ข่าว Bitcoin

Bitcoin Halving คืออะไร? ทำไมเหตุการณ์นี้ถึงมีความสำคัญ

18hz P9j Rhiy Fxb Q6b Wr4s Kg.jpg

หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดของวงการคริปโตคือ เหตุการณ์ Bitcoin Halving ทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อในราคาของสกุลเงินดิจิทัล เหตุการณ์นี้ความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดภายในระบบนิเวศของ Bitcoin แต่มันคืออะไร ไปดูกันเลย

  • Bitcoin halving เป็นเหตุการณ์ที่รางวัลจากการขุด BTC ลดลงครึ่งหนึ่ง
  • เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นทุกสี่ปีซึ่งครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในปี 2024
  • Bitcoin halving เป็นส่วนหนึ่งของระบบที่ออกแบบมาเพื่ออุปทานให้จำกัดอยู่ที่ 21 ล้าน BTC

หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดของวงการคริปโตคือ เหตุการณ์ Bitcoin Halving ทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อในราคาของสกุลเงินดิจิทัล โดยการลดจำนวน BTC ในการหมุนเวียนและเพิ่มความต้องการ BTC เหตุการณ์นี้จึงมีผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดภายในระบบนิเวศของ Bitcoin

Bitcoin halving หมายถึงเหตุการณ์ที่หน่วยใหม่ของสกุลเงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะลดลงครึ่งหนึ่ง เมื่อเข้าสู่การหมุนเวียนในระบบนั่นเอง

สิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์โดยรวม เพื่อรักษาอุปทานสูงสุดของบิทคอยน์ให้คงที่ ตรงกันข้ามกับสกุลเงินปกติ (fiat currency) เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีอุปทานไม่จำกัดโดยพื้นฐาน และสูญเสียมูลค่าเมื่อรัฐบาลพิมพ์เงินออกมามากเกินไปในระบบ

Bitcoin halving ทำงานอย่างไร

ก่อนที่จะรู้ว่า Bitcoin halving มีการทำงานอย่างไร เรามารู้จักกับพื้นฐานของการสร้างสกุลเงินดิจิทัลกันก่อน

บิทคอยน์เกิดขึ้นจากระบบกระจายอำนาจ ซึ่งนักขุดใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีพลังสูงในการไขการเข้ารหัส (cryptographic) เพื่อยืนยันและตรวจสอบธุรกรรมในบัญชีแยกประเภทของบิทคอยน์ หรือที่เรียกว่าบล็อคเชน บิทคอยน์ใช้ระบบที่เรียกว่า Proof-of-Work (PoW) ซึ่งหมายความว่า ผู้ขุดต้องพิสูจน์ว่าพวกเขาได้พยายามประมวลผลธุรกรรมเพื่อรับรางวัล ความพยายามนี้รวมถึงเวลาและพลังงานที่ใช้ในการรันฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ และการแก้สมการที่ซับซ้อน 

ในทางกลับกัน พวกเขาได้รับการชำระเงินในรูปของ BTC ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่นั่นเอง

การขุด Bitcoin เป็นการแข่งขันกัน คนงานเหมืองจะแข่งกันเพื่อเพิ่มบล็อกใหม่ให้กับบล็อคเชนเป็นคนแรก แต่ละบล็อกที่ถูกเพิ่มเข้ามา พวกเขาจะได้รับรางวัลเป็น BTC ใหม่จำนวนหนึ่ง ผู้ก่อตั้ง Bitcoin ได้ตั้งโปรแกรมไว้ให้รางวัลบล็อกมีการลดลงครึ่งหนึ่งตามเวลาที่ผ่านมา

รางวัลสำหรับการขุดบล็อกจะลดลงครึ่งหนึ่งสำหรับทุก ๆ 210,000 บล็อกที่มีการขุด ดังนั้น Bitcoin halving จึงเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณสี่ปี เหตุการณ์ Halving ครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นครั้งที่สามเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2020 และครั้งต่อไปคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2024

ในทางทฤษฎี เมื่อบิทคอยน์ได้ถูกสร้างครบ 21 ล้านเหรียญแล้ว  เหรียญจะไม่มีการผลิตอีก

Buchi Okoro ซีอีโอของ Quidax แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีของแอฟริกากล่าวว่า "เช่นเดียวกับที่มีทองคำที่มีจำนวนจำกัดบนโลกจำนวน Bitcoin นั้นจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น" "Bitcoin แทบจะเปรียบเสมือนทรัพยากรธรรมชาติสำหรับโลกอินเทอร์เน็ตเลยทีเดียวและนั่นเป็นเหตุผลว่าที่ผู้คนเรียกมันว่า ‘ทองคำดิจิทัล' (digital gold)“

ทำไมต้องมี Bitcoin halvings?

