ข่าว Bitcoin

ระงับการชำระเงิน Crypto ในสหรัฐเพื่อรับมือ Ransomware

Xivdn9cxovc.jpg

กระทรวงการคลังของสหรัฐกำลังเตรียมระงับการชำระเงิน Crypto ในสหรัฐที่อาจมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้าเพื่อตอบโต้การโจมตีของ Ransomware ที่เพิ่มขึ้น

ฝ่ายบริหารของรัฐบาล Biden กำลังจับตามองเพื่อระงับการชำระเงิน Crypto ในสหรัฐที่มีส่วนร่วมในการเคลื่อนย้ายเงินทุนไปยังแฮกเกอร์ผู้ควบคุม Ransomware 

การทำงาน Ransomware

Ransomware เป็นมัลแวร์ (Malware) ประเภทหนึ่งที่มีลักษณะการทำงานที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลของผู้ใช้งาน แต่จะทำการเข้ารหัสหรือล็อกไฟล์ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร รูปภาพ วิดีโอ ผู้ใช้งานจะไม่สามารถเปิดไฟล์ใด ๆ ซึ่งจะต้องใช้คีย์ในการปลดล็อคเพื่อกู้ข้อมูลคืนมา ผู้ใช้งานจะต้องทำการจ่ายเงินตามข้อความ “เรียกค่าไถ่” ที่ปรากฏ

ผู้ใช้ยังสามารถกลายเป็นเหยื่อได้โดยไม่ได้ตั้งใจเพียงเข้าเยี่ยมชมหน้าเว็บที่ถูกผู้ไม่หวังดีเข้ามาควบคุมมักจะใช้ประโยชน์จากข้อบกพร่องหรือช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอื่น ๆ ในเบราว์เซอร์, แอปพลิเคชั่นหรือ ระบบปฏิบัติการ

มาตรการระงับการชำระเงิน Crypto ในสหรัฐ

มาตรการระงับการชำระเงิน Crypto ในสหรัฐครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่มากขึ้นในการยับยั้งการโจมตีของ Ransomware ซึ่งมีเป้าหมายโจมตีไปยังสถานที่ที่สำคัญในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยฝ่ายบริหารของ Biden มีความต้องการที่จะติดตามองค์กรอาชญากรรมแฮกเกอร์เหล่านี้และข้อมูลทางการเงินของพวกเขา

“There is a concerted effort to identify tools that can disrupt the flow of money to ransomware operators...This is a continuation of our effort to go after criminal enterprises and their money.”

ฝ่ายบริหารรัฐบาลสหรัฐ

เนื่องด้วยในปีนี้ประเทศสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของ Ransomware ที่มีส่วนทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญหยุดชะงักลงชั่วคราว โดยแฮ็กเกอร์ส่วนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วย Ransomware มักเรียกค่าไถ่โดยให้ชำระเงินด้วย crypto เพื่อยอมปลดล็อกการควบคุมระบบรักษาความปลอดภัย

การใช้โจมตีด้วย Ransomware ในสหรัฐ

การเตรียมระงับการชำระเงิน Crypto ในสหรัฐที่เกิดขึ้นแสดงถึงขั้นตอน “เชิงรุก” ขั้นแรกในการควบคุมการโจมตีด้วย ransomware ของแฮกเกอร์ ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้รับเสียงยกย่องจากหลายภาคส่วน แต่ขณะเดียวกันก็มีบริษัทและผู้ใช้งานแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน Crypto ในประเทศที่ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน

เหตุการณ์ที่ถือได้ว่าเป็นกรณีตัวอย่างซึ่งเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คือเหตุการณ์ที่ Colonial Pipeline ผู้ให้บริการเครือข่ายท่อส่งน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐต้องยกเลิกการดำเนินงานหลังจากที่กลุ่มอาชญากรแฮ็คเกอร์ DarkSide ได้เปิดการโจมตีระบบของเครือข่าย 

จากเหตุการดังกล่าวส่งผลให้เกิดวิกฤตด้านเชื้อเพลิงของประเทศ โดยกลุ่มแฮกเกอร์กลุ่มนี้เรียกค่าไถ่เป็น Bitcoin มูลค่าสูงถึง 4.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนของรัฐได้กู้คืน Bitcoin กลับมาได้บางส่วนในภายหลัง

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

นักวิเคราะห์เตือน! Bitcoin อาจใกล้ถึงจุดสูงสุด หลังผู้ถือครองระยะยาวเทขายกว่า 800,000 BTC ในหนึ่งเดือน
Ham's Rectangle Template   2024 12 10 T173224.361
โฆษณา Bitcoin ETF โผล่ในแอป Alipay ของจีนแผ่นดินใหญ่
MARA Holdings ซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 1.1 พันล้านดอลลาร์ พร้อมสร้างสถิติใหม่ด้วยกำลังขุดสูงที่สุดในอุตสาหกรรม