Bitcoin กว่า 6.2 ล้าน BTC กำลังขาดทุน ซึ่งคิดเป็น 33% ของ BTC Supply
การลงทุนนั้นมีความเสี่ยง! วลีนี้ไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวแต่อย่างใด เพราะแม้แต่ผู้ถือครองสกุลเงินดิจิทัลอันดับที่ 1 ของตลาดอย่าง Bitcoin กว่า 33% ของอุปทานทั้งหมด ตกอยู่ในสภาวะขาดทุนกันถ้วนหน้า
การลงทุนนั้นมีความเสี่ยง! วลีนี้ไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวแต่อย่างใด เพราะแม้แต่ผู้ถือครองสกุลเงินดิจิทัลอันดับที่ 1 ของตลาดอย่าง Bitcoin กว่า 33% ของอุปทานทั้งหมด ตกอยู่ในสภาวะขาดทุนกันถ้วนหน้า
นับตั้งแต่สถิติครั้งใหม่ของ Bitcoin (BTC) ที่ถูกบันทึกไว้ในกลางเดือนเมษายน ว่าพุ่งขึ้นไปทำราคาสูงสุดตลอดกาล (ATH) ที่ระดับ 64.8K ดอลลาร์ หลังจากนั้นสกุลเงินดิจิทัลเบอร์ 1 ของตลาดก็มีมูลค่าลดฮวบ และนั้นทำให้ ณ ปัจจุบันกว่า 6.2 ล้าน Bitcoin นั้น “ขาดทุน” ซึ่งคิดเป็น 33% ของอุปทานทั้งหมดที่มีตอนนี้
นักวิเคราะห์ตลาด Lark Davis อธิบายว่า
“จากข้อมูลของ Glassnode มี Bitcoin จำนวน 6.2 ล้านบิตคอยน์อยู่ในสถานะขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ณ ตอนนี้”
ซึ่งจากข้อมูลข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า 6.2 ล้าน BTC เหล่านั้นยังคงถูกถือในราคาที่ต่ำกว่าที่ซื้อมาโดยนักลงทุนนั่นเอง
*การสูญเสียที่ยังไม่เกิดขึ้น (Unrealized loss) คือ การลดลงของมูลค่าสินทรัพย์ หรือการลงทุนที่นักลงทุนถืออยู่แทนที่จะขาย และรับรู้ถึงความสูญเสีย นั่นจึงทำให้สภาวะกำไร หรือขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ซึ่งกำไร หรือขาดทุนจะเกิดขึ้นเมื่อมีการขายการลงทุนจริงเท่านั้น*
ผลของความผันผวนต่ำต่อการเติบโตของ BTC
ความผันผวนที่ต่ำลงกว่าแต่ก่อนเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ Bitcoin ไม่สามารถกลับไปสู่ระดับ ATH ได้ในเร็ววัน เนื่องจากการแห่งเข้ามาลงทุนของเหล่าสถาบันเริ่มเหี่ยวแห้ง นอกจากนี้การปราบปรามการขุด BTC ที่รุนแรงโดยทางการจีนเองยังได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อตลาดนี้
นักลงทุนยังมีความหวัง
อย่างไรก็ตามผลการศึกษาของทาง Fidelity เมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่า 70% ของนักลงทุนสถาบันยังคงจับตาตลาดคริปโตในอนาคต ซึ่งนี่เปลี่ยนเสมือนความหวังสำหรับสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำตัวนี้เลยก็ว่าได้
ทั้นนี้ Davis ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าการเปลี่ยนแปลงของอุปทานของ Bitcoin ซึ่งเผชิญสภาวะสภาพคล่องต่ำลง ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงด้านลบแต่เพียงอย่างเดียว เพราะนั่นกำลังหมายถึงผู้คนนั้น Hodl หรือแห่สะสมมันมากขึ้นนั่นเอง
แต่ทั้งนี้ทั้ง Bitcoin กำลังอยู่ในระดับแนวรับที่สำคัญเนื่องจาก 10.5% ของอุปทานมีการทำธุรกรรมระหว่าง $31K ถึง $34K ซึ่งหากแนวรับนี้ถูกทำลายแล้วล่ะก็... สกุลเงินดิจิทัลเบอร์ 1 ก็จะถูกเทขายด้วยความตื่นตระหนก และจบลงด้วยการเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่นี่ทำให้ผู้ขายรายอื่น ๆ ตื่นตระหนก และต่างเทขายเหรียญที่พวกเขาพยายามถือครองเช่นเดียวกัน
แล้ว Bitcoin จะล่มสลายหรือไม?
BTC นั้นลดลงต่ำกว่าราคาทางจิตวิทยาที่ 30,000 ดอลลาร์ในวันอังคารที่ 20 กรกฎาคม เป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม โดยตลาด Crypto ทั้งหมดพบว่าอยู่ในจุดสิ้นสุดของแนวรับไปแล้ว และเม็ดเงินเกือบ 9.8 หมื่นล้านดอลลาร์หายไปในพริบตา
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าแปลกใจอะไร โดยทาง Ulrik K. Lykke กรรมการบริหารของ Crypto/Digital Assets Hedge Fund อย่าง ARK36 กล่าวว่า
“การลดลงต่ำกว่าระดับ $30K นั้นไม่น่าแปลกใจหรือกังวลมากเกินไป เนื่องจาก BTC มีการซื้อขายที่ระดับ $30-34K มานานกว่า 8 สัปดาห์แล้ว โดยตลาดต้องดิ้นรนเพื่อรับการสนับสนุนให้พุ่งขึ้นเหนือจุดอุปสรรคนั้น ในสภาวะตลาดดังกล่าว นักลงทุนบางคนอาจเติบโต กระสับกระส่ายเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ Bitcoin และตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วไปกำลังเผชิญกับการตรวจสอบกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้น”
อย่างไรก็ตาม Bitcoin นั้นมีการดีดตัวในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาโดยเติบโตขึ้น 3.36% และดีดตัวขึ้นเหนือ 30,816 ดอลลาร์ระหว่างการซื้อขายระหว่างวัน ตามรายงานของ CoinMarketCap ซึ่งนั่นทำให้ทางฝั่งของ Ruud Feltkamp ซีอีโอของแพลตฟอร์มบอทซื้อขายอัตโนมัติ Cryptohopper ได้กล่าวว่า มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจในการติดตามว่าการดีดตัวขึ้นนี้สามารถรองรับ และรักษาความแข็งแกร่งได้หรือไม่ หากเกิดการทดสอบแนวรับอีกครั้ง “มันอาจจะไม่เห็นการเด้งกลับ และต้องถูกเทขายไปที่ $23,000”
“อย่างที่คาดไว้ Bitcoin เด้งกลับขึ้นมาหลังจากตกลงมาต่ำกว่า $30,000 แนวรับที่ $30k นั้นแข็งแกร่งมากจนราคาที่ต่ำกว่าเกณฑ์วิเศษในตอนนี้เกือบจะตอบสนองด้วยการเด้งกลับเสมอ”
ที่มา : Blockchain.news