ใครเป็นคนสร้าง Bitcoin (BTC) ยังคงเป็นปริศนา แต่เชื่อกันว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกคิดค้นมา เพื่อให้เป็นสกุลเงินที่มีลักษณะเงินฝืดด้วยกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

การลดจำนวนบล็อกลงครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้รางวัลจากการขุดลดลง การสร้าง BTC ใหม่จึงแพงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป แต่ละเหรียญมีค่ามากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้ตรงกันข้ามกับสกุลเงินปกติ เช่น ดอลลาร์สหรัฐที่สูญเสียมูลค่าเมื่อเวลาผ่านไปจากการพิมพ์เงินออกมามากเกินไปในระบบ

แต่ Bitcoin จะเป็นสินทรัพย์ที่เงินฝืดจริงหรือไม่นั้นยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

Daniel Waterloo ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการจาก Illinois Institute of Technology กล่าวว่า “หาก Bitcoin (BTC) ได้รับการยอมรับเป็นการชำระเงินสำหรับสินค้าและบริการ มันก็อาจตีความแบบนั้นได้” เขาได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “อย่างไรก็ตาม ธุรกิจส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ Bitcoin เป็นการชำระเงิน ดังนั้นนี่อาจไม่ใช่วิธีที่ดีในการวัดมูลค่าเงินฝืด”

ในทางกลับกัน มูลค่าของ Bitcoin นั้นเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความเป็นจริงมากกว่า เช่น ค่าไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับการขุดบล็อค และความเต็มใจของผู้คนที่จะจ่ายเพื่อให้ได้รางวัลเป็น BTC

เขากล่าวว่า “BTC เป็นสินทรัพย์เงินฝืดในแง่ที่ว่า เมื่อเวลาผ่านไปจะมีเหรียญน้อยลงที่จะจ่ายบิลค่าไฟฟ้าที่ค่อนข้างคงที่ ดังนั้นแต่ละเหรียญจะต้องมีมูลค่ามากกว่าเหรียญก่อนหน้า (ก่อนเหตุการณ์ Halving)"

อีกทฤษฎีหนึ่งสำหรับเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการ Halving ของ Bitcoin ก็คือ ผู้สร้างสกุลเงินดิจิทัลต้องการสร้างเหรียญในสัดส่วนที่มากขึ้นตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อดึงดูดให้ผู้คนเข้าร่วมเครือข่ายในฐานะนักขุด

จะเกิดอะไรขึ้นกับราคา Bitcoin ในช่วง Halving?

คำว่า "Halving" เกี่ยวข้องกับจำนวนโทเค็น BTC ที่พบในบล็อกที่สร้างขึ้นใหม่ ย้อนกลับไปในปี 2009 เมื่อ Bitcoin เปิดตัว แต่ละบล็อกมี 50 BTC หลังจากการ Halving ครั้งแรก บล็อกที่สร้างขึ้นถูกลดลงเหลือ 25 และจากนั้น 12.5 และจากนั้นก็กลายเป็น 6.25 BTC ต่อบล็อก ณ วันที่ 11 พฤษภาคม 2020

Screenshot 2022 01 31 at 12.45.51 1024x622.png

ข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin halving กับการเพิ่มขึ้นของราคาของ Bitcoin แน่นอนว่าราคาไม่เพียงได้รับผลกระทบจากการลดลงครึ่งหนึ่งเท่านั้น แต่ยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยอื่นๆ อีกด้วย และนี่คือข้อมูลสรุปเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์ Halving สามครั้งแรก:

  • เหตุการณ์ Halving ครั้งแรก: ช่วงเวลาของการ Halving ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2012 ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 11 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นร้อยเท่าภายในปีเดียว
  • เหตุการณ์ Halving ครั้งที่สอง: เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมปี 2016 เครือข่าย Bitcoin มาถึงที่ 420,000 บล็อก ทำให้เกิดการ Halving ครั้งที่สอง ราคาของ Bitcoin ผันผวนระหว่าง 500 ดอลลาห์ถึง 1,000 ดอลลาห์เป็นเวลาสองสามเดือน และในที่สุดก็เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ดอลลาห์ในเดือนธันวาคมปี 2017
  • เหตุการณ์ Halving ครั้งที่สาม: Halving ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมปี 2020 ซึ่งมาพร้อมกับตลาดกระทิงสกุลเงินดิจิทัลอีกครั้ง ในช่วงเวลาของการ Halving นี้ Bitcoin ซื้อขายที่ประมาณ 9,000 ดอลลาห์ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นไปที่ประมาณ 30,000 ดอลลาร์ในสิ้นปี 2020 

“ในช่วงต้นของการยอมรับบิทคอยน์ ความสัมพันธ์ระหว่างราคาและอัตราการขุดนั้นมีนัยสำคัญมาก" Tom Frazier ซีอีโอของ Redivider Blockchain กล่าวว่า “ในวันนี้และเมื่อ Bitcoin เติบโตเต็มที่ การ Halving แต่ละครั้งมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อราคาน้อยลงไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศต่าง ๆ หันมาใช้สกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น และมีการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและกฎระเบียบที่มีเสถียรภาพมากขึ้น”

สำหรับแง่มุมของภาวะเงินฝืดของ Bitcoin เราสามารถมองตามบริบทที่เกิดขึ้นได้ ตามที่ Tracy Levine หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลและวิทยาศาสตร์การตัดสินใจที่ Blockchain Chamber of Commerce กล่าวไป

“ตอนนี้มีเหตุการณ์ Halving ไปเพียง 3 ครั้งจากทั้งหมด 64 ครั้ง รางวัลจากการขุดที่ลดลงครึ่งหนึ่งมีกำหนดจะเกิดขึ้นก่อนปี 2140" Levine กล่าวว่า “หากแนวโน้มของราคาได้ทำจุดสูงสุดที่สูงขึ้น (higher high) และจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น (higher low) หลังจากที่ Halving ยังคงดำเนินต่อไป ราคาของ Bitcoin ในอนาคตก็ทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ เมื่อเทียบกับสินทรัพย์บางอย่างที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ตามอำเภอใจ”

จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากขุดบิทคอยน์ครบแล้ว?

เหตุการณ์ Halving ครั้งสุดท้ายคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2140 หลังจากนั้นรางวัลบล็อคจะไม่อยู่ในรูปของ BTC ผู้ขุดจะได้รับรางวัลเป็นค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้เครือข่าย ผู้ที่ซื้อและขายบิตคอยน์ เพื่อให้พวกเขาได้รับแรงจูงใจในการดำเนินการธุรกรรมบนบล็อคเชนต่อไป

เหตุการณ์นี้ส่งผลต่อนักขุดอย่างไร?

ผลกระทบของการขุด Bitcoin บนระบบนิเวศนั้นมีความซับซ้อน ในอีกด้านหนึ่งอุปทานของ bitcoin ที่ลดลงจะเพิ่มความต้องการซื้อและราคา แต่รางวัลที่น้อยลงนี้ก็ทำให้นักขุดรายย่อยหรือกลุ่มขุดเล็กๆ อยู่รอดได้ยาก เพราะยากที่จะแข่งขันกับบริษัทขุดขนาดใหญ่ ซึ่งจากการวิจัยเผยว่า ความสามารถในการขุดของ BTC นั้นสวนทางกับราคาของมัน ดังนั้นเมื่อราคาของสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้น จำนวนผู้ขุดในระบบนิเวศจะลดลงตามไปด้วย

Bitcoin halving เป็นเหตุการณ์ที่ตื่นเต้นมากที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณสี่ปี โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2012 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเขียนโปรแกรมที่อยู่ภายใต้สกุลเงินเสมือน เพื่อรักษาอุปทานทั้งหมดให้คงที่ ในฐานะนักลงทุน สิ่งสำคัญคือ ระวังเหตุการณ์ Bitcoin halvings เนื่องจากในอดีตเคยก่อให้เกิดความผันผวนของราคาอย่างมาก การลดลงครึ่งหนึ่งครั้งต่อไปคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2024

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ  

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ก.ล.ต. ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัล ส่งมอบข้อมูลกระดานเทรดที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้พิจารณาปิดกั้นการเข้าถึง!
คาดการณ์ราคา Bitcoin หลังช่วง Halving! พร้อมเผยเป้าหมาย ที่เหรียญอาจทำราคาพุ่งไปถึง
98% ของธนาคารกลางทั่วโลก กำลังเตรียมใช้ CBDC
วาฬในเครือข่าย Solana ใช้เงินกว่า 4.9 ล้านดอลลาร์ ในการเข้าซื้อเหรียญมีม PUPS