ข่าว Bitcoin

การใช้ Bitcoin แบบผิดกฎหมายลดลง สวนทางกับการฟอกเงินผ่าน Private Wallet

Photo 1604682214367 36803402b4f7.jpg

เห็นได้ชัดว่าปี 2020 เป็นปีแห่งการใช้งาน “กระเป๋าเงินแบบส่วนตัว” เนื่องจากเหล่าผู้ให้บริการด้านการแลกเปลี่ยนนั้นจริงจังในข้อกำหนด KYC มากขึ้น แต่ทว่าการกระทำดังกล่าวอาจจะกำลังกลายเป็นดาบสองคมอยู่ก็เป็นได้

Elliptic ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับบล็อกเชนได้พบการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของแนวโน้มในการใช้ Crypto แบบผิดกฎหมาย

โดยจากการศึกษาของบริษัทที่เปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ ระบุว่าสัดส่วนของการทำธุรกรรมด้วย Bitcoin (BTC) ที่ทาง บริษัทสามารถเชื่อมโยงเข้ากับกิจกรรมทางอาญานั้นลดลงอย่างแน่นอนเมื่อเทียบกับจุดสูงสุดในปี 2012

Tom Robinson หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Elliptic อธิบายกับสื่อมวลชนว่านี่เป็นผลมาจากแนวโน้มหลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้นภายในอุตสาหกรรม Crypto ซึ่งสิ่งเหล่านี้รวมไปถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริการการแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้น การบังคับใช้กฎหมายทั้งหลาย และการเติบโตของเหล่าบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล เช่น Elliptic เอง

ที่น่าสนใจไปกว่านั้น Robinson ยังกล่าวอีกว่าการใช้โดยงานทั่วไปนั้นได้โตเป็นพลุแตก

Tom Robinson 1024x576.jpg
Tom Robinson หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ และผู้ร่วมก่อตั้ง Elliptic
“กรณีตัวอย่างการใช้งานของ Crypto ในรูปแบบอื่น ๆ (ที่นอกเหนือจากสิ่งผิดกฎหมาย) กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยการเก็งกำไรถือเป็นการใช้งานที่โดดเด่นที่สุด ซึ่ง Crypto ส่วนใหญ่จะถูกส่งระหว่างบริการการแลกเปลี่ยนเท่านั้น และมูลค่าของธุรกรรมเหล่านั้นไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมเลยแม้แต่น้อย”

อย่างไรก็ตามเหล่าผู้ไม่ประสงค์ดีก็ยังคงค้นหาวิธีใหม่ ๆ ในการสร้างผลกำไรแบบไม่ชอบมาพากลผ่านอุตสาหกรรม Crypto ซึ่งทาง Elliptic ตั้งข้อสังเกตว่าการละเมิดกฎหมายด้วย Crypto Mixing หรือบริการที่ช่วยปกปิดการทำธุรกรรมคริปโตนั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ทว่าการใช้งานเหล่า Private Wallet หรือกระเป๋าเงินส่วนตัวไปในทางมิชอบกลับเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ซึ่งการเพิ่มแรงกดดันทางกฎหมาย และการตั้งข้อหาทางอาญาต่อผู้ประกอบการอาจเปลี่ยนให้อาชญากรเลิกพึ่งพา Crypto Mixing หลังจากใช้มันมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และสิ่งนี้อาจต้องขอบคุณบริษัททั้งหลายไม่ว่าจะเป็นตัว Elliptic เอง หรือแม้แต่คู่แข่งอย่าง Cyphertrace และ Chainalysis ที่สามารถติดตามเหรียญผ่าน Mixer  (บริการปกปิดการทำธุรกรรม) ทั้งหลายได้เป็นอย่างดี

แต่แล้วการเผชิญหน้ากับการเรียกร้องของระบบ Know Your Customer (KYC) ทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้นได้ทำให้บริการด้านการแลกเปลี่ยนทั้งหลายได้สูญเสียพื้นที่ของพวกเขากลายไปเป็นปลายทางสำหรับการใช้ Crypto แบบผิดกฎหมาย โดยดูได้จากยอดกระเป๋าเงินส่วนตัวได้พุ่งสูงขึ้น

David Carlisle จาก Elliptic กล่าวว่า

“แนวโน้มที่สำคัญที่สุดที่เราสังเกตเห็นคือการใช้กระเป๋าสตางค์เพื่อความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น เช่น Wasabi Wallet ในกระบวนการการฟอกเงิน โดยในปี 2020 อย่างน้อย 13% ของรายได้ทางอาญาทั้งหมดใน Bitcoin ถูกส่งผ่านกระเป๋าเงินส่วนตัวซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 2% ในปี 2019”

อย่างไรก็ตาม Elliptic มีความรู้ที่จำกัด กี่ยวกับต้นกำเนิดความผิดทางอาญาหรืออื่น ๆ ของเงินที่ต้องผ่านกระเป๋าเงินส่วนบุคคลเหล่านี้ แต่ในการตอบคำถามที่ว่า Elliptic รู้ได้อย่างไรว่า Bitcoin ผ่าน Wasabi Wallet นั้นเชื่อมโยงกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายหรือไม่? Tom Robinson ก็ระบุเอาไว้ว่า

"โดยทั่วไปเราดูแบบตรง ๆ ไม่ได้ – เราเพียงสามารถดูได้ว่าเกิดอะไรขึ้น และอะไรกำลังจะออกมา แต่เรายังไม่สามารถเชื่อมโยงทั้งสองเข้าด้วยกันได้"
ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
คาดการณ์ราคา Bitcoin หลังช่วง Halving! พร้อมเผยเป้าหมาย ที่เหรียญอาจทำราคาพุ่งไปถึง
วาฬในเครือข่าย Solana ใช้เงินกว่า 4.9 ล้านดอลลาร์ ในการเข้าซื้อเหรียญมีม PUPS
Bitkub เปิดตัว Open Beta ของ 'TSX by Astronize' โปรเจกต์เกมใหม่ล่าสุดบน Bitkub Chain