ไบเดนลงนามกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานตัวใหม่แล้ว
ในที่สุดร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาผู้ใช้คริปโทได้รับการอนุมัติให้กลายเป็นกฎหมายฉบับจริงอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้
ในที่สุดร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาผู้ใช้คริปโทได้รับการอนุมัติให้กลายเป็นกฎหมายฉบับจริงอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้
การพิจารณาอย่างถี่ถ้วนจากทั้งวุฒิสภา และ สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐที่ดำเนินมาเป็นระยะเวลาหลายเดือน ในที่สุดร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาผู้ใช้คริปโทได้รับการอนุมัติให้กลายเป็นกฎหมายฉบับจริงอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้
ความสำเร็จครั้งใหญ่ของรัฐบาลไบเดน
ในวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พิธีลงนามได้ถูกจัดขึ้นที่ด้านหน้าทำเนียบขาว โดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ลงนามอนุมัติร่างกฎหมายมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่างพรรคเดโมแครต และ พรรรีพับลิกัน ต่อหน้าสื่อมวลชน, สมาชิกสภานิติบัญญัติ และสหภาพแรงงาน โดยไบเดนได้ออกมาขอบคุณสมาชิกวุฒิสภา Kyrsten Sinema และ Rob Portman รวมไปถึงผู้นำฝ่ายเสียงข้างน้อยอย่าง Mitch McConnell เป็นการส่วนตัว สำหรับความพยายามทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านมติวุฒิสภา
กฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายในการจัดหาเงินทุนเพื่อนำไปพัฒนาถนน, สะพาน, การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต, การติดตั้งแผงโซลาร์, สร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาโครงสร้างสำคัญอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ทางฝ่ายนิติบัญญัติก็ได้ดำเนินการยื่นร่างกฎหมายบังคับใช้ Cryptocurrency ให้กับสภาสูง และ สภาล่างพิจารณาต่อไปเป็นที่เรียบร้อย
กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานานส่งผลต่อคริปโทอย่างไร
หลังกฎหมายฉบับนี้ได้ผ่านการลงนามอนุมัติไปแล้วนั้น ทางหน่วยงานรัฐจะเริ่มดำเนินการรับมือกับธุรกิจสกุลเงินดิจิทัลด้วยกฎเกณฑ์ใหม่ที่เข้มงวดขึ้น และขยายร่างกฎหมายสำหรับบริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย นอกจากนี้กฎหมายดังกล่าวยังได้กำหนดให้มีการรายงานการทำธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ กับกรมสรรพากร ซึ่งเดิมทีทางกลุ่มสมาชิกวุฒิสภาได้ออกมาเสนอให้มีการแก้ไขร่างกฎหมายภาษีคริปโทดังกล่าวแล้ว แต่ทว่าข้อเสนอนั้นกลับถูกปฏิเสธไปในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ในขณะที่วุฒิสมาชิกจำนวนมากผู้อยู่เบื้องหลังความพยายามในการแก้ไขร่างกฎหมายคริปโทนั้นต่างพากันลงคะแนนเสียงให้สภาลงมติแก้ไขข้อกำหนดดังกล่าว แต่ทว่านักการเมือง Pat Toomey ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงร่างกฎหมายฉบับนั้นว่า “แพงเกินไป กว้างเกินไป ไม่คุ้มที่จะจ่าย และ คุกคามต่อระบบเศรษฐกิจคริปโทเกินไป” นอกจากนี้เขายังได้ออกมาเรียกร้องให้ปฏิเสธการแก้ไขร่างกฎหมายภาษีคริปโทอีกด้วย
การตัดสินใจในครั้งนี้นับเป็นเรื่องยากสำหรับสภานิติบัญญัติแห่งสหรัฐฯต่อการเปลี่ยนแปลงร่างกฎหมายคริปโทฉบับนี้ที่ได้ถูกกำหนดให้มีผลบังคับใช้ในปี 2024 โดยผู้คนต่างพากันออกมาเรียกร้องให้ทางรัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านี้
ทางด้าน Shannon Bray หนึ่งในสมาชิกพรรคลิเบอร์เทเรียนที่ลงชิงที่นั่งวุฒิสภาในพื้นที่รัฐนอร์ทแคโรไลนากลับออกมาสนับสนุนให้ผู้มีสิทธิลงคะแนน “เลือกตัวแทนที่เป็นมิตรต่อสกุลเงินดิจิทัล”
แม้ว่าจะมีการรายงานถึงความพยายามของวุฒิสมาชิก 2 ราย ได้แก่ Ron Wyden และ Cynthia Lummis ต่อการเปลี่ยนแหลงร่างกฎหมายภาษีคริปโทไม่ให้สามารถนำไปใช้กับผู้พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน และ Wallet ต่าง ๆ ได้ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนนักว่าข้อเสนอแก้ไขร่างกฎหมายของวุฒิสมาชิกทั้งสองจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างกฎหมายพื้นฐานในปัจจุบันอย่างไร ซึ่งกฎหมายเหล่านั้นจำเป็นต้องผ่านการพิจารณาจากทั้งวุฒิสภา และ สภาก่อนที่จะไปถึงโต๊ะของประธานาธิบดี