขึ้นมากว่า 64.52% ส่งผลให้บรรดาผู้เล่นที่สนใจการลงทุนในระยะสั้นหันมาซื้อเหรียญกันเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว