ข่าวต่างประเทศ

ธนาคารกลางยุโรปเริ่มทดลองระบบชำระเงินยูโรดิจิทัลแล้ว

14c4df9c9cb27145e48c9cd5b272ca39.jpg

ผู้มีอำนาจทางการเงินในยุโรปประกาศรับสมัครบริษัทที่สนใจเข้ามาร่วมทดลองระบบชำระเงินยูโรดิจิทัล หลังประกาศเดินหน้าทดสอบ Interface ชำระเงินตัวใหม่

ธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank - ECB) และผู้มีอำนาจทางการเงินในกลุ่มยูโรโซน (Eurosystem) แถลงการณ์ลุยพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) หรือ ยูโรดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง หลังได้เริ่มค้นหาบริษัทที่จะมาเข้าร่วมทดลองระบบชำระเงินยูโรดิจิทัลร่วมกับลูกค้าของตน โดยผู้ให้บริการชำระเงิน, ธนาคาร และบริษัทที่เกี่ยวข้องหลายแห่งต่างก็ได้รับเชิญเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 28 เมษายน ให้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นต่อโปรเจกต์การพัฒนาในครั้งนี้

Eurosystem รับสมัครบริษัทที่จะเข้ามาร่วมทดลองระบบชำระเงินยูโรดิจิทัล

Eurosystem หรือ ผู้มีอำนาจทางการเงินในกลุ่มยูโรโซน ซึ่งได้แก่ ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางจากประเทศต่าง ๆ ที่ใช้สกุลเงินยูโร เป็นต้น ระบุว่าทางสมาคมจะคัดเลือกผู้ให้บริการด้าน Front-end เพียงแค่ 5 แห่งให้เข้ามาร่วมพัฒนาเหรียญดิจิทัลในครั้งนี้ โดยจะพิจารณาจากความสามารถ และตัวอย่างโปรเจกต์ที่มีการดำเนินงานในปัจจุบัน ซึ่งบริษัทที่ได้รับคัดเลือกไม่จำเป็นจะต้องมีประสบการณ์ให้บริการระบบต้นแบบมาก่อนแต่อย่างใด

Front End Web Development Vs Back End Web Development 1024x576.png

อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้ดำเนินการบริการระบบชำระเงินต้นแบบจำเป็นจะต้องมีความสามารถในการพัฒนาแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามรายละเอียดเดิมที่ผู้ให้บริการหลังบ้าน (Back-end) และ Interface ได้กำหนดเอาไว้บนระบบ พร้อมกันนี้บริษัทที่สนใจยังสามารแสดงความคิดเห็นต่อการใช้งานระบบได้อย่างอิสระ เช่น วิธีการที่จะช่วยให้ระบบสามารถดำเนินการไปตามข้อกำหนดทางเทคนิคได้ เป็นต้น โดยทางสมาคมยินดีที่จะเพิ่มข้อเสนอต่าง ๆ เหล่านั้นลงไปในบริการดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ แม้ว่าผู้ที่สนใจเป็นหนึ่งในผู้พัฒนายูโรดิจิทัลไปพร้อมกับ Eurosystem จะไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เลยก็ตาม แต่ทว่าอาจมีการคิดค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมในระหว่างการพัฒนาเหรียญในขั้นตอนต่อ ๆ ไปภายหลังได้

กำหนดการการเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วพัฒนาโปรเจกต์ดังกล่าวจะมีขึ้นนับตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม โดยทางสมาคมวางแผนที่จะเริ่มต้นดำเนินงานครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ที่จะถึงนี้ พร้อมคาดว่าการพัฒนาดังกล่าวจะสามารถเสร็จสิ้นลงได้ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า ซึ่งส่งผลให้ขั้นตอนการตรวจสอบการทดลองยูโรดิจิทัลบรรลุผลลงได้ภายในเดือนตุลาคมปี 2023 โดย ณ ขณะนั้น ทางสมาคม Eurosystem จะต้องตัดสินใจว่าจะเดินพัฒนาเหรียญยูโรดิจิทัล หรือ CBDC ของยุโรปออกสู่โลกแห่งความเป็นจริงต่อไปได้หรือไม่

