บริษัทในเอลซัลวาดอร์ที่ใช้ Bitcoin มีเพียง 14%
แม้จะเป็นประเทศแรกที่ยอมรับให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ที่ถูกกฎหมาย แต่ทว่าบริษัทในเอลซัลวาดอร์ที่ใช้ Bitcoin ยังคงมีอัตราส่วนที่ต่ำ และเติบโตช้า
แม้จะเป็นประเทศแรกที่ยอมรับให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ที่ถูกกฎหมาย แต่ทว่าบริษัทในเอลซัลวาดอร์ที่ใช้ Bitcoin ยังคงมีอัตราส่วนที่ต่ำ และเติบโตช้า
หอการค้าแห่งเอลซัลวาดอร์ได้ดำเนินการสำรวจบริษัทกว่า 337 แห่งทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 15 มกราคม และ 9 กุมภาพันธ์ แบ่งออกเป็นธุรกิจขนาดเล็กกว่า 71%, ธุรกิจขนาดกลาง 13% และ ธุรกิจขนาดใหญ่ 16% ซึ่งผลการสำรวจดังกล่าวได้บ่งชี้ว่า อัตราส่วนของบริษัทในเอลซัลวาดอร์ที่ใช้ Bitcoin (BTC) นั้นเติบโตค่อนข้างช้า นับตั้งแต่รัฐบาลลงมติให้การยอมรับว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่ถูกต้องตามกฎหมายเมื่อเดือนกันยายน ปี 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีเพียง 14% จากบริษัททั้งหมดเท่านั้นที่ยอมรับว่าได้เริ่มทำธุรกรรมด้วย Bitcoin ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนับตั้งแต่กฎหมายดังกล่าวถูกนำออกมาใช้ นอกจากนี้ บริษัทมากกว่า 90% ยังได้ออกมาระบุว่าการยอมรับ Bitcoin ภายในประเทศได้สร้างผลกระทบให้กับยอดขายขององค์กรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ปริมาณบริษัทในเอลซัลวาดอร์ที่ใช้ Bitcoin ค่อนข้างต่ำ
อัตราการยอมรับที่เกิดขึ้นต่ำอาจไม่ใช่สัญญาณที่ดีเท่าไรนัก ย้อนกลับไปในปี 2001 เอลซัลวาดอร์ยังคงใช้สกุลเงินดอลลาร์เพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ซี่งแตกต่างจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่น ๆ เนื่องจากสื่อกลางที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนของเอลซัลวาดอร์นั้นไม่ได้โอนเอียงไปตามความผันผวนของอัตราการแลกเปลี่ยนทั่วไป แม้แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่รายงานชิ้นล่าสุดได้เผยว่าบริษัทมากกว่า 10 แห่งในประเทศได้หันมาใช้ Bitcoin ในช่วง 5 เดือน ที่ผ่านมานี้
การท่องเที่ยวเอลซัลวาดอร์เติบโตสวนทางกับอัตราการยอมรับของบริษัทต่าง ๆ
แม้ว่าอัตราการยอมรับ Bitcoin จากบริษัท หรือ องค์กรต่าง ๆ ภายในประเทศจะยังคงเติบโตขึ้นได้ไม่สูงมากนัก แต่ทว่าหลังจากที่ทางรัฐบาลได้ออกมาประกาศอนุมัติกฎหมาย Bitcoin ก็ได้ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเอลซัลวาดอร์เติบโตขึ้นทะลุ 30% ในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่า GDP ของประเทศเติบโตเพิ่มขึ้นมากว่า 10.3% เลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ทางรัฐบาลยังพบว่าชาวอเมริกันจำนวนมากได้ให้ความสนใจที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในเอลซัลวาดอร์มากขึ้นถึง 60% อีกด้วย
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยังคงหนาหู
Nayib Bukele ประธานาธิบดีแห่งเอลซัลวาดอร์จงใจที่จะนำ Bitcoin เข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญสำหรับการใช้กลยุทธ์พัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโต แม้ว่าสถาบันการเงินรายใหญ่อย่าง กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และ Moody's Investors Service จะเคยออกมาเตือนถึงการเปิดใจยอมรับสกุลเงินดิจิทัลมาใช้เป็นกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนประเทศแล้วก็ตาม โดยในเดือนมกราคม ที่ผ่านมา Jaime Reusche หนึ่งในนักวิเคราะห์แห่ง Moody’s ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า กลยุทธ์ Bitcoin ของ Bukele อาจบ่อนทำลายภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของประเทศของเขาลง
Bukele ไม่หวั่น เดินหน้าสร้าง Bitcoin City อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางคำวิจารณ์จากทั้งผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน และสถาบันการเงินจำนวนมากมาย แต่ทว่าปัจจุบันเอลซัลวาดอร์ก็ยังคงพัฒนาต่อไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมด้วยแผนกลยุทธ์คริปโตตัวใหม่ โดยทางรัฐบาลจะดำเนินการออกพันธบัตร Bitcoin หรือ พันธบัตรภูเขาไฟ (Volcano Bond) มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกมาจัดจำหน่าย เพื่อระดมทุนไปใช้ในการสร้าง Bitcoin City มหานครแห่งโลกอนาคตอย่างเต็มรูปแบบที่จะนำพลังงานจากภูเขาไฟมาใช้เพื่อขุดสินทรัพย์ดิจิทัลนั่นเอง ทั้งนี้ ประธานาธิบดีแห่งเอลซัลวาดอร์ได้มีกำหนดการออกแถลงการณ์ผ่านการประชุม Bitcoin ประจำปี 2022 ซึ่งเขาได้ให้สัญญาว่าจะปรากฎตัวพร้อมกับเซอร์ไพรส์ที่ยิ่งใหญ่
ราคา Bitcoin เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง
เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยข่าวดีที่ทุกคนรอคอย หลังจากราคา Bitcoin ที่แสนจะผันผวนในสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง จนสามารถปิดระดับสูงสุดไปได้ นอกจากนี้ ยังช่วยขจัดความกังวล และยืนยันแก่บรรดานักลงทุนต่าง ๆ ว่าราคาจะไม่ร่วงลงไปต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ ได้อีกด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งแม้ว่าก่อนหน้านี้ผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกจนทำให้ราคาของเหรียญดิจิทัลมีความผันผวน แต่ทว่าล่าสุด ดูเหมือนว่าตลาดจะเริ่มลืมประเด็นความขัดแย้งดังกล่าวลงไปบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาจะยังอยู่ในแนวโน้มที่ดีอยู่ แต่ก็ไม่มีอะไรที่แน่นอนเสมอไป จากการวิเคราะห์แนวโน้มของสำนักข่าวต่างประเทศรายหนึ่งได้ระบุว่า ตลาดกระทิงจำเป็นที่จะต้องรับมือกับแนวต้าน และพลิกกลับมาเพื่อรองรับราคาดังกล่าวให้ได้อีกครั้ง เพื่อรักษาแนวโน้มขาขึ้นเหล่านี้เอาไว้