การลงทุน

Bitcoin ยังทรงตัวใกล้แนวรับสำคัญที่ $104,000 นักวิเคราะห์ชี้ตลาดยังรอแรงซื้อใหม่เพื่อดันราคาขึ้น

Bitcoin ยังทรงตัวใกล้แนวรับสำคัญที่ $104,000 นักวิเคราะห์ชี้ตลาดยังรอแรงซื้อใหม่เพื่อดันราคาขึ้น

แม้ Bitcoin จะยังยืนเหนือแนวรับสำคัญบริเวณ $104,000 ได้ แต่สัญญาณจากปริมาณการซื้อขายที่อ่อนแรง กิจกรรมบนเครือข่ายที่ชะลอตัว และอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง ล้วนบ่งชี้ว่าราคามีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวในกรอบเพื่อสะสมพลังไปอีกระยะ

ตลาด Bitcoin เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยความผันผวนรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์และวันจันทร์ที่เกิดแรงเหวี่ยงราคาทั้งขึ้นและลง ส่งผลให้มีการล้างพอร์ตครั้งใหญ่ในตลาดอนุพันธ์ 

ข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่า มีสถานะ Long มูลค่า 28.6 ล้านดอลลาร์ และ Short มูลค่า 25.2 ล้านดอลลาร์ถูกล้างในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของจิตวิทยาตลาด ขณะที่มูลค่ารวมของ Open Interest หรือมูลค่าของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่ยังคงเปิดอยู่ในหน่วย BTC ลดลงประมาณ 7% จาก 360,000 BTC เหลือ 334,000 BTC

สถานการณ์ดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าตลาดกำลังเข้าสู่ภาวะ “รีเซ็ต” หรือการชำระล้างสถาะเลเวอเรจที่กำลังเก็งกำไรอยู่ในตลาด

การล้างพอร์ตของ Bitcoin ฟิวเจอร์ส ทั้งสถานะ Long และ Short ( ที่มา : Glassnode )
การล้างพอร์ตของ Bitcoin ฟิวเจอร์ส ทั้งสถานะ Long และ Short ( ที่มา : Glassnode )

กิจกรรมบนเครือข่ายอ่อนแรง หนุนแนวโน้มการพักฐาน

แม้ราคา Bitcoin จะยังทรงตัวในกรอบ $100,000–$110,000 แต่ข้อมูลออนเช นบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่ลดลงต่อเนื่อง โดย Glassnode ยังระบุอีกว่า ตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรกำลังเริ่มลดลง ขณะที่จำนวนผู้ใช้งานที่ เข้ามาในเครือข่ายยังไม่ฟื้นตัว

ทางเทคนิค ราคายังเคลื่อนไหวในกรอบขาลง (Descending channel) บนกราฟราย 4 ชั่วโมง โดยแนวรับสำคัญอยู่ระหว่าง $103,400 ถึง $104,600 ซึ่งเป็นโซนที่สอดคล้องกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล 200 วัน (200 EMA) จึงมีโอกาสที่จะเกิดแรงดีดกลับในระยะสั้น

กราฟ Bitcoin ราย 4 ชั่วโมง ( ที่มา : Cointelegraph/TradingView )
กราฟ Bitcoin ราย 4 ชั่วโมง ( ที่มา : Cointelegraph/TradingView )

หากราคาสามารถทะลุกรอบแนวต้านขาลงขึ้นไปได้ อาจนำไปสู่การทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ตราบใดที่ยังไม่มีแรงซื้อใหม่เข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ โครงสร้างภาพใหญ่ของตลาดก็ยังอยู่ในช่วงการสะสมพลัง (Consolidation phase) ไปอีกระยะ

เงินเฟ้อกดดัน Bitcoin เพิ่ม หลังตัวเลข Core PCE ขยับขึ้น

ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคยังคงเป็นอุปสรรคต่อสินทรัพย์เสี่ยง โดยล่าสุดข้อมูลเงินเฟ้อจากดัชนี PCE ซึ่งเป็นตัวชี้วัดหลักของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนที่ผ่านมา โดยตัวเลข Core PCE ขยับจาก 2.6% เป็น 2.7% ถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2025

ภาวะเงินเฟ้อที่ยัง “เหนียวแน่น” ทำให้ Fed มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อไป ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตลาด Bitcoin และสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ

ขณะเดียวกัน ปริมาณธุรกรรมบนเครือข่าย Bitcoin ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นเพียง 7.7 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ปริมาณการโอน (Transfer Volume) ลดลงถึง 36% ในช่วงต้นไตรมาส บ่งชี้ว่ากระแสเก็งกำไรในตลาดยังไม่กลับมาอย่างเต็มที่

ปริมาณ Bitcoin  ทั้งหมดที่ถูกโอนบนเครือข่าย Bitcoin ในช่วงเวลาหนึ่ง ( ที่มา : Glassnode )
ปริมาณ Bitcoin  ทั้งหมดที่ถูกโอนบนเครือข่าย Bitcoin ในช่วงเวลาหนึ่ง ( ที่มา : Glassnode )

อ้างอิง : Cointelegraph

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง

Bitcoin ยังทรงตัวใกล้แนวรับสำคัญที่ $104,000 นักวิเคราะห์ชี้ตลาดยังรอแรงซื้อใหม่เพื่อดันราคาขึ้น
The Smarter Web Company จากสหราชอาณาจักรระดมทุนกว่า 56 ล้านดอลลาร์ หลังทุ่มซื้อ Bitcoin กว่า 20 ล้านภายในไม่กี่วัน
หุ้น Coinbase พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ นักวิเคราะห์บางส่วนชี้ "ใกล้พักฐาน" แต่แรงหนุนจากกฎ Stablecoin และกระแสคริปโตยังสดใส
สัญญาณ Ether ETF ยังแข็งแกร่ง แต่ข้อมูลจากตลาดฟิวเจอร์สบ่งชี้ถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุน