CZ ร่ำรวยขึ้นจากการถือ BNB มูลค่าทะลุ 75,000 ล้านดอลลาร์ หลังราคาเหรียญพุ่งทำสถิติใหม่
เหรียญ BNB พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 860 ดอลลาร์ ดันมูลค่าพอร์ตของ CZ ทะลุ 75,000 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางแนวโน้มของเครือข่ายที่แข็งแกร่ง นักลงทุนรายใหญ่เข้าซื้อ และกระแสการเบิร์นเหรียญอย่างต่อเนื่อง

เหรียญ BNB พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 860 ดอลลาร์ ดันมูลค่าพอร์ตของ CZ ทะลุ 75,000 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางแนวโน้มของเครือข่ายที่แข็งแกร่ง นักลงทุนรายใหญ่เข้าซื้อ และกระแสการเบิร์นเหรียญอย่างต่อเนื่อง
มูลค่าทรัพย์สินในคริปโตของ Changpeng “CZ” Zhao อดีตผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO ของ Binance พุ่งแตะระดับอย่างน้อย 75.8 พันล้านดอลลาร์ หลังราคาเหรียญ BNB ทะยานขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 860 ดอลลาร์เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ตามรายงานจาก Nansen
รายงานของ Forbes เมื่อเดือนมิถุนายน 2024 ระบุว่า CZ ถือครองเหรียญ BNB ประมาณ 64% จากอุปทานหมุนเวียนทั้งหมด 139.3 ล้านเหรียญ ขณะที่ Binance ถือครองอีก 7% คิดเป็นเหรียญราว 89.1 ล้านเหรียญในมือของ CZ เพียงคนเดียว ซึ่งเขาเคยระบุผ่านโพสต์ใน Binance Square เมื่อต้นปีว่า 98% ของพอร์ตโฟลิโอของเขาอยู่ใน BNB และอีก 1.32% อยู่ใน Bitcoin
ด้วยมูลค่าจาก BNB เพียงอย่างเดียว CZ จะมีทรัพย์สินมากกว่าครอบครัวของ Julia Koch เจ้าของหุ้นส่วน 42% ใน Koch Industries บริษัทเอกชนขนาดใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐฯ และหากรวมสัดส่วนหุ้นใน Binance แล้ว Forbes จัดอันดับให้เขาอยู่ในลำดับที่ 23 ของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ด้วยทรัพย์สินรวม 7.1 หมื่นล้านดอลลาร์
การพุ่งขึ้นของราคา BNB ครั้งนี้ สอดคล้องกับปัจจัยด้านประสิทธิภาพของเครือข่ายที่ดีขึ้น โดย Dominick John นักวิเคราะห์จาก Kronos Research ระบุว่า ปริมาณธุรกรรมใน PancakeSwap มูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) และมูลค่าตลาดของ Stablecoin บนเครือข่ายต่างพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดของปี 2025 อีกครั้งในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันกระเป๋าเงินของวาฬ และการเข้าซื้อโดยหน่วยงานต่างๆ ก็เริ่มขยับตัวเพิ่มมากขึ้น เช่น Nano Labs บริษัทไมโครชิปของจีน ที่ประกาศแผนการถือครอง BNB สูงสุดถึง 10% ของอุปทานทั้งหมดในตลาด
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่าการรักษาแนวโน้มขาขึ้นของ BNB จำเป็นต้องอาศัยความต้องการเข้าซื้อโดยหน่วยงานหรือบริษัท ตัวชี้วัดอย่าง TVL และปริมาณธุรกรรมภายใน PancakeSwap จะต้องเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเบิร์นเหรียญ BNB รายไตรมาสจะต้องดำเนินต่อไป ขณะเดียวกันจะต้องไม่มีปัจจัยเสี่ยงในระดับมหภาคเข้ามากระทบตลาด
หนึ่งในปัจจัยสนับสนุนที่เกิดขึ้นล่าสุดคือการอัปเกรดเครือข่าย BNB Smart Chain ที่มีชื่อว่า “Maxwell” ซึ่งเริ่มใช้งานเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยทีมพัฒนาระบุว่าจะช่วยให้เครือข่ายสามารถสร้างบล็อกได้เร็วขึ้น ประสานงานกับผู้ตรวจสอบบล็อกได้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของเครือข่าย
อีกปัจจัยหนึ่งคือโปรแกรมการเบิร์นเหรียญของ BNB ที่ช่วยลดอุปทานในระบบลงอย่างต่อเนื่อง โดย Kadan Stadelmann CTO ของ Komodo Platform กล่าวว่า การเบิร์นเหรียญเป็นกลยุทธ์ที่มีผลกระทบโดยตรงต่อราคาของ BNB และสร้างความคาดหวังให้นักลงทุนว่าในอนาคตจะมีการเบิร์นเหรียญอีก
อ้างอิง : Cointelegraph
ภาพหน้าปกจาก : Crypto-economy
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว