ลิสต์รายชื่อ NFT ในเทศกาลกีฬาโอลิมปิก

กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ณ กรุงปักกิ่ง ประจำปี 2022 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ผู้คนจากทุกประเทศทั่วโลกต่างก็ตั้งตาเฝ้ารอชมการแข่งขัน และการได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงานอย่างล้นหลาม ซึ่งสิ่งที่น่าจับตามองไม่แพ้หยวนดิจิทัลนั้นก็คือโปรเจกต์ Non-Fungible Token (NFT) ที่เกิดขึ้นในระหว่างการจัดการแข่งขัน เรามาดูกันดีกว่าลิสต์รายชื่อ NFT ด้านล่างนี้ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

IOC เผยลิสต์รายชื่อ NFT เฉลิมฉลองเทศกาลโอลิมปิก

นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2021 คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee: IOC) ได้ร่วมมือกับ nWayPlay ตลาดซื้อขาย NFT และสตูดิโอเกม Blockchain ในเครือ Animoca Brands เพื่อเปิดตัวเข็มกลัด NFT คอลเลกชัน Olympic Heritage ที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ เนื่องในโอกาสการเฉลิมฉลองให้กับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งที่ผ่านมา โดยทางองค์กรจะนำโปสเตอร์, ตราสัญลักษณ์, รูปสัญลักษณ์ และมาสคอตตลอดระยะเวลา 125 ปีมาจัดแสดงให้แฟนกีฬาได้ชมกันอย่างจุใจ ทั้งนี้ทางทีมงานจะทำการเปิดตัวกล่องต่าง ๆ ในแต่ละเดือนเพื่อให้แฟนคลับได้ทำการซื้อเก็บไว้ ซึ่งโปรเจกต์ดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 นี้

Timo Lumme กรรมการผู้จัดการรายการโทรทัศน์ และฝ่ายการตลาดแห่ง IOC กล่าวในงานแถลงการณ์ว่าคณะกรรมกานั้นคาดหวังให้โปรเจกต์นี้ช่วยส่งต่อความตื่นเต้นของการแข่งขันในรูปแบบใหม่ไปยังแฟนกีฬาที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของผลงานดิจิทัลที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การแข่งขันโอลิมปิก

IOC จับมือ nWayPlay เปิดตัวเกม Play-to-Earn

นอกจากนี้ในสัปดาห์พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในกรุงปักกิ่ง คณะกรรมการ IOC จึงได้ตัดสินใจออกมาเปิดตัววิดีโอเกมบนมือถือที่ร่วมพัฒนากับ nWay ในรูปแบบ Play-to-Earn ในปีที่ผ่านมาภายใต้ชื่อ Olympic Games Jam: Beijing 2022 โดยทางค่ายได้เปิดให้ผู้เล่นสามารถดาวน์โหลดผ่านแอปพลิเคชัน Android และ iOS ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเหล่าเกมเมอร์จะมีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในฤดูกาลนี้เพื่อแลกรับเข็มกลัด NFT โอลิมปิกที่จะสามารถนำมาใช้เพิ่มพลังให้กับตัวละคร หรือ สกิน Avatar และอุปกรณ์กีฬา NFT ชิ้นพิเศษได้

อย่างไรก็ตาม แอปพลิเคชันดังกล่าวจะไม่สามารถเปิดให้บริการภายในสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ เนื่องจากรัฐบาลได้มีการออกกฎหมายกำกับดูแลอุตสาหกรรมเกมอย่างเข้มงวด และได้ออกคำสั่งห้ามให้มีการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเป็นอันขาด แม้ว่าจีนจะเป็นประเทศเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกก็ตาม

Great Britain ก้าวเข้าสู่ Metaverse แล้ว

Team GB จากองค์กร British Olympic Association ตัวแทนจากสหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์เหนือ ได้ร่วมมือกับ Tokns ผู้ให้บริการด้าน Commerce ตัดสินใจสร้างสมาคม Gold Lion Club NFT ขึ้น เพื่อพัฒนาโปรแกรมกระชับความสัมพันธ์ทีมงานกับแฟนกีฬาให้แน่นแฟ้นมากขึ้น โดยโครงการดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในช่วงก่อนการแข่งขันโอลิมปิก ณ กรุงโตเกียว เมื่อฤดูร้อนปีที่ผ่านมา ปัจจุบันแฟนกีฬา Team GB สามารถซื้อ Gold Lion Tokns เพื่อแลกรับสิทธิ์ในการเข้าถึงสินค้าที่มีลายเซ็นของนักกีฬา และเข้าไปมีส่วนร่วมในคลับเฮาส์เสมือนจริงบน Metaverse ด้วยเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมี NFT ที่เคลื่อนไหวได้อีก 1 คอลเลกชันเพื่อใช้เฉลิมฉลองความสำเร็จของนักกีฬา ประกอบไปด้วยของสะสมในรูปแบบเข็มกลัดดิจิทัลที่มีจำนวนจำกัด ของสะสมทั้ง 3 คอลเลกชันนั้นเป็นการแจก NFT โดย Ben Sherman ซัพพลายเออร์ผู้จัดหาชุดเครื่องแบบนักกีฬาให้ Team GB ได้จัดงานเปิดตัวเครื่องแบบที่สามารถนำไปสวมใส่บน Metaverse เช่นเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น Ben Sherman ยังได้ร่วมมือกับ Humanz NFT สร้างคาแรกเตอร์ NFT ให้กับ Humanz ในรูปแบบพิเศษเพื่อให้แฟนกีฬาได้นำไปสะสมอีกด้วย

เผยลิสต์รายชื่อ NFT คอลเลกชัน Protest ที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีน

Badiucao ศิลปินชาวจีนที่ถูกขับไล่ออกจากประเทศเนื่องจากออกมาต่อต้านรัฐบาลนั้น ปัจจุบันย้ายมาอาศัยอยู่ภายในประเทศออสเตรเลีย ได้พัฒนาแคมเปญโปสเตอร์ NFT ที่ช่วยดึงดูดดความสนใจแก่ชาวโลกถึงประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน อ้างอิงจากเว็บไซต์ NFT หลักได้ระบุว่า ผลงานศิลปะทั้งหมด 5 ชิ้นนั้นแสดงให้เห็นถึงการกดขี่ประชาชนจากรัฐบาลจีน, การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวอุยกูร์, การโค่นล้มระบบประชาธิปไตยในฮ่องกง, การปกครองประชาชนอย่างเคร่งครัดของรัฐบาลจีนในทุกพื้นที่ และการขาดความโปร่งใสในช่วงเกิดการระบาดโรค COVID-19

คอลเลกชัน Beijing 2022 ถูกนำมาจัดแสดงครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2021 ภายในงาน Oslo Freedom Forum ซึ่งปัจจุบันยังคงถูกนำไปจัดแสดงอยู่ ณ Museo di Santa Giulia ในประเทศอิตาลีด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ Badiucao ได้เปิดตัวคอลเลกชันผลงานดิจิทัลชิ้นใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์บนเว็บไซต์ NFT พร้อมระบุว่า

“NFT และ Blockchain ไม่ได้เพียงแค่มอบความปลอดภัยในการให้บริการสนับสนุนระบบการเงินที่สำคัญแก่ศิลปินที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นบันทึกสาธารณะที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่นอกเหนือการควบคุม และปลอมแปลงจากรัฐบาลเผด็จการด้วยเช่นเดียวกัน”

บรรดานักสะสมสามารถเขียนข้อความของตนเองลงบน Blockchain เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการการสร้างเหรียญ โดยรายได้ 10% จากการจัดจำหน่ายผลงานชิ้นนี้จะถูกนำไปใช้ในโครงการ Art in Residency Program ซึ่ง Badiucao ได้ร่วมมือกับมูลนิธิ San Francisco-based Gray Area Foundation for the Arts และมูลนิธิ Human Rights Foundation ในกรุงนิวยอร์ก