ชาวยุโรปยังไม่ค่อยเชื่อมั่นในยูโรดิจิทัล

สำหรับขั้นตอนการดำเนินการพัฒนายูโรดิจิทัลครั้งล่าสุดนี้ มีข้อพิพาทต่าง ๆ มากมายจากหลากหลายฝ่ายด้วยกัน โดยในเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ได้รับข้อเสนอแนะตีกลับมาจากประชาชนชาวยุโรปราว 11,000 รายเกี่ยวกับโปรเจกต์ยูโรดิจิทัลที่ได้แสดงความกังวลต่อการเฝ้าระวัง และความเสี่ยงในการถูกแทรกแซงโดยรัฐบาล ทางด้าน Fabio Panetta หนึ่งในคณะกรรมการบอร์ดบริหารแห่ง ECB ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การออกสกุลเงินดิจิทัลอย่าง ยูโรดิจิทัลนั้น ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ไปเสียแล้ว

สภายุโปรยังไม่ไฟเขียวให้คริปโต

แม้ว่าทางรัฐบาล และกลุ่มสมาชิก Eurosystem จะพยายามผลักดันให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจกับ CBDC มากขึ้นก็ตาม แต่ทว่า สำหรับตลาดคริปโตนั้นกลับมีแนวโน้มที่เป็นไปในทางตรงข้าม โดยในช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา รัฐสภาแห่งยุโรปได้ร่วมกันลงมติประกาศชะลอร่างกฎหมายกำกับดูแลคริปโตเคอร์เรนซีออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่าทางยุโปรจำเป็นจะต้องหาแนวทางในการรับมือกับประเทศรัสเซีย เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งได้มีผู้คนพากันคาดการณ์ว่าหนึ่งในสมาชิกสภาบางรายนั้นมีปัญหากับร่างกฎหมายที่ส่งเสริมการให้บริการคริปโตในลักษณะที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน จากการขุดเหมือง Bitcoin (BTC) ด้วยอัลกอริธึมแบบ Proof-of-work

Eu.jpg

พร้อมกันนี้ ทางด้านหน่วยงานรัฐหลายฝ่ายในยุโรป ประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ทางด้านการธนาคารของยุโรป, เจ้าหน้าที่ทางด้านประกันภัยและเงินบำนาญ, และเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลหลักทรัพย์และตลาดทุนของยุโรป ก็ได้ออกโรงเตือนบรรดานักลงทุนในพื้นที่ว่า สินทรัพย์ดิจิทัลนั้นไม่เหมาะสมที่จะให้นักลงทุนรายย่อยนำไปลงทุน หรือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากคริปโตนั้นมีความเสี่ยงต่อการซื้อขาย และการเก็งกำไรเป็นอย่างมาก รวมไปถึงความเป็นไปได้ที่นักลงทุนจะต้องสิ้นเนื้อประดาตัวจากการก้าวเข้าลงทุนในตลาดดังกล่าวอีกด้วยเช่นเดียวกัน โดยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการตั้งข้อสังเกตุว่าผู้บริโภคอาจถูกชี้นำจากสื่อโฆษณาตามช่องทางต่าง ๆ ที่ผิด เพราะขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการลงทุน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่จากภาครัฐเริ่มลงมือตรวจสอบโฆษณาคริปโตที่กระจายตัวอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเข้มงวดอีกด้วย

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

บทความที่เกี่ยวข้อง

เหรียญคริปโตกลุ่ม AI และ Big Data พุ่งทะยาน 131% ท่ามกลางกระแสขาขึ้นของ Bitcoin
Bitcoin พลิกเกม! MicroStrategy กำไรพุ่งทะลุเพดาน แซงหน้า Apple, Amazon
Sky เปิดตัว USDS Stablecoin ตัวใหม่! บน Solana พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องกว่า 5 แสนดอลลาร์
BlackRock Bitcoin ETF Options สร้างสถิติใหม่! มียอดซื้อขายวันแรกทะลุ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์