สรุป 'Vasil Hard Fork' ฉบับเข้าใจง่าย! ก่อนอัปเกรดใหญ่ ADA - 22 ก.ย. นี้!
22 ก.ย. นี้แล้ว! กับ Vasil Hard Fork อัปเกรด Cardano ครั้งสำคัญ มาทำความเข้าใจกันในฉบับเข้าใจง่าย ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร ทำไมแฟนๆ ADA ถึงห้ามพลาด!
22 ก.ย. นี้แล้ว! กับ Vasil Hard Fork อัปเกรด Cardano ครั้งสำคัญ มาทำความเข้าใจกันในฉบับเข้าใจง่าย ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร ทำไมแฟนๆ ADA ถึงห้ามพลาด!
จั่วหัวมาขนาดนี้ก็สบายใจได้ เราไม่อธิบายลึกแน่นอน แต่ก่อนจะเริ่มต้นกันคงต้องขอเท้าความกันก่อน โดยปกติแล้วบล็อกเชน Cardano เจ้าของ ADA เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีอันดับ 8 ณ เวลานี้ จะมีการอัปเกรดใหญ่อยู่เรื่อย ๆ อยู่แล้ว อย่างอัปเกรดใหญ่ครั้งล่าสุดเมื่อ 12 กันยนฯ ปีที่แล้วในชื่อ Alonzo Hard Fork ที่เป็นการเพิ่มฟีเจอร์ Smart Contract เข้ามาก็สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ได้ไม่น้อย (แต่ราคาเหรียญร่วงต่อเนื่องตั้งแต่นั้น)
จนถึงวันนี้เวลาเวียนมาบรรจบอีกครั้ง การอัปเกรดครั้งใหญ่ครั้งสำคัญอย่าง 'Vasil Hard Fork' กำลังมาในวันที่ 22 กันยายนนี้ แล้วจริง ๆ มันคืออะไร? มีประโยชน์อะไรบ้างหลังอัปเกรด?
Vasil Hard Fork คืออะไร?
Key Takeaway: อัปเกรดครั้งใหญ่ของ Cardano ในเฟสที่ 4 ตาม Roadmap
ถ้าถามว่า Vasil Hard Fork คืออะไร สรุปสั้น ๆ เลย มันก็คือการอัปเกรดครั้งใหญ่ของ Cardano ในโร้ดแมปเฟสที่ชื่อว่า 'Basho' มีจุดประสงค์ที่จะ 'ขยาย' ขนาดบล็อกเชนให้ใหญ่ขึ้น รองรับจำนวนอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในบล็อกเชนได้มากขึ้น และแน่นอน ตามมาด้วยความเร็วที่สูงขึ้น หรือที่เรียกรวมสั้น ๆ ว่าการ 'Scaling'
ซึ่ง Vasil Hard Fork นี่เองก็เป็นการอัปเกรดใหญ่ของเฟสนี้ ใหญ่ขนาดที่ว่า Charles Hoskinson ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง IOHK บริษัทผู้พัฒนา Cardano ระบุว่าเป็นการอัปเกรดที่อยากให้ทุกคนจับตามองมาก ๆ เพราะมันจะยังเป็นการดึงดูดให้โปรเจกต์คริปโตต่าง ๆ ให้พากันตบเท้าเข้ามาสร้างนู่นสร้างนี่กันในบล็อกเชน Cardano อีกด้วย และแน่นอน นั่เท่ากับดีมานด์ที่มากขึ้นตามมา
แต่ทั้งนี้เองจุดประสงค์หลัก ๆ ของมันจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากการ 'Scaling' หรือทำให้ Cardano ใหญ่ขึ้น, เร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง ไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากนั้น
ทำไมต้องอัปเกรด?
Key Takeaway: เพื่อทำลดขนาดธุรกรรม, ลดความล่าช้า, ยกระดับประสิทธิภาพ - ผู้ใช้รายย่อยแทบไม่เห็นผล
อยากที่บอกไป เป้าหมายของการอัปเกรดคือการ Scaling แต่มันทำงานยังไงกัน?
เอาง่าย ๆ เลย Vasikl Hard Fork จะเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานภายในให้ง่ายต่อเหล่านักพัฒนามากขึ้น, ทำให้ขนาดของแต่ละธุรกรรมเล็กลง, ลดความล่าช้าของระบบ และตามมาด้วยประสิทธิภาพโดยรวมที่สูงขึ้นโดยเฉพาะกับ DApps (Decentralized Applications) อย่างพวก DeFi, เกม NFT หรือโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่ทำงานอยู่ใน Cardano ขณะนี้
จริง ๆ แล้วก็ประมาณนี้เลยสำหรับผลลัพท์ที่จะตามมา ถ้าถามว่ามันเกี่ยวอะไรกับผู้ใช้งานรายย่อยอย่างเรา ๆ บ้างรึเปล่าก็อาจจะไม่เท่าไร จนแทบจะไม่เกี่ยวข้องเลยด้วยซ้ำ สามารถนั่งอยู่เฉย ๆ เทรดเหรียญ เล่น DeFi หรืออะไรก็ตามต่อได้อย่างสบายใจ ถึงขนาด IOHK ยังระบุไว้เลยว่า
ผู้ที่ถือเหรียญ ADA ธรรมดา ๆ ที่ใช้บล็อกเชน Cardano ในการทำธุรกรรม หรือผู้ใช้งาน DApps ไม่จำเป็นต้องทำอะไร เนื่องจากการอัปเกรดแทบจะทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเบื้องหลัง
ดังนั้นผู้ใช้อย่างเรา ๆ ก็นั่งเฉย ๆ ดูความสำเร็จ (รึเปล่า) หลังอัปเกรดกันก็พอแล้ว
เจาลึกอีกนิด มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง?
Key Takeaway: 4 หัวข้อการอัปเกรด + Diffusion pipelining
มาถึงข้อนี้อาจจะต้องลงลึกกันหน่อย การอัปเกรดในแต่ละครั้งของ Cardano จะประกอบด้วย 'หัวข้อ' การอัปเกรดต่าง ๆ ที่เราจะเรียกมันว่า CIP (Cardano Improvement Proposal) ซึ่ง Vasil Hard Fork ในครั้งนี้จะประกอบไปด้วย 4 CIP ที่มีจุดประสงค์แตกต่างกันไป รวมไปถึงยังเป็นการเปิดตัว Diffusion pipelining ระบบใหม่ป้ายแดงของ Cardano อีกด้วย
แต่ปัญหาคือ Diffusion pipelining หรือ CIP แต่ละหัวข้อทำอะไรบ้าง, เปลี่ยนแปลงจุดไหน ฯลฯ ของการอัปเกรดนี้ไม่ใช่อะไรที่เข้าใจง่ายเลย เป็นศัพท์เฉพาะของบรรดานักพัฒนาบล็อกเชน/Cardano เท่านั้น ดังนั้นผู้ใช้อย่างเรา ๆ ก็รู้แค่ว่าแต่ละหัวข้อคือการช่วยทำให้เครือข่ายเร็วขึ้น, เพิ่มประสิทธิภาพ, ลดค่า Gas และทำให้นักพัฒนาทำงานสะดวกขึ้น แค่นั้นก็พอแล้ว
ดังนั้นถ้าใครต้องการอ่านเพิ่มเติมก็สามารถดูได้ตามเว็บไซต์ของ Cardano ได้เลย ...ขอไม่แปลให้แล้วกัน แต่อย่างไรก็ตามในทุกหัวข้อก็มีจุดประสงค์เดียวกันหมดก็คือเพื่อสเกลบล็อกเชนให้ใหญ่ขึ้นนั่นเอง
Timeline ละ? ตอนนี้ถึงขั้นตอนไหนแล้ว
Key Takeaway: มาจริง 22 กันยาฯ นี้
Vasil Hard Fork มีกำหนดการแบบใกล้สุด ๆ ในวันที่ 22 กันยายนนี้แล้ว แม้จะเลื่อนกำหนดมาตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้ก็คงผ่านไปได้ด้วยดี ลุล่วงจริง ๆ แล้ว ก็คงต้องมาจับตาดูกันต่อไปว่าหลังอัปเกรดจะเป็นอย่างไรต่อไป จะมีโปรเจกต์ตบเท้าเข้ามาเปิดใน Cardano มากขึ้นจริงรึเปล่า? ก็คงไม่มีใครรู้ได้
ซึ่งหลังจากอัปเกรด Vasil เสร็จสิ้น ก็ต้องมาจับตาดูกันต่อกับเฟสถัดไปอย่าง Voltaire ที่จะเป็นการทำให้ระบบนิเวศน์ Cardano สามารถปกครองตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ หรือที่เรียกกันว่าการ 'Governance'
ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2023 อ้างอิงจากการอัปเกรดใหญ่ของ 2 เฟสก่อนหน้าอย่าง Shelby Hard Fork และ Alonzo Hard Fork ที่เกิดขึ้นทุกปี ในช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน ก็คงต้องมาจับตาดูกันอีกครั้งว่าการอัปเกรดสุดท้ายของ Roadmap ปัจจุบันนี้จะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง และจะมี Roadmap ใหม่เกิดขึ้นมาหรือไม่หลังจากนี้