กว่า 48 โครงการที่เคยทำงานบน Terra blockchain ได้ถูกย้ายเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศของ Polygon อย่างสมบูรณ์แล้ว โดยโครงการของ Terra เหล่านี้นั้นประกอบไปด้วยแพลตฟอร์ม Metaverse ที่เรารู้จักกันดีอย่าง Lunaverse (LUV) รวมถึงตลาด OnePlanet NFT และเกม Derby Stars ซึ่งเป็นเกม Play-to-earn (P2E)
โครงการของ Terra รอดแล้ว!
Ryan Wyatt ซีอีโอของ Polygon Studios ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่กอบกู้โครงการของ Terra ให้มีชีวิตรอดเป็นหนที่สอง โดยเขาได้เขียนอธิบายถึงการดำเนินงานดังกล่าวบน Twitter อย่างเป็นทางการของเขาว่า

“เรากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับโครงการ Terra จำนวนมากเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถโยกย้ายไปยัง Polygon ได้อย่างรวดเร็ว เราจะทุ่มทุน และทรัพยากรเพื่อสนับสนุนการดำเนินการในครั้งนี้ และทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะสามารถให้การต้อนรับนักพัฒนาและชุมชนที่เกี่ยวข้องเข้ามาสู่แพลตฟอร์มของเรา”
ทั้งนี้ทางบริษัทได้กล่าวว่ากว่า 48 โครงการได้เข้าสู่ระบบนิเวศของ Polygon เรียบร้อยแล้ว
เครือข่าย Polygon คืออะไร?
เครือข่าย Polygon หรือ Matic คือ เครือข่าย Ethereum Layer 2 แบบกระจายศูนย์ที่สามารถปรับขนาดได้ โดยเป้าประสงค์ในการปรับขนาดก็เป็นไปเพื่อลดความซับซ้อนในการดำเนินการของซัพพลายเชน
ทั้งนี้ ระบบนิเวศของเครือข่าย Polygon นั้นคอยให้บริการธุรกรรม Ethereum ที่ปรับขนาดได้ ซึ่งมีความปลอดภัยสูง แถมยังดำเนินการได้รวดเร็วทันใจอีกด้วย โดยพวกเขาใช้ Plasma side chains และที่เครือข่าย Proof-of-Stake มาแก้ไขจุดบกพร่องของการยืนยันบล็อกที่ช้า และค่าธรรมเนียมก๊าซสูง
ความเสียหายจากน้ำมือของ Terra
การการล่มสลายของ LUNA ของ Terraform Labs และการยกเลิกการตรึง UST เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในวงการนี้ และมันถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการนำพามาซึ่งการขาดทุนครั้งใหญ่ของบริษัทมากมายในวงการคริปโต โดยปัจจุบันเครือข่ายดังกล่าวได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Terra Classic ไปเสียแล้ว
ทั้งนี้ ในความเป็นจริงแล้ว กว่า 48 โครงการที่เคยทำงานบน Terra blockchain ไม่ได้เป็นเพียงผู้เสียหายกลุ่มเดียวจากการล่มสลายของอาณาจักร Terra แถมผลกระทบของโครงการข้างต้นนี้ยังไม่รุนแรงเท่าสิ่งที่หน่วยงานอื่น ๆ ต้องเผชิญเสียด้วยซ้ำ
โดยชื่อของ Three Arrows Capital หรือ 3AC ได้ถูกจารึกไว้ว่าเป็นหนึ่งในบริษัทคริปโตที่ได้รับผลเสียร้ายแรงที่สุดจากการพังทลายในครั้งนี้ โดยอาณาจักรยักษ์ใหญ่ของพวกเขาที่ครั้งหนึ่งขึ้นชื่อได้ว่าเป็นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตระดับท็อป 5 ของโลก และเคยมีมูลค่าการลงทุนบล็อคเชนสูงถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงที่ตลาดทำราคา All-time High ได้พังทลายจนผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง Zhu Su ต้องออกมาเทขายคฤหาสน์หรูของเขาทิ้ง