ปริมาณ Ether บนกระดานเทรดแตะระดับต่ำสุดรอบ 9 ปี ท่ามกลางกระแสการสะสมจากสถาบันการเงิน
ข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่า ปริมาณ Ether (ETH) ที่ถืออยู่บนกระดานเทรดรวมลดลงเหลือเพียง 14.8 ล้าน ETH ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2016 สะท้อนถึงการย้ายสินทรัพย์ออกจากตลาดสู่ การถือครองระยะยาว, Staking และกองทุนสถาบัน

ข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่า ปริมาณ Ether (ETH) ที่ถืออยู่บนกระดานเทรดรวมลดลงเหลือเพียง 14.8 ล้าน ETH ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2016 สะท้อนถึงการย้ายสินทรัพย์ออกจากตลาดสู่ การถือครองระยะยาว, Staking และกองทุนสถาบัน
ข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่า สัดส่วน ETH บนกระดานเทรดเมื่อเทียบกับซัพพลายทั้งหมด (Exchange Supply Ratio) ลดลงมาอยู่ที่ 0.14 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2016
การไหลออกจากกระดานมักบ่งชี้ถึงการที่นักลงทุนเลือกโอนเหรียญไปเก็บในกระเป๋าส่วนตัวหรือ DeFi เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทน มากกว่าที่จะนำเข้าสู่ตลาดเพื่อขาย
บริษัทและสถาบันเร่งสะสม ETH
การไหลออกจากตลาดเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่เดือนมิถุนายน หลังจากบริษัทคริปโต เช่น BitMine ที่มี Tom Lee เป็นประธาน เริ่มเร่งสะสม ETH จนถือครองมากกว่า 2% ของซัพพลายทั้งหมด
ข้อมูลจาก StrategicEthReserve ระบุว่า ตั้งแต่เดือนเมษายนมีองค์กรราว 68 แห่ง ซื้อรวมกัน 5.26 ล้าน ETH คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.17 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 4.3% ของซัพพลายทั้งหมด
นอกจากนี้ กองทุน Spot Ether ETF ในสหรัฐฯ ก็กำลังดึงดูดเม็ดเงินอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันถือครองแล้วกว่า 6.75 ล้าน ETH มูลค่าเกือบ 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์
รวมแล้ว สถาบันการเงินและกองทุนต่าง ๆ ได้ถือครองไปแล้วราว 10% ของ ETH ทั้งหมดในระบบ
นักวิเคราะห์จาก BTC Markets อย่าง Rachael Lucas แสดงความคิดเห็นว่า การสะสม ETH จากกองทุนและบริษัทถือเป็น “การเข้ามามีส่วนร่วมของ Wall Street”
“บริษัท Treasuries กำลังสะสม ETH, ปริมาณเหรียญบนกระดานเทรดแตะต่ำสุดรอบ 9 ปี และ Tom Lee คาดราคาแตะ $10,000–$15,000 ภายในสิ้นปี” เขากล่าวเสริม
ราคายังเผชิญแรงกดดันระยะสั้น
แม้กระแสการสะสมระยะยาวยังแข็งแกร่ง แต่ราคาของ ETH กลับปรับตัวลงกว่า 11% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และร่วงลงต่ำกว่า $4,100 เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีนี้
การลดลงของซัพพลาย ETH บนกระดานเทรดสะท้อนแรงซื้อสะสมจากสถาบันที่ชัดเจนที่สุดในรอบเกือบทศวรรษ ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่ากระแสนี้อาจผลักดันราคาเข้าสู่โซน $10,000–$15,000 ได้ในปีนี้ แม้ระยะสั้นยังมีแรงกดดันจากการปรับฐาน
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว