กราฟ BTC กลับสู่สภาวะปกติ หลังผ่านมา 2 เดือนกับวิกฤต FTX - สิ่งนี้สะท้อนอะไรได้บ้าง?

ถ้าจำกันได้ ช่วงต้น พ.ย. (ก่อน FTX) ช่วงนั้นใครๆ ก็บอกว่า Bitcoin จะวิ่งแล้ว ถึงจุดต่ำสุดของรองนี้แล้ว แน่นอนว่าราคาก็กำลังบวกต่อเนื่องอย่างสุขภาพดี (บวกแบบค่อยๆบวก ไม่ได้วิ่งปรู้ดปราด) ทุกสัญญาญบอกว่านี่แหละ จุดจบขาลงรอบนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง - วิเคราะห์กราฟ BTC ย้อนหลัง 10 ปี เรามาถึงจุดจบ 'ตลาดขาลง' แล้วหรือยัง?

แต่ว่าอยู่ดีๆ FTX ก็มาเกิดล้มละลาย ทำให้ราคาคริปโตตกลงไปอย่างรุนแรง Bitcoin ร่วงไป -25% ใน 2 วัน จากราวๆ $21,000 ลงไป $15,500 ทำ New low ในรอบ 2 ปีทันที นักเทรดความเชื่อมั่นหายหมดสิ้น

อ่านข่าวต่อ - ราคา Bitcoin ดิ่งแตะพท. $15,500 สร้าง New low ต่อเนื่อง รับ Binance-FTX ดีลล่ม

จากนั้นก็ราคาก็นิ่งยาวมา 2 เดือนกว่า จนเริ่มปี 2023 ที่ราคาค่อยๆ บวกมาทีละนิดทีละน้อย แต่ที่น่าตกในคือราคาบวกติดต่อกันมาตลอด แทบจะไม่มีราคาลบให้เห็นเลย (วันที่ 8 - 14 มกรา กราฟปิดแท่งเขียวติดกัน 7 แท่ง) จนวันนี้แตะ $23,000 แล้ว

อ่านข่าวต่อ - Bitcoin ทะลุ 22,500 ดอลล์, 7.36 แสนบาทเรียบร้อย! ทุบสถิติสูงสุดในรอบ 5 เดือน

ดังนั้นหมายความว่าตอนนี้กราฟ BTC กลับมาสู่สถานการณ์ปกติก่อนเกิดเรื่อง FTX ซึ่งถ้าไม่เกิดเรื่อง FTX ขึ้น ราคา $23,000 ก็คงมาเร็วกว่านี้ซัก 2 เดือนได้ และแน่นอน สัญญาณต่างๆ ที่บอกว่าจบขาลงแล้ว, ราคาถึงจุดต่ำสุดแล้วก็ยังอยู่เหมือนเดิมไม่ได้ไปไหน

สิ่งนี่สะท้อนอะไรบ้าง?

• 1.การที่ exchange ใหญ่อันดับ 2 ของโลกเจ๊งไป ตลาดคริปโตได้รับผลกระทบแค่ 2 เดือนเท่านั้น จากนั้นก็กลับมาสู่สถานการณ์ปกติ

• 2.สะท้อนให้เห็นว่าตลาดคริปโตแข็งแกร่งแค่ไหน

• 3.อะไรก็เกิดขึ้นได้ในตลาดคริปโต และกฎหมายก็ยังไม่แข็งแกรงพอ

จากนี้อะไรจะเกิดขึ้นก็คงต้องติดตามต่อไป ราคาคริปโตวิ่งต่อหรือย่อก็ไม่มีใครการันตีได้ ดังนั้นให้บทเรียนที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าสอนเตือนเราเสมอให้บริหารความเสี่ยง, แบ่งพอร์ต, อะไรก็เกิดขึ้นได้ในตลาดนี้ และเมื่อเกิดอะไรขึ้นก็มักจะไม่มีใครช่วยคุณได้ ขอให้โชคดีครับ