นักลงทุน Bitcoin ถือกำไรที่ยังไม่ขายกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ Glassnode ชี้ยังไม่เร่งขาย รอราคาขึ้นต่อ
นักลงทุน Bitcoin ส่วนใหญ่ยังคงถือครองเหรียญ แม้จะมีกำไรในพอร์ตมากกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ข้อมูลระบุว่า ราคาปัจจุบันยังไม่ดึงดูดให้นักลงทุนเทขาย ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้แรงขายจากผู้ถือครองรายเก่าหลังเปิดตัวกองทุน Spot ETF ยังคงกดดันราคาให้อยู่ในกรอบเดิม

นักลงทุน Bitcoin ส่วนใหญ่ยังคงถือครองเหรียญ แม้จะมีกำไรในพอร์ตมากกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ข้อมูลระบุว่า ราคาปัจจุบันยังไม่ดึงดูดให้นักลงทุนเทขาย ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้แรงขายจากผู้ถือครองรายเก่าหลังเปิดตัวกองทุน Spot ETF ยังคงกดดันราคาให้อยู่ในกรอบเดิม
บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน Glassnode รายงานว่า นักลงทุน Bitcoin ส่วนใหญ่ยังไม่รีบขาย แม้ขณะนี้จะถือกำไรที่ยังไม่ถูกขายจริงรวมกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ สะท้อนแนวโน้มการถือครองระยะยาวที่ยังแข็งแรง ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายมองว่าแรงขายจากผู้ถือครองดั้งเดิมยังเป็นตัวฉุดให้ราคาติดอยู่ในช่วง 100,000 ดอลลาร์
รายงานฉบับล่าสุดของ Glassnode ระบุว่า หลังจากราคาฟื้นขึ้นมายืนที่ระดับ 107,000 ดอลลาร์ นักลงทุน Bitcoin จำนวนมากกลับเลือกที่จะถือครองต่อแทนที่จะขายทำกำไร โดยเฉพาะกลุ่มที่ถือเหรียญมายาวนานหรือกลุ่มที่เพิ่งซื้อในช่วงต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งยังคงมีต้นทุนเฉลี่ยราว 98,300 ดอลลาร์
“แม้กำไรในพอร์ตจะพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่พฤติกรรมนักลงทุนยังบ่งชี้ถึงแนวโน้มการถือระยะยาวอย่างชัดเจน ราคาปัจจุบันยังไม่จูงใจให้มีแรงขายมากพอ” Glassnode ระบุในรายงาน
พร้อมเสริมว่าตัวชี้วัดทั้งในด้านปริมาณกำไรที่ขายไปแล้วและปริมาณเหรียญในมือของผู้ถือครองระยะยาว (Long-term Holders) ต่างก็สะท้อนทิศทางเดียวกันคือ การถือครองต่อไป
ในขณะที่ราคาซื้อขายล่าสุดของ Bitcoin อยู่ที่ราว 106,959 ดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap ตลาดยังคงเฝ้าจับตาว่าราคาจะสามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ 111,970 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม Charles Edwards ผู้ก่อตั้ง Capriole Investments ให้ความเห็นว่า เหตุผลสำคัญที่ราคายังไม่สามารถขึ้นไปยืนหนือโซน 100,000 ดอลลาร์ได้อย่างชัดเจน มาจากแรงขายของนักลงทุนกลุ่ม OG หรือผู้ที่ถือ Bitcoin มานาน ซึ่งทยอยขายทำกำไรตั้งแต่มีการเปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐเมื่อต้นปี 2024
“เรากำลังเห็นภาพของผู้ถือครองรุ่นเก่าเทขายให้กับวอลล์สตรีท ในขณะที่บริษัทเอกชนและนักลงทุนสถาบันเพิ่งเริ่มสะสม” Edwards กล่าว พร้อมชี้ว่าการเปลี่ยนผ่านของเหรียญจากนักลงทุนรายย่อยสู่มือของสถาบัน อาจใช้เวลาอีกสักระยะก่อนที่แรงซื้อจะเพียงพอในการผลักดันราคาไปสู่จุดสูงสุดใหม่
Glassnode ทิ้งท้ายว่า หากราคายังเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นนี้ต่อไป โอกาสที่จะเห็นปริมาณเหรียญไหลออกจากมือผู้ถือระยะยาวยังคงมีน้อย และตลาดอาจต้องรอแรงกระตุ้นครั้งใหม่ก่อนจะเข้าสู่รอบขาขึ้นอีกครั้ง
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว