Exchange

ตลาด NFT หรือ Non-Fungible Tokens ชั้นนำ 12 แห่งที่น่าสนใจ

Where Buy Nft.jpg

วันนี้คริปโตสยามจะพาผู้อ่านไปรู้จักกับตลาด NFT ชั้นนำ จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย

Non-Fungible Tokens ได้เปลี่ยนวิธีที่เราโต้ตอบกับไอเท็มแบบดิจิทัล เหล่าครีเอเตอร์สามารถเชื่อมต่อกับผู้ชมได้ โดยไม่ต้องใช้สื่อกลางหรือแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์อย่าง Youtube และ Facebook อีกต่อไป วันนี้คริปโตสยามจะพาผู้อ่านไปรู้จักกับตลาด Non-fungible token (NFT) ชั้นนำ จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย

1. OpenSea

Opensea 1024x460.png

OpenSea เป็นตลาดซื้อขายแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในโลกที่คุณสามารถซื้อและขาย NFT ได้ แพลตฟอร์มเข้ากันได้กับบล็อกเชน Ethereum, Polygon และ Klaytn คุณสามารถเรียกดู NFT ได้มากกว่า 34 ล้านรายการบนแพลตฟอร์มแห่งนี้ โดยมีการจัดหมวดหมู่เป็นสิบๆ หมวดหมู่ ตั้งแต่งานศิลปะดิจิทัล ไปจนถึงของสะสม ไอเท็มในเกม โลกเสมือนจริง และชื่อโดเมน

ในการลงทะเบียนบน OpenSea คุณต้องมีกระเป๋าเงิน Ethereum เช่น MetaMask, Coinbase Wallet หรือ Fortmatic และชำระค่าธรรมเนียมการสมัคร เพื่อเริ่มต้นบัญชีของคุณ

2. Axie Infinity

Axie 1024x488.png

Axie Infinity เป็นเกม metaverse ที่ผู้ใช้สามารถสร้างและผสมพันธุ์สัตว์เลี้ยงที่เรียกว่า Axies และแข่งขันกันเองในเกมได้ Axie แต่ละตัวเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีลักษณะเฉพาะ และสามารถซื้อขายได้

Axie Infinity สร้างขึ้นบนบล็อกเชนของ Ethereum และต้องใช้กระเป๋าเงิน MetaMask ผู้เล่นใหม่ต้องมี Axies ก่อนจึงจะเริ่มเล่นได้ ไม่เพียงแต่คุณสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ในเกมเป็น NFT ได้ แต่ยังสามารถซื้อที่ดินเสมือนจริงในเกมได้อีกด้วย

Axie Infinity เป็นเกมรูปแบบ play-to-earn ซึ่งคุณสามารถรับและถอนโทเค็น (AXS หรือ SLP) ออกเป็นรางวัลทุกสัปดาห์ำด้ สำหรับธุรกรรมทั้งหมดของคุณ ผู้ซื้อและผู้ขายจะหัก 4.25% คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมคงที่ หากต้องการผสมพันธุ์ Axie

3. Rarible

Axie 1 1024x482.png

Rarible เป็นตลาด NFT ชั้นนำอีกแห่งสำหรับงานศิลปะดิจิทัล สำหรับการลงทะเบียนบนแพลตฟอร์ม คุณต้องมีกระเป๋าเงิน Ethereum ก่อน แพลตฟอร์ม Rarible มีการจัดหมวดหมู่ NFT หลากหลายประเภท รวมถึงการถ่ายภาพ ดนตรี ศิลปะดิจิทัล โดเมน เมตาเวิร์ส และเกม คุณจะพบ NFT บางตัวที่ขายในราคาคงที่ และบางตัวมีการถูกประมูล

สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับแพลตฟอร์มนี้คือ คุณสามารถรับค่าลิขสิทธิ์จาก NFT ที่คุณขายต่อได้ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถสร้างรายได้แบบ passive income ได้ และรับส่วนแบ่งทุกครั้งที่ NFT ถูกขาย คุณยังสามารถรับรางวัลได้โดยใช้ Rarible โดยรางวัลจะจ่ายเป็นสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิมของ Rarible ที่เรียกว่าโทเค็น RARI

4. SuperRare

Axie 2 1024x533.png

SuperRare เป็นตลาดศิลปะดิจิทัลแบบ peer-to-peer ที่เชื่อมโยงกับศิลปินและนักสะสม อย่างไรก็ตาม ตลาดแห่งนี้ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น และจนถึงขณะนี้ มีศิลปินเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าร่วมแพลตฟอร์มนี้ SuperRare มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแง่ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะศิลปินที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์เท่านั้น

หากคุณต้องการเข้าร่วมแพลตฟอร์มนี้ คุณสามารถส่งโปรไฟล์ของคุณเพื่อตรวจสอบได้ SuperRare จะประเมินโปรไฟล์ของคุณในหลายเมตริก มันยังรักษาความพิเศษเฉพาะตัวด้วยการโฮสต์งานศิลปะที่เป็น 1 ชิ้นที่ไม่ซ้ำใคร หรือรุ่นเดียวที่ไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง ขณะที่ตลาดซื้อขาย NFT อื่น ๆ ให้ศิลปินสร้างและขายงานศิลปะเดียวกันซ้ำหลายครั้ง

SuperRare รับเฉพาะการชำระเงินเป็น ETH เท่านั้น และกำหนดให้ผู้ใช้ต้องมีกระเป๋าเงิน MetaMask ซึ่งคุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของเครือข่าย Ethereum ในขณะที่ซื้อ โดยผู้ขายจะได้รับส่วนลด 15% จากการขายทุกครั้ง แต่ยังให้ค่าลิขสิทธิ์ 10% ทุกครั้งที่สินทรัพย์ซื้อขายในตลาด นอกจากนี้ยังเรียกเก็บเงินจากผู้ซื้อ 3% ของราคาสุดท้ายของ NFT

5. Mintable

Axie 3 1024x519.png

Mintable เป็นตลาด NFT ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม หรือค่าแก๊ส ซึ่งคุณสามารถสร้างไฟล์มีม เสียง หรือวิดีโอลงใน NFT ได้ แพลตฟอร์มนี้สร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum และ Zilliqa และคุณจำเป็นต้องมีกระเป๋าเงิน MetaMask เพื่อลงทะเบียนบนแพลตฟอร์ม ทุกครั้งที่คุณซื้อ NFT โดบทาง Mintable จะตอบแทนคุณด้วยโทเค็น MINT

เช่นเดียวกับตลาด NFT อื่น ๆ Mintable เรียกเก็บเปอร์เซ็นทุกรายการที่มีการขาย ซึ่งไม่ใช่ค่าธรรมเนียมคงที่ แต่จะเรียกเก็บเงินที่ 2.5%, 5% และ 10% สำหรับ NFT ปกติ

6. Nifty Gateway

Axie 4 1024x391.png

Nifty Gateway เป็นตลาดเฉพาะสำหรับศิลปินและสร้างขึ้นบนบล็อกเชนของ Ethereum โทเค็น NFTs ที่นี่ถูกเรียกว่า "Nifties" เดียวที่คุณจะพบได้คือนักดนตรีและศิลปินที่มีชื่อเสียง ซึ่งสินค้าบางชิ้นมีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์เลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น “CROSSROAD” โดย Beeple ที่ขายได้มากกว่า 6 ล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021

Nifty Gateway ไม่ได้กระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลถูกจัดเก็บบนแพลตฟอร์ม แทนที่จะเป็นบล็อกเชน Nifties จะมีการซื้อขายทุกสามสัปดาห์ หากคุณต้องการซื้อ NFT บน Nifty Gateway คุณสามารถส่งข้อเสนอแบบนัดบอด เข้าร่วมการจับฉลาก หรือประมูลในการซื้อสามารถทำได้ผ่านบัตรเครดิต

โดยทั่วไปแล้ว มูลค่าการขายต่อของ nifties นั้นสูง และศิลปินจะได้รับค่าลิขสิทธิ์ 10% จากการขายต่อทุกครั้ง แพลตฟอร์มจะคิดค่าธรรมเนียม 5% ในทุกการขาย พร้อมกับค่าธรรมเนียมการดำเนินการธุรกรรม 0.30 ดอลลาห์

7. Foundation

Axie 5 1024x555.png

Foundation เป็นอีกหนึ่งตลาด NFT ที่มีความพิเศษ ต่างจาก Nifty Gateway มันให้ทั้งศิลปินที่ไม่เป็นที่รู้จักและศิลปินที่ได้รับความที่นิยมเข้าร่วมแพลตฟอร์มนี้ได้ Foundation สร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum วิสัยทัศน์ของมันคือ การส่งเสริมงานศิลปะโดยเชื่อมโยงนักสะสมและครีเอเตอร์

หากคุณต้องการขาย NFT บน Foundation คุณจะต้องกรอกใบสมัครและแสดงผลงานศิลปะของคุณ Foundation จะตรวจสอบโปรไฟล์ของคุณและส่งคำเชิญ หากการสมัครของคุณสำเร็จ และหากคุณเป็นนักสะสม คุณเพียงแค่ต้องมีกระเป๋าเงิน MetaMask หรือ Wallet Connect

Foundation ไม่เรียกเก็บเงินจากผู้ซื้อ อย่างไรก็ตาม จะหัก 15% สำหรับยอดขายทั้งหมด ค่าแก๊สบนแพลตฟอร์มไม่คงที่ และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับปริมาณการรับส่งข้อมูลของเครือข่าย

8. NBA Top Shot

Axie 6 1024x533.png

หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบกีฬา NBA Top Shot คือตลาดซื้อขาย NFT ที่ใช่สำหรับคุณ แพลตฟอร์มแห่งนี้จะช่วยให้แฟน ๆ แลกเปลี่ยนช่วงเวลาแบบดิจิทัลจาก NBA ได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณดูการแข่งขัน NBA แบบสด และ Stephen Curry ทำคะแนนได้ 3 แต้ม คุณสามารถสร้างมันขึ้นมาบน NBA Top Shot และลงรายการขาย แพลตฟอร์มนี้ให้ผู้ใช้ได้สะสมช่วงเวลาที่พิเศษของ NBA

9. Sorare

Axie 7 1024x535.png

Sorare ไม่ใช่ตลาด NFT ทั่วไป แต่เป็นเกมฟุตบอลลีกแฟนตาซีที่คุณสามารถจัดการทีมเสมือนจริง โดยการแลกเปลี่ยนการ์ดดิจิทัลเป็น NFT บนแพลตฟอร์ม ตัวอย่างเช่น การ์ดหายากของ Kylian Mbappé (นักฟุตบอลชื่อดัง) ถูกขายในราคา 65,000 ดอลลาร์บนแพลตฟอร์ม

เกมดังกล่าวสร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum และคุณสามารถซื้อหรือขายการ์ดในสกุล ETH เท่านั้น Sorare ออกการ์ดใหม่ทุกวัน ซึ่งขายในการประมูล นอกจากนี้ คุณสามารถซื้อการ์ดจากผู้เล่นคนอื่นโดยมีค่าธรรมเนียมคงที่ เช่นเดียวกับเกมที่ใช้บล็อคเชนส่วนใหญ่ Sorare ให้รางวัลรายสัปดาห์แก่คุณใน ETH สำหรับการเล่นเกมด้วย

10. Venly

Axie 8 1024x592.png

Venly เป็นทั้งผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่นเดียวกับ MetaMask และตลาดซื้อขาย NFT แบบ peer-to-peer ตลาด NFT สร้างขึ้นจากวิดีโอเกม ปัจจุบันมีเกมเมอร์มากกว่า 200,000 คนที่สามารถสร้าง ซื้อ และขายตัวละครในเกม อาวุธ และของสะสมต่างๆ

Venly ไม่ได้ใช้บล็อคเชนล้วนๆ แม้ว่าจะร่วมมือกับ Polygon, Avalanche และ Binance Smart Chain ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถชำระเงินผ่านคริปโตเคอร์เรนซีได้ แต่เคุณสามารถใช้ PayPal เพื่อชำระเงินด้วยเงิน fiat ได้ด้วย ซึ่งค่อนข้างสะดวกถ้าคุณต้องการหลีกเลี่ยงค่าแก๊ส หากคุณต้องการชำระเงินผ่านคริปโต คุณต้องมี Venly Wallet หรือ MetaMask

Venly เรียกเก็บ 2% ในทุกธุรกรรม แต่ในทางกลับกัน จะมีเสนอค่าลิขสิทธิ์ 10% สำหรับการขายต่อทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมการถอน 2.9% สำหรับการถอนขั้นต่ำ 5 ดอลลาห์ หากคุณต้องการลงรายการ NFTs เพื่อขาย คุณสามารถลงรายการในราคาคงที่ หรือสำหรับการประมูล

11. Zora

Axie 9 1024x583.png

Zora เป็นศูนย์ประมูลแบบกระจายอำนาจที่ผู้สร้างสามารถ mint โทเค็น NFT และลงรายการเพื่อขายได้ แพลตฟอร์มนี้เปิดตัวมาเพื่อขจัดข้อจำกัดของ Web 2.0 ซึ่งกระบวนการแชร์เนื้อหาต้องอาศัยแพลตฟอร์มส่วนตัวทั้งหมด โดยทาง Zora ต้องการให้ผู้สร้างมีอิสระอย่างเต็มที่ในการเชื่อมต่อกับผู้ชม

12. Bitkub NFT

Screenshot 2021 12 19 at 10.22.48 1024x493.png

Bitkub NFT เป็นแพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ของคนไทย แพลตฟอร์มนี้ได้เปิดโอกาสให้เหล่าครีเอเตอร์ชาวไทยนำเสนอสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผู้ชื่นชอบสามารถเป็นเจ้าของ เก็บสะสม และนำไปใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ได้ สำหรับการเปิดตัวในเฟสแรกมีฟังก์ชันที่พร้อมใช้งานต่าง ๆ มากมายเลยทีเดียว

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ  

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
แท็ก:
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

กลับมาแล้ว XRP พุ่ง 100% ใน 16 วัน! ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 35 เดือน
Michael Saylor เผย! ไม่มีทางที่ Bitcoin จะร่วงกลับลงไปที่ 60,000 ดอลลาร์
Tether สร้าง Stablecoin มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์บนเครือข่าย Tron เสริมสภาพคล่องให้กับตลาด
VanEck คาดการณ์ Bitcoin จะทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องในสองไตรมาสถัดไป