ข่าว Bitcoin

คำถามโลกแตก! ทองคำ vs บิทคอยน์ อันไหนน่าลงทุนกว่ากัน?

Bitcoin Vs. Gold  Whose Future Looks More Promising .jpg

ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดข้อถกเถียงอย่างมากระหว่างทองคำและบิทคอยน์ อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์ทั้งสองมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน

ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดข้อถกเถียงอย่างมากระหว่างทองคำและบิทคอยน์ ผู้ชื่นชอบทองคำมักจะอ้างถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน เมื่อเทียบกับ BTC ที่มีความผันผวนสูงและการขาดการสนับสนุนด้านกฎระเบียบ ผู้ที่สนับสนุนบิทคอยน์มองว่า สกุลเงินดิจิทัลเป็น “ทองคำดิจิทัล” ด้วยผลตอบแทนและศักยภาพที่เหนือกว่า 

อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์ทั้งสองมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน

สินทรัพย์เสริมในพอร์ตการลงทุน

ในแง่ของสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุน ทั้งสองสินทรัพย์สามารถเสริมซึ่งกันและกันได้ในพอร์ตโฟลิโอ ทองคำอาจมีการใช้งานที่ดีกว่า BTC ในบางกรณี แต่ BTC ก็มีประโยชน์ในแง่ของการเคลื่อนย้ายและแบ่งได้ง่ายกว่า และนำไปใช้เป็นสกุลเงินได้

ขณะที่ทองคำมีเสถียรภาพมากกว่า เนื่องจากถูกใช้เป็นสินทรัพย์ที่หลบภัย (safe-haven) มาอย่างยาวนาน BTC ยังถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีการเก็งกำไร แม้ว่าจะมีบริษัทหลายแห่ง เช่น MicroStrategy ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลก็ตาม อย่างไรก็ตาม ด้วยผลตอบแทนที่เหนือกว่าบิทคอยน์ ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ

เนื่องจากศักยภาพของบิทคอยน์ที่จะกลายเป็นแหล่งเก็บมูลค่าในที่สุด สถาบันและนักลงทุนจำนวนมากแบ่งพอร์ตมาลงทุนบางส่วนใน BTC เพื่อป้องกันความเสี่ยงและกระจายความเสี่ยง

ในสหรัฐฯ อัตราภาษีบิทคอยน์น้อยกว่าทองคำ

ทองคำและ Bitcoin มีอัตราภาษีระยะยาวของสหรัฐฯ ที่แตกต่างกัน (สำหรับการลงทุนที่ซื้อและขายมานานกว่าหนึ่งปี) 

แต่สำหรับกำไรจากการซื้อขายระยะสั้น ซึ่งเป็นการถือครองที่น้อยกว่าหนึ่งปี ทั้งสองสินทรัพย์จะถูกเก็บภาษีตามอัตราภาษีเงินได้ของบุคคล บิทคอยน์ถูกเก็บภาษีในลักษณะเดียวกับการเป็นเจ้าของหุ้น โดยมีอัตรา 0-20% ขึ้นอยู่กับระดับรายได้ ทองคำถูกเก็บภาษีเป็นของสะสม ดังนั้นจึงมีอัตราระยะยาว 28% โดยไม่คำนึงถึงรายได้ของนักลงทุน

อุปทานที่จำกัด และอัตราเงินเฟ้อคงที่

บิทคอยน์เป็นที่เก็บมูลค่า (store of value) ในโลกของสกุลเงินดิจิทัลอยู่แล้ว และสามารถนำไปใช้ในวงกว้างได้ ทองคำได้รับการยอมรับให้เป็นแหล่งเก็บมูลค่าทั่วโลกมานานหลายศตวรรษ แต่ปริมาณที่จำกัดของ BTC และอัตราการขุดที่ค่อนข้างคงที่ ทำให้ BTC ได้เปรียบมากกว่า ขณะที่ทองคำนั้น สภาทองคำโลกประมาณการว่าอุปทานเหนือพื้นดินของทองคำเพิ่มขึ้นประมาณ 1-2% ต่อปี 

อุปทานที่จำกัดของ Bitcoin ที่มีอยู่เพียง 21 ล้านเหรียญและอัตราเงินเฟ้อที่ควบคุมได้คือกระดูกสันหลังทางการเงิน คาดว่า BTC เหรียญสุดท้ายจะถูกขุดในปี 2140 

ในทางทฤษฎี อุปทานทองคำอาจเพิ่มขึ้นได้ หากมีการค้นพบแหล่งแร่ขนาดใหญ่ หรือการกำเนิดของการขุดในอวกาศ แม้ว่าจะไม่น่าเป็นไปได้ก็ตาม ความกังวลที่อาจเกิดขึ้นสำหรับ Bitcoin นั้นรวมถึงการแฮ็กบล็อคเชนผ่านการคำนวณควอนตัมและการแบนของรัฐบาล

สื่อกลางในการแลกเปลี่ยนของบิทคอยน์

บิทคอยน์เหนือกว่าทองคำในฐานะสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน (medium of exchange) หรือรูปแบบการชำระเงิน ที่ต่างจากทองคำ BTC มีหน่วยบัญชีคงที่และสามารถแบ่งแยกและเคลื่อนย้ายได้ง่าย ทองคำไม่สามารถแบ่งได้ในทันที และมีปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับความบริสุทธิ์และการตรวจสอบความถูกต้อง ความสามารถในการติดตาม ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลชั้นนำอยู่บนบล็อกเชน ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ และได้เปรียบในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน

สกุลเงินดิจิทัลเริ่มได้รับการยอมรับให้เป็นรูปแบบการชำระเงินกับผู้ขายและผู้ค้าปลีก หลายคนที่ทำงานในชุมชนคริปโตจะได้รับเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin นอกจากนี้ นักกีฬามืออาชีพและคนอื่นๆ จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ได้สมัครใช้บริการที่แปลงรายได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลโดยอัตโนมัติเมื่อได้รับค่าจ้างเป็นสกุลเงินปกติ

เสถียรภาพที่เหนือกว่าของทองคำ

ความผันผวนของ Bitcoin และการร่วงลงอย่างมากในอดีต ทำให้เกิดช้อถกเถียงในแง่ตัวเก็บมูลค่า และแม้กระทั่งเป็นรูปแบบการชำระเงิน ผู้สนับสนุนทองคำโต้แย้งว่าสินทรัพย์ไม่สามารถเก็บมูลค่าได้ เพราะราคาอาจลดลงได้ถึง 80% ในเวลา 12 เดือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ทว่าทองคำไม่มีภูมิคุ้มกันโดยสิ้นเชิง เพราะนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2011 ถึงธันวาคมปี 2015 โลหะมีค่าร่วงลงประมาณ 45% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

ความผันผวนของ BTC เป็นอีกประเด็นที่น่ากังวล นับตั้งแต่เปิดตัว ราคามีความผันผวน 4-5 เท่าของทองคำ ทำให้นักเทรดบางรายยอมรับสกุลเงินดิจิทัลเป็นการชำระเงินได้ยาก การเปลี่ยนแปลงราคาระหว่างวันโดยเฉลี่ยของ Bitcoin ในช่วงสามปีที่ผ่านมามากกว่า 5% ซึ่งลดลงจากวันละ 6.4% เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ความผันผวนของทองคำค่อนข้างคงที่

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ  

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
แท็ก:
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC