แนวโน้มตลาดคริปโตเคอร์เรนซี 5 อย่างที่อาจเกิดขึ้นในปี 2022
ปี 2021 กำลังจะผ่านพ้นไป ตลาดคริปโตจะมีแนวโน้มอย่างไรในปี 2022 ไปดูกันเลย
ปี 2021 กำลังจะผ่านพ้นไป ตลาดคริปโตจะมีแนวโน้มอย่างไรในปี 2022 ไปดูกันเลย
ปี 2021 กำลังจะผ่านพ้นไป ตลาดคริปโตจะมีแนวโน้มอย่างไรในปี 2022 ไปดูกันเลย
1. DeFi จะยังคงเติบโตต่อไป
เราได้เห็นการเติบโตของการเงินแบบกระจายอำนาจอย่างต่อเนื่องในปี 2020 และ 2021 จากมูลค่ารวมของสินทรัพย์ที่ล็อกไว้ในระบบนิเวศ DeFi (Total Value Locked) เพียง 10 พันล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2020 ขณะนี้มีมูลค่าสูงถึง 100 พันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
เมื่อพิจารณาจากทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี และการขยายธุรกิจ DeFi ทั่วทุกแห่งหน เราคาดว่าจำนวนมากขึ้นจะไหลเข้าสู่พื้นที่นี้ต่อไป
มีหลายโปรเจ็กต์เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เช่น Polygon, Solana, Internet Computer และอื่นๆ อีกมากมาย ที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่ในอาณาจักร DeFi นอกจากนี้ การอัปเกรด Ethereum 2.0 ที่จะเสร็จสมบูรณ์ในปีหน้า อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงแห่งอุตสาหกรรม DeFi อย่างมหาศาล แต่ไม่ว่า Eth 2.0 จะสามารถแก้ไขปัญหาคอขวด โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมที่สูง ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานได้หรือไม่ เรายังคงมีมุมมองในแง่ดีว่า ผู้คนจำนวนมากขึ้นจะตระหนักถึงศักยภาพของ DeFi และเมื่อบริการต่างๆ ถูกรวมเข้ากับ metaverse ที่เพิ่มขึ้น เราคาดหวังว่าพื้นที่นี้จะเติบโตต่อไปอย่างน้อยอีกปีหนึ่ง และอาจจะปีต่อไป
2. บริษัทคริปโตจะจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น
ในปี 2021 นี้ เราได้เห็น Coinbase จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อเดือนเมษายน แม้ว่าการซื้อขายจะออกมาหลากหลาย ขึ้นอยู่กับว่าคุณเข้าซื้อที่จุดไหน
จากนั้นในเดือนตุลาคม Bakkt ก็ทำแบบเดียวกัน สิ่งนี้ทำให้เราคาดการณ์ว่ามีโอกาสมากที่ในปี 2022 เราจะเห็นบริษัทอื่นๆ ดำเนินการตามรอยบริษัทเหล่านี้
บริษัทคริปโตยักษ์ใหญ่ เช่น Kraken, BlockFi และ Gemini ตอนนี้ เราไม่อาจพูดได้อย่างเจาะจงว่าจะเปิดตัว IPO ในปี 2022 หรือไม่ แต่จากปัจจัยต่าง ๆ เราคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมีอีกหลายๆ บริษัทเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นข่าวที่เราเพิ่งพูดถึง หรือข่าวเซอร์ไพรส์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งเราคงต้องรอดูกันต่อไป
3. บริษัทต่างๆจะรับชำระเงินด้วยคริปโตมากขึ้น
นอกจากบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับคริปโตจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้นแล้ว บริษัทต่าง ๆ ก็คาดว่าจะรับชำระเงินด้วยคริปโตมากขึ้นด้วยเช่นกัน ในปี 2021 เราได้เห็นข่าวดีมากมาย ตัวอย่างเช่น Regal Cinemas ที่เพิ่งประกาศว่า พวกเขากำลังร่วมมือกับแพลตฟอร์ม Flexa เพื่อชำระค่าตั๋วภาพยนตร์และของว่างในสกุลเงินดิจิทัล
นอกจากนี้ Newegg บริษัทค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยว่าพวกเขาจะรับการชำระเงินใน Shiba Inu (SHIB) ผ่านการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับ BitPay อีกด้วย
ที่สำคัญคือ เหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินอย่าง VISA และ Mastercard ก็เริ่มปรับตัวและยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีด้วย
โดยทาง Mastercard ได้ร่วมมือกับ Bakkt เพื่อเสนอกระเป๋าเงินดิจิตอลคริปโต รวมถึงบัตรเครดิตและบัตรเดบิตคริปโตให้กับลูกค้า ซึ่งหมายความว่าผู้ค้าปลีกอาจเริ่มยอมรับในสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นด้วย
4. หลายประเทศจะตระหนักถึงตลาดคริปโตมากขึ้นและสร้างเหรียญของตัวเอง
หนึ่งในข่าวใหญ่ที่สุดของปี 2021 คือการที่ประเทศเอลซัลวาดอร์ยอมรับบิทคอยน์ (BTC) ให้เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย แม้เราจะไม่สามารถบอกได้ว่าประเทศอื่น ๆ จะให้การยอมรับตามเอลซัลวาดอร์หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจชนาดใหญ่อย่างจีนและอินเดีย ได้แสดงท่าทีให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาจะไม่ยอมรับบิทคอยน์เร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตาม หลายประเทศมุ่งเน้นไปที่สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) แทน ซึ่งข้อมูลจาก CBDC Tracker จะเห็นได้ว่า ประเทศส่วนใหญ่อยู่ในขั้นตอนการวิจัย และเราคาดว่าจะได้เห็นความคืบหน้าอย่างมากในปี 2022
5. ศิลปะ NFT จะนิยมน้อยลง แต่กรณีการใช้งาน NFT อื่นๆจะร้อนแรง
โทเค็น Non-fungible tokens (NFT) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นถึงขนาดที่ว่า Collins Dictionary จัดอันดับคำว่า NFTs ให้เป็นคำศัพท์แห่งปี 2021 เลยทีเดียว แม้ว่า NFT จะมีมาหลายปีแล้ว แต่ปีนี้ความนิยมพุ่งขึ้นอย่างมาก และทุกคนจาก Gamestop และ Macy's ไปจนถึง Martha Stewart และ Snoop Dogg ก็เข้ามามีส่วนร่วมในโลก NFT นี้
อย่างไรก็ตาม ความนิยมในตลาดของสะสม NFT อาจลดลงเล็กน้อย เนื่องจากคนจำนวนมากเริ่มโฟกัสไปที่การใช้งานที่กว้างขึ้นของ NFT ในการใช้ประโยชน์ทางอื่น ๆ ด้วย
NFTs เป็นสิ่งที่อาจปฏิวัติการเล่นเกมออนไลน์ ธุรกิจ และอื่นๆ อีกมากมาย ตัวอย่างเช่น สิ่งของที่อวาตาร์ของเราถือ หรือสวมใส่ในโลกเสมือนจริง จะเป็นของคุณจริงๆ โดยจะสามารถโอนย้ายข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย และสามารถขายในตลาดรองได้ตามใจคุณ ความจริงข้อนี้เพียงอย่างเดียวก็ถือว่าใหญ่โตสำหรับวงการเล่นเกมแล้ว
นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ อีกมากมายเช่นกันที่จะถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างเช่น การจัดการห่วงโซ่อุปทานแบบกระจายอำนาจ และ ID ดิจิทัลแบบไบโอเมตริกซ์ จริงๆ แล้วอาจเป็นรูปแบบโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่สำหรับโลกของเราในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และ NFT เป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่ทำให้เป็นไปได้
DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