SharpLink ทุ่มซื้อ ETH มูลค่า 295 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าจำนวนเหรียญที่ถูกผลิตในหนึ่งเดือน
SharpLink กลายเป็นผู้ถือครอง Ether รายใหญ่อันดับสองของโลก หลังซื้อเพิ่มอีกกว่า 77,000 ETH พร้อมเดินหน้าใช้กลยุทธ์คลังสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง
SharpLink กลายเป็นผู้ถือครอง Ether รายใหญ่อันดับสองของโลก หลังซื้อเพิ่มอีกกว่า 77,000 ETH พร้อมเดินหน้าใช้กลยุทธ์คลังสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง
SharpLink Gaming บริษัทด้านเทคโนโลยี ได้เข้าซื้อ Ether (ETH) เพิ่มอีก 77,210 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 295 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการซื้อเพียงครั้งเดียวที่มีปริมาณมากกว่าการผลิตเหรียญใหม่บนเครือข่ายของ Ethereum ตลอดทั้ง 30 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีอยู่ที่ 72,795 ETH ตามข้อมูลจาก Ultra Sound Money
เหรียญ ETH ส่วนใหญ่ที่ได้มานั้นถูกนำไปใช้ในการ Staking เพื่อรับผลตอบแทนเพิ่มเติม ส่งผลให้ยอดการถือครอง ETH ของ SharpLink เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 438,000 เหรียญ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.69 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Lookonchain
ด้วยมูลค่าดังกล่าว SharpLink กลายเป็นบริษัทที่ถือครอง ETH มากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจาก BitMine Immersion Technologies ที่ถือครองมากกว่า 566,000 ETH หรือกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ และมีเป้าหมายที่จะถือครองให้ได้อย่างน้อย 5% ของอุปทานทั้งหมดของ Ethereum ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 6 ล้าน ETH มูลค่ากว่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน บริษัทเอกชนและกองทุน ETF ถือครอง ETH รวมกันประมาณ 8.12 ล้าน ETH คิดเป็นมูลค่ากว่า 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6.73% ของอุปทานทั้งหมด ตามข้อมูลจาก Strategic ETH Reserve
SharpLink ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขยายการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน บริษัทได้แต่งตั้ง Joseph Chalom อดีตผู้บริหารระดับสูงจาก BlackRock ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมการบริหารสินทรัพย์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (co-CEO) เพื่อวางแผนกลยุทธ์ให้กับบริษัท
นอกจากนี้ SharpLink ยังได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลฉบับแก้ไขต่อหน่วยงานกำกับดูแล เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม เพื่อขออนุมัติขยายวงเงินการเสนอขายหุ้นจาก 1 พันล้านดอลลาร์เป็น 6 พันล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่ของเงินที่ได้จะนำมาใช้สำหรับการซื้อ ETH เพิ่มเติม
SharpLink แสดงจุดยืนชัดเจนว่ากำลังวางตำแหน่งตนเองเป็นผู้เล่นหลักในระบบนิเวศของ Ethereum โดยโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X ว่า “ธนาคารปิดทำการในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ Ethereum ดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง”
การเข้าซื้อเหรียญ ETH จำนวนมากจากบริษัทเอกชนและนักลงทุนสถาบัน อาจนำไปสู่ภาวะขาดแคลนเหรียญในระบบ และก่อให้เกิดแรงผลักดันต่อราคาของ ETH ในอนาคต
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว
