ข่าวธุรกิจ

Meta เล็งเพิ่มฟีเจอร์ NFT ลงบน Instagram

8.jpg

Mark Zuckerberg แอบเผยโปรเจกต์ใหม่ของ Meta เล็งเพิ่มฟีเจอร์ NFT ลงบน Instagram ให้ผู้ใช้งานสามารถมินต์ผ่านแอปพลิเคชันได้

แม้ว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Meta ต้องเผชิญกับอุปสรรคครั้งยิ่งใหญ่จากหลากหลายด้านมาแล้วก็ตาม แต่ทว่าในครั้งนี้ ซีอีโอ Mark Zuckerberg กลับออกมาประกาศข่าวดีให้บรรดาผู้ใช้งานได้ชื่นใจ ถึงโปรเจกต์ใหม่ที่ทาง Meta เล็งเพิ่มฟีเจอร์ NFT ลงบน Instagram แอปพลิเคชันแชร์วิดีโอ และรูปภาพชื่อดังภายในงานประชุม South by Southwest ที่ถูกจัดขึ้นในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม หนึ่งในนักข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศที่ได้เข้าร่วมประชุมด้วยนั้นได้โพสต์รายงานข่าวผ่านทางทวิตเตอร์ถึงความคาดหวังของซีอีโอ Meta ต่อฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งาน Instagram สามารถแปลง (Mint) ผลงาน NFT หรือ Non-Fungible Token ของพวกเขาผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

ไม่ใช่แค่เพียง Meta เล็งเพิ่มฟีเจอร์ NFT ตามกระแสความนิยม

บริษัทโซเชียลมีเดียรายใหญ่กำลังมองหาแนวทางที่จะนำคริปโตเคอเรนซี และ NFT เข้ามาใช้บนแพลตฟอร์มของตนเอง หลังจากที่แอปพลิเคชัน Twitter ตัดสินใจที่จะเพิ่มฟังชันรองรับการตั้งรูปโปรไฟล์ของผู้ใช้งานด้วยสินทรัพย์ NFT ได้ เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา นอกจากนี้ทาง Reddit เองก็ได้สร้าง Avatar NFT ในคอลเลกชันของตนเองขึ้นตามกระแสความนิยม รวมไปถึงแพลตฟอร์มสำหรับผู้ใหญ่ชื่อดังอย่าง OnlyFans ก็ออกมาอนุมัติฟังก์ชันการเปิดใช้รูปโปรไฟล์ด้วย NFT ไปเมื่อเดือนธันวาคมปี 2020 ด้วยเช่นเดียวกัน

Dappradar.com Reddit Twitter and Cnn Enter Nft Race Screen Shot 2021 07 01 at 11.40.12 1024x516.png

ต้องยอมรับเลยว่าในปีที่ผ่านมา กระแสความต้องการในตัวสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นแพร่กระจายออกไปในหลากหลายอุตสาหกรรมภายช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ไม่เว้นแม้แต่สถานบันการเงินแบบดั้งเดิมจำนวนมากที่ได้ออกมาแสดงความสนใจในตลาดคริปโตไม่แพ้อุตสาหกรรมอื่น ๆ เลย โดยจะเห็นได้จาก American Express บริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่ได้ออกมาบอกใบ้ถึงการขยายกิจการเข้าสู่จักรวาล Metaverse ผ่านการยืนจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า นอกจากนี้สัญญาณดังกล่าวยังเป็นเครื่องหมายสำคัญที่บ่งชี้ว่าบริษัทพร้อมที่จะให้บริการธนาคาร และแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล รวมไปถึงการเปิดใช้งานบัตรเครดิตบนตลาด NFT อีกด้วย

Meta เผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา บริษัทผู้ผลิตสื่อโซเชียลมีเดียชื่อดัง Facebook ได้เปลี่ยนชื่อขององค์กรเป็น Meta ที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโปรเจกต์ Metaverse อย่างจริงจัง โดยรายงานผลประกอบการในไตรมาสสุดท้ายในปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าบริษัทขาดทุนไปมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการลงทุนไปกับงานวิจัยเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR), ฝ่ายพัฒนาองค์กร และ Reality Labs ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการสูญเสียเงินทุนจำนวนมหาศาลเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ หลังจากที่โปรเจกต์ Metaverse ได้ถูกเปิดตัวออกไปแล้ว แต่ทว่าปัจจุบันทางองค์กรก็ยังไม่ได้ออกมาเผยรายละเอียดที่ชัดเจนว่าทางองค์กรได้รับกำไรจากโครงการดังกล่าวมากน้อยเพียงใด

Bd1911b0 7e46 11ec Bfff 078760abd984.cf .jpg

นอกเหนือจากโครงการ Metaverse แล้วนั้น ทาง Meta ก็เคยพยายามที่จะก้าวเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมคริปโตอย่างจริงจังมาแล้ว โดยทางบริษัทตัดสินใจประกาศสร้างเหรียญ Stablecoin ที่ตรึงมูลค่าไว้กับเหรียญดอลลาร์สหรัฐของตนเองขึ้นในปี 2019 ภายใต้ชื่อ Libra ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Diem ในเวลาต่อมา แต่ทว่า ในท้ายที่สุดแล้ว Meta ก็ต้องล้มเลิกความตั้งใจ และโยนแผนการเหล่านั้นทิ้งไป เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลไม่อนุมัติทางบริษัทดำเนินการเปิดตัว รวมไปถึงขาดการสนับสนุนจากคอมมิวนิตีด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทจึงจำใจที่จะต้องขายแผนการพัฒนาเหรียญคริปโตดังกล่าวให้กับ Silvergate Capital เพื่อหาเงินทุนกลับมาชดใช้ให้กับหุ้นส่วน

กระแส NFT เริ่มลดลงในช่วงต้นปี 2022

Google Trends ผู้ให้บริการตรวจสอบความนิยมของคำค้นหา หรือ เว็บไซต์ ชี้ให้เห็นว่าคำว่า NFT ก็ได้รับความนิยมจากผู้คนอย่างล้นหลาม จนสามารถทะยานขึ้นไปแตะสถิติคำค้นหาที่ผู้คนนิยมใช้สูงที่สุดในปี 2021 แต่ทว่า นับตั้งแต่ปี 2022 ที่ผ่านมาความนิยมของ NFT ก็เริ่มร่วงลงมาจนน่าใจหาย โดย จำนวนการค้นหานั้นร่วงลงมาจนแตะจุดต่ำที่สุดของสถิติทั้งหมดที่เคยทำมาในเดือนมีนาคม ปีนี้ ซึ่งแน่นอนว่าคีย์เวิร์ดคำว่า Metaverse เองก็ได้รับความสนใจลดลงมาเช่นเดียวกัน ก็ต้องมารอลุ้นกันว่าโปรเจกต์ใหม่ของ Meta นั้นจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากบรรดาผู้ใช้งานหรือไม่

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ผู้ร่วมก่อตั้ง Axelar เผย! การมาถึงของ RLUSD Stablecoin จะช่วยผลักดันความต้องการ XRP อย่างมีนัยสำคัญ
ไม่พร้อมรับข่าวร้าย! นักเทรดคริปโตถูกล้างพอร์ตมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ครั้งแรก! Bitcoin-Ethereum ETF จาก Hashdex และ Franklin Templeton ได้รับอนุมัติพร้อมกัน
ข้อมูลจาก Santiment เผยสัญญาญเชิงบวก หลังพบ 104 กระเป๋าวาฬถือครองกว่า 57% ของ Ethereum ทั้งหมด