ธนาคารกลางเล็งเปิดตัว CBDC กาตาร์ในอนาคต

Alanood Abdullah Al Muftah ประธานฝ่าย Fintech แห่งธนาคารกลาง (QCB) ได้ออกมาเปิดเผยถึงแผนการกำหนดทิศทางการพัฒนาองค์กรในอนาคต หลังเล็งเข้าตรวจสอบความเป็นไปได้ รวมไปถึงขีดความสามารถของสถาบันการเงินในการออกใบอนุญาตให้แก่ธนาคารดิจิทัล และการเปิดตัว CBDC กาตาร์ พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า

“ธนาคารกลางในแต่ละประเทศควรดำเนินการศึกษาในด้านธนาคารดิจิทัล หลังจากตลาดเหล่านี้เริ่มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดโลก นอกจากนี้พวกเรายังได้เล็งเห็นว่าทิศทางของตลาดนั้นกำลังมุ่งหน้าไปสู่การนำสกุลเงินดิจิทัลเข้ามาใช้ แต่ทว่าทางเราเองก็กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาค้นคว้าถึงความเป็นไปได้ที่จะนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ภายในประเทศ ว่าจะสามารถทำได้ หรือ ไม่ด้วยเช่นเดียวกัน”

เริ่มทดสอบระบบรองรับการเปิดตัว CBDC กาตาร์แล้ว

ประธานฝ่าย Fintech แห่ง QCB ยังได้เผยว่าปัจจุบันทางธนาคารกลางได้ร่วมมือกับองค์กรที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับระบบชำระเงินภายในประเทศทั้งหมด 3 แห่ง ได้เริ่มดำเนินการทดสอบระบบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางธนาคารยังคงดำเนินการพิจารณาบริษัทอื่น ๆ ที่สนใจนำนโยบาย Sandbox หรือ พื้นที่ที่บริษัท Fintech สามารถทดสอบผลิตภัณฑ์, บริการ, โมเดลธุรกิจ และกลไกในการจัดส่งรูปแบบใหม่ผ่านการตั้งค่าบนโลกแห่งความเป็นจริง พร้อมทั้งยังช่วยเร่งกระบวนการอนุมัติให้รวดเร็วขึ้น รวมไปถึงขั้นตอนการตรวจสอบการกำกับดูแลไปใช้เพิ่มเติมได้อีกด้วย

ธนาคารรายใหญ่ก็สนใจตลาดดิจิทัลไม่แพ้กัน

ทั้งนี้ Narayanan Srinivasan ซีโอโอ แห่งธนาคาร Dukhan Bank ในกาตาร์ก็ได้ออกมาเปิดเผยต่อสำนักข่าวแห่งหนึ่ง โดยระบุว่าปัจจุบันทางองค์กรกำลังดำเนินการตรวจสอบความเป็นไปได้ที่จะสร้างธนาคารดิจิทัลขึ้นภายในประเทศ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ร่วมกับระบบการชำระเงินขององค์กร หลังจากมีความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างถ่องแท้แล้วเท่านั้น

ทั่วโลกพากันศึกษาความเป็นไปได้ที่จะสร้าง CBDC

แม้ว่าสกุลเงินเสมือน อย่าง Bitcoin (BTC) จะเติบโตขึ้นจากการได้รับความนิยม และมีผู้ใช้งานจำนวนมากก็ตาม แต่เมื่อเหรียญดิจิทัลได้ถูกสร้างขึ้นมาให้อยู่ในรูปแบบของ CBDC ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลแล้วนั้น กลับถูกผู้คนมองว่าสินทรัพย์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นเพื่อนำมาใช้ต่อต้านการยอมรับเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลจาก Atlantic Council เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2019 พบว่ากว่า 87 ประเทศกำลังเร่งพัฒนา CBDC ประจำชาติของตนเองอยู่ ซึ่งมีเพียง 14 ประเทศเท่านั้นที่ได้ดำเนินการทดสอบเหรียญจนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และอีกกว่า 9 ประเทศที่ได้เริ่มนำ CBDC เข้ามาให้ประชาชนในประเทศได้ใช้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กรณีศึกษาที่ดีจากหยวนดิจิทัล

ตัวอย่างประเทศที่ได้ทดลองนำ CBDC เข้ามาใช้จนประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลนั้น คงหนีไม่พ้นกรณีศึกษาจากประเทศจีน หลังแจก CBDC มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามเมืองใหญ่ ๆ เช่น เซี่ยงไฮ้, เซินเจิน, ซูโจว และเฉิงตู ได้ทดลองนำหยวนดิจิทัลใช้ชำระค่าสินค้า และบริการตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2020 ยิ่งไปกว่านั้น สำนักข่าว South China Morning Post ยังได้รายงานว่าหลังจากแอปพลิเคชัน e-CNY เปิดตัวบน App Store ของ Apple เพียง 1 วัน ก็ได้สร้างยอดดาวน์โหลดพุ่งขึ้นสู่อันดับที่ 1 ได้อย่างรวดเร็ว แซงหน้าแอปพลิเคชัน WeChat ของ Tencent ไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ส่งผลให้รัฐบาลตัดสินใจนำหยวนดิจิทัลเข้าไปทดลองให้ชาวต่างชาติใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกประจำปี 2022 ด้วยเช่นเดียวกัน ที่แม้ว่าจะต้องพบกับอุปสรรคจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ก็ตาม แต่ก็ยังมีชาวต่างชาติสนใจเข้ามาใช้เหรียญดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

หยวนดิจิทัลสร้างความหวาดกลัวให้กับประเทศมหาอำนาจ

ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ดังกล่าวได้สร้างความหวาดระแวงให้แก่ประเทศมหาอำนาจหลากหลายประเทศด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสหรัฐอเมริกาได้ออกมาแสดงความกังวลว่าหยวนดิจิทัลอาจส่งผลกระทบกับเงินดอลลาร์ในการทำหน้าที่เป็นสกุลเงินสำรองของโลกในอนาคตได้ พร้อมกับสั่งห้ามไม่ให้นักกีฬาชาวอเมริกันใช้ CBDC จากแดนมังกรในการชำระค่าสินค้า และบริการภายในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอย่างเด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นยังบังคับให้นักกีฬาใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นเก่า เพื่อป้องกันการถูกติดตามผ่านการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ

แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เพียงสหรัฐอเมริกาเพียงเท่านั้น แต่ทว่าสหราชอาณาจักรเองก็ยังได้เริ่มออกมาแสดงความวิตกกังวลต่ออำนาจของ CBDC จีนที่อาจถูกนำมาใช้ทำธุรกรรมได้ได้อย่างแพร่หลาย จนสามารถครอบงำโลกได้ในที่สุด