Arizona Texas และ Utah ขึ้นแท่นรัฐผู้นำด้านนโยบายคริปโตของสหรัฐฯ จากรายงานของ Chainlink
ขณะที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เดินหน้าออกกฎหมายชุดใหญ่ด้านคริปโตในสัปดาห์ที่ถูกขนานนามว่า “Crypto Week” รายงานล่าสุดเผยให้เห็นว่า รัฐในระดับท้องถิ่นอย่าง Arizona, Texas และ Utah กำลังกลายเป็นผู้นำสำคัญในการผลักดันนโยบายบล็อกเชนและคริปโตภายในประเทศ

ขณะที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เดินหน้าออกกฎหมายชุดใหญ่ด้านคริปโตในสัปดาห์ที่ถูกขนานนามว่า “Crypto Week” รายงานล่าสุดเผยให้เห็นว่า รัฐในระดับท้องถิ่นอย่าง Arizona, Texas และ Utah กำลังกลายเป็นผู้นำสำคัญในการผลักดันนโยบายบล็อกเชนและคริปโตภายในประเทศ
รายงาน “Tokenized in America” ซึ่งจัดทำโดย Chainlink ร่วมกับ Blockchain Association ได้ยกให้รัฐ Arizona, Texas และ Utah เป็น “Trailblazers” หรือรัฐแนวหน้าที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทั้งด้านนโยบายและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระบบนิเวศของบล็อกเชน
การจัดอันดับดังกล่าวพิจารณาจากหลายปัจจัย อาทิ โครงการนำร่องด้านบล็อกเชนที่รัฐเป็นผู้ริเริ่ม หน่วยงานเฉพาะกิจที่สนับสนุนคริปโต ความร่วมมือจากฝ่ายนิติบัญญัติ ความหนาแน่นของบุคลากรในอุตสาหกรรมบล็อกเชน การวางแผนถือครอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง และการมีส่วนร่วมในสมาคม North American Blockchain Association (NABA)
“Texas, Arizona และ Utah ได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่ม Trailblazer ด้วยคะแนนที่สูงจากทั้งด้านนโยบายและการพัฒนาระบบนิเวศคริปโต” รายงานระบุ พร้อมกล่าวถึงรัฐอื่นที่มีบทบาทสำคัญเช่นกัน เช่น North Carolina, California, New Hampshire และ Wyoming
Adam Minehardt หัวหน้าฝ่ายนโยบายของ Chainlink Labs กล่าวเสริมว่า
“แม้ในระดับรัฐบาลกลางจะมีความเคลื่อนไหวสำคัญ แต่เราไม่ควรมองข้ามความพยายามจากระดับรัฐ เพราะหลายรัฐกำลังมีบทบาทมากขึ้นต่ออนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ”
รายงานยังเปิดเผยสถิติที่น่าสนใจว่า ขณะนี้กว่า 50% ของรัฐในสหรัฐฯ มีผู้แทนรัฐสภาที่สนับสนุนนโยบายบล็อกเชนอย่างชัดเจน และ 36% มีหน่วยงานเฉพาะกิจด้านคริปโตที่ดำเนินงานอยู่ นอกจากนี้ ยังมีมากกว่า 22% ที่ดำเนินโครงการบล็อกเชนนำร่อง และ 16% กำลังเดินหน้าหรือพิจารณาการถือครอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองของรัฐ
“Crypto Week” สัปดาห์ชี้ชะตากฎหมายคริปโตชุดใหญ่ของสหรัฐฯ
การเผยแพร่รายงานนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลกลางของสหรัฐฯ กำลังเร่งพิจารณาร่างกฎหมายด้านคริปโตสามฉบับสำคัญในสัปดาห์ที่ถูกขนานนามว่า “Crypto Week” โดย Farzam Ehsani ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต VALR กล่าวว่า
“นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่เราคิดว่าไม่น่าเกิดขึ้นได้ในปีที่แล้ว แต่ขณะนี้กำลังกลายเป็นความจริง และจะมีหลายประเทศที่เดินตามรอยสหรัฐฯ ในเร็ว ๆ นี้”
ร่างกฎหมายทั้งสามฉบับ ได้แก่
- GENIUS Act (Guiding and Establishing National Innovation for US Stablecoins) – สนับสนุนการออก Stablecoin ในสหรัฐฯ
- Digital Asset Market Clarity Act (CLARITY Act) – วางกรอบความชัดเจนด้านกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล
- Anti-CBDC Surveillance State Act – ต่อต้านการสร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)
แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบางรายจะมองว่า CLARITY Act ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่การอนุมัติร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้สหรัฐฯ มีบทบาทเป็นผู้นำด้านนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลในเวทีโลก
ขณะที่สายตาทั่วโลกจับตากฎหมายคริปโตของสหรัฐฯ ในระดับรัฐบาลกลาง ความเคลื่อนไหวจากรัฐต่าง ๆ กำลังแสดงให้เห็นถึงความจริงจังและบทบาทที่เติบโตขึ้นในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะรัฐผู้นำอย่าง Arizona, Texas และ Utah ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาคริปโตในระดับภูมิภาคต่อไป
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว