Blockchain

Flowcarbon จับมือ Celo Blockchain ซื้อขายคาร์บอนเครดิตด้วยโทเค็น

R1bs0pzlr1m.jpg

เพื่อช่วยให้ภูมิอากาศของโลกของเราขาวสะอาดมากยิ่งขึ้น Flowcarbon และ Celo Blockchain จึงวางแผนสร้างระบบนิเวศที่ทำให้องค์กรขนาดใหญ่สามารถซื้อขายคาร์บอนเครดิตด้วยโทเค็นได้

Flowcarbon บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านภูมิอากาศ ได้ลงนามร่วมมือกับ Celo Foundation ผู้ให้บริการบล็อกเชนที่มีค่าคาร์บอนเป็นลบ ในการสร้างระบบนิเวศใหม่ให้แก่ตลาดคาร์บอน ซึ่งช่วยให้หน่วยงานทั้งหลายสามารถซื้อขายคาร์บอนเครดิตด้วยโทเค็นบนเครือข่าย Celo โดยโทเค็นนี้จะถูกเรียกว่า เหรียญเทพธิดาแห่งธรรมชาติ หรือ Goddess of Nature token (GNT)

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตด้วยโทเค็นครั้งแรกของโลก

ระบบนิเวศของตลาดคาร์บอนที่ Flowcarbon และ Celo กำลังจะสร้างขึ้นนั้น เป็นแพลตฟอร์มสำหรับเหล่านักพัฒนาโครงการที่หวังจะเปลี่ยนแปลงคาร์บอนเครดิตของพวกเขาให้กลายเป็นโทเค็น (Tokenize) รวมไปถึงยังเป็นพื้นที่จำหน่ายโทเค็นเหล่านั้น และเหล่าบริษัทต่าง ๆ ก็สามารถรับคาร์บนเครดิตบนเครือข่ายได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย

ทั้งนี้ หากเหล่าพันธมิตรผู้ตบเท้าเข้าร่วมโครงการข้างต้นทำการซื้อเหรียญ GNT รวมกันเป็นมูลค่าอย่างน้อย 10 ล้านดอลลาร์ นั่นก็จะสามารถสร้างสภาพคล่อง และทำให้ตลาดซื้อขายคาร์บอนแห่งใหม่นี้มีความโปร่งใส ทั้งยังเติบโตจนกลุ่มผู้ซื้อ และผู้ขายสามารถเข้าถึงมันได้ง่ายยิ่งขึ้น

Phil Fogel ผู้ร่วมก่อตั้ง Flowcarbon กล่าวถึงการดำเนินงานในครั้งนี้ว่า

 “Celo นั้นเป็นองค์การคาร์บอนลบ ที่พวกเขาได้ให้ความสำคัญแก่คุณค่าของทรัพยากรทางธรรมชาติลึกลงไปถึงระดับจิตวิญญาณ นั่นทำให้มูลนิธิแห่งนี้เป็นมูลนิธิที่มีความเป็นธรรมชาติที่สุดในการสร้างวิธีแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบนเครือข่าย ซึ่งทางผู้ก่อตั้ง Celo อย่าง Sep, Marek และ Rene ใช้ชีวิต และสานต่อภารกิจนี้ในแบบที่ระบบนิเวศของเลเยอร์ 1 อื่นไม่มี”

Flowcarbon X Celo 1024x576.jpg

คาร์บอนเครดิตสำคัญอย่างไร?

คาร์บอนเครดิต นับว่าเป็นตัวแทนหรือสัญลักษณ์ของ “การลด” การปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่สิ่งแวดล้อมขององค์กรต่าง ๆ ซึ่งสิ่งนี้นั้นมีมูลค่า โดยองค์กรที่สามารถลดการปล่อยมลภาวะสู่อากาศได้ดีเยี่ยม ก็จะมีปริมาณคาร์บอนเครดิตที่สูงมาก และพวกเขาสามารถนำมันมาขายทำกำไรให้แก่องค์กรที่ยังคงปล่อยมลพิษได้นั่นเอง

ทั้งนี้ โดยหลักการแล้ว องค์กรมากมายต่างก็หวังที่จะทำรายได้เพิ่มจากการขายเครดิตเหล่านี้ที่พวกเขามีในมือ นั่นจึงทำให้หน่วยงานจำนวนมากลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนการดำเนินงานให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมนั้นไม่สามารถแยกขาดกับโลกของคริปโตได้

ความวิตกกังวลด้านผลกระทบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมนั้นเรียกได้ว่าอยู่คู่กับวงการ Cryptocurrency มาอย่างช้านาน โดยสาเหตุที่ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมนั้นไม่สามารถแยกขาดกับโลกของคริปโตได้ ก็สืบเนื่องมาจากธรรมชาติของโลกออนเชน ที่ทุกกระบวนการ ไม่ว่าจะทั้งการขุด การโอน การจัดเก็บ นั้นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งสิ้นนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลจำนวนไม่น้อยเลยก็เกิดจาก “ความเข้าใจที่ผิด ๆ” ทั้งสิ้น

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปีที่แล้ว Tesla ภายใต้การนำทัพของ Elon Musk ได้ออกมาประกาศว่า จะหยุดการอนุญาตให้ลูกค้าซื้อยานยนต์ด้วย Bitcoin เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับ “การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับการขุด Bitcoin” อย่างไรก็ดี Yassine Elmandjra นักวิเคราะห์จากบริษัทจัดการการลงทุนที่ตั้งอยู่ในนิวยอร์กอย่าง Ark Investment ก็ออกมาตอบโต้อย่างทันควันว่าความกังวลของ Elon Musk เกี่ยวกับการใช้พลังงานของ Bitcoin นั้นเป็นเรื่อง “เข้าใจผิด” เป็นอย่างยิ่ง

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
พบผู้ถือ Memecoin เกินกว่าครึ่ง ไม่ได้รับผลกระทบ จากการปรับตัวของตลาด
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC