เปิดรายชื่อบริษัท Crypto ชั้นนำที่จำต้อง ‘ปลดพนักงาน’ เอาตัวรอด
แม้จะถูกจารึกอยู่ในรายชื่อบริษัท Crypto ชั้นนำ แต่ทว่าตลาดหมีที่แสนดุในรอบนี้ก็สร้างบาดแผลให้องค์กรยักษ์ใหญ่อยู่ไม่น้อย จะมีบริษัทไหนบ้าง? วันนี้เรามาดูกัน!
แม้จะถูกจารึกอยู่ในรายชื่อบริษัท Crypto ชั้นนำ แต่ทว่าตลาดหมีที่แสนดุในรอบนี้ก็สร้างบาดแผลให้องค์กรยักษ์ใหญ่อยู่ไม่น้อย จะมีบริษัทไหนบ้าง? วันนี้เรามาดูกัน!
เราทั้งหลายต่างรู้ดีว่าอุตสาหกรรมคริปโต (Cryptocurrencies) กำลังประสบกับวิกฤตครั้งใหญ่ ที่ซึ่งตลาดในภาพรวมสูญเสียมูลค่าไปประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าตอนพุ่งแตะจุดสูงสุดตลอดการในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
เหตุการณ์ข้างต้นได้ทำให้ผู้เล่นในตลาดทุกราย ไม่เว้นแม้แต่บริษัทสายเลือดคริปโตแท้ ๆ ซึ่งติดรายชื่อบริษัท Crypto ชั้นนำจำต้องงัดกลยุทธ์ก้นหม้อมาใช้เพื่อเอาตัวรอด
รายชื่อบริษัท Crypto ชั้นนำที่จำต้อง ‘ปลดพนักงาน’
มวลความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในตลาดได้ทำนักลงทุนเริ่มหลีกเลี่ยงใช้เงินของพวกเขามาแลกกับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ซึ่งรวมไปถึง Cryptocurrencies ด้วย และนั่นทำให้บริษัท Crypto รายใหญ่ที่เคยมีขนาดโตขึ้นหลายเท่าตัวในช่วงตลาดกระทิงแบกรับภาระไม่ไหว
โดยบริษัท Crypto ทั้งหมดในท้องตลาดได้ประกาศเลิกจ้างงานรวมกันมากกว่า 1,800 ตำแหน่งตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2022 ซึ่งตามรายงานของ Wall Street Journal (WSJ) ยังระบุด้วยการลดงานยิ่งทำให้ผู้คนมองเห็นถึงความไม่แน่นอนในอุตสาหกรรม Crypto มากขึ้นไปอีก
รายชื่อบริษัท Crypto ชั้นนำจำจะมีอะไรบ้าง? ไปดูกันเลย
บริษัทที่ 1 : Gemini
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ผู้ร่วมก่อตั้งของ Gemini อย่างสองฝาแฝด Cameron และ Tyler Winklevoss กล่าวผ่านบล็อกโพสต์ของบริษัทว่า แพลฟอร์ม Exchange ลูกหม้อของพวกเขากำลังเลิกจ้างพนักงานประมาณ 10%
บริษัทที่ 2 : Crypto.com
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน Kris Marszalek ซีอีโอของ Crypto.com ได้ออกมาให้ข่าวร้ายแก่พนักงานของเขา โดยกล่าวว่าพนักงานประมาณ 5% หรือคิดเป็นงาน 260 ต่ำแหน่งจะนำออกจากองค์กร
หากตัดภาพที่ในช่วงตลาดกระทิงของ Crypto ทาง Crypto.com เคยใช้เงินไปกว่า 700 ล้านดอลลาร์เพื่อสลักชื่อของพวกเขาบนสนามของทีมบาสเก็ตบอลชื่อดังอย่าง Los Angeles Lakers แถมบริษัทยังเคยปล่อยโฆษณา Super Bowl ที่มี LeBron James แสดงนำอีกด้วย สุดจริง ๆ
บริษัทที่ 3 : BlockFi
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ทาง BlockFi แพลตฟอร์มบริการซื้อขายและให้ยืมเงินดิจิทัล ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะลดจำนวนพนักงานลง 20% ซึ่งพวกเขาให้เหตุผลเอาไว้ว่างเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาค
ซึ่งทาง BlockFi ก็เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่เข้าสูตร ‘โตมากในตลาดกระทิง’ โดยหากอ้างตามทวีตของ CEO อย่าง Zac Prince ทาง BlockFi ได้เติบโตขึ้นจนสามารถรองรับพนังงานกว่า 850 คนในช่วงกลางเดือนมิถุนายนจากประมาณ 150 คนในช่วงปลายปี 2020
แม้จะออกกลยุทธ์แบบนี้ แต่สถานการณ์ของ BlockFi ยังไม่สู้ดีนัก โดยพวกเขาเพิ่งประกาศถึงการมีหนี้กว่า 1. 8ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้ทำข้อตกลงกับ FTX เพื่อรักษาธุรกิจไว้
บริษัทที่ 4 : Coinbase
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน Coinbase บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) รายแรกในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ประกาศว่ากำลังลดจำนวนพนักงานลง 1,100 คนหรือประมาณ 18% ของพนักงาน โดยทาง Brian Armstrong หัวหน้าผู้บริหาร กล่าวว่า "ค่าใช้จ่ายของพนักงานของเราสูงเกินไปที่จะจัดการตลาดที่ไม่แน่นอนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
ทั้งนี้ หุ้นของ Coinbase ร่วงลงมากกว่า 71% แล้วในปีนี้ ตามข้อมูลของ FactSet
บริษัทที่ 5 : Compass Mining
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม Compass Mining กล่าวผ่านบล็อกโพสต์ว่า 15% ของพนักงานจะถูกเลิกจ้าง แถมบริษัทยังกล่าวอีกว่าค่าตอบแทนสำหรับผู้บริหารก็จะลดลงด้วย
Compass Mining ได้ให้เห็นผลเบื้องหลังการตัดสินใจในครั้งนี้ โดยระบุว่าธุรกิจของพวกเขา “เติบโตเร็วเกินไป” ซึ่งจำเป็นต้องลดการใช้จ่ายเนื่องจากสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน
บริษัทที่ 6 : OpenSea
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม แพลตฟอร์ม OpenSea ซึ่งเป็นตลาด Non-fungible token (NFT) ลำดับท็อป ประกาศว่าจำต้องหั่นจำนวนพนักงานลงถึงหนึ่งในห้า (20%) หรือคิดจากพนักงานทั้งหมด 230 คน จะต้องถูกเลิกจ้างประมาณ 57 คน
ทั้งนี้ OpenSea ได้อ้างถึงราคา Cryptocurrency ที่ดิ่งลงเหวเป็นสาเหตุหลักของการเลิกจ้างพนักงาน
บริษัทที่ 7 : Blockchain.com
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีอย่าง Blockchain.com ก็ออกมาประกาศว่ากำลังเลิกจ้างพนักงานหนึ่งในสี่จากทั้งหมด
ทั้งนี้ นอกจากพวกเขาจะเผชิญสภาพตลาดที่ย่ำแย่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่การล้มละลายของ 3AC ก็ทำให้ Blockchain.com ขาดทุนไปอีกถึง 270 ล้านดอลลาร์