ผู้ก่อตั้ง แพลตฟอร์ม DeFi ถูกปรับ 13 ล้าน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลและกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯได้สั่งปรับผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม DeFi ไป 13 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 400 กว่าล้านบาท) บทลงโทษถูกกำหนดในการดำเนินการบังคับใช้การเงินแบบกระจายอำนาจครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของหน่วยงาน

โดนปรับจริง! ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม DeFi ถูกสั่งปรับ 13 ล้านดอลลาร์

ผู้ก่อตั้งทั้งสองถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงนักลงทุนจากสัญญาที่ว่ากองทุนที่ลงทุนในกองทุน DeFi ที่อัตราดอกเบี้ย 6.25% สามารถถอนได้ตลอดเวลา นักลงทุนซื้อเข้ากองทุน DeFi โดยใช้สกุลเงินดิจิทัลที่พบบ่อยที่สุด เช่น Ethereum โดยรับประกันว่าเงินทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยสามารถแลกใช้ได้อย่างอิสระตามต้องการ จากข้อมูลของ Business Insider กองทุน DeFi Money Market Fund ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสินทรัพย์จริง เช่น สินเชื่อรถยนต์ที่มีหลักประกัน แต่สำนักงาน ก.ล.ต. สรุปว่าผู้ใช้เข้าใจผิด

กองทุนใช้สัญญาอัจฉริยะบน Ethereum เพื่อแลกเปลี่ยนการลงทุนคริปโตสำหรับโทเค็นการกำกับดูแลของกองทุน ในทางกลับกันโทเค็นเหล่านี้เป็นตัวแบ่งความเป็นเจ้าของ โดยให้สิทธิ์ในการออกเสียงลงคะแนนในการกระจายผลกำไร

การสอบสวนโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าทรัพย์สินจริงที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนโครงการนี้เป็นของบริษัทอื่นคือ Florida Finance Company ซึ่งกองทุน DeFi ได้ให้ยืมไป ท้ายที่ที่สุดนักลงทุนจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวนแต่ตลาดเงิน DeFi ก็จะต้องถูกปิดโดยสมัครใจ

Daniel Michael ตัวแทนอาวุโสของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯกล่าวว่ากฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางบังคับใช้อย่างเท่าเทียมกันกับการฉ้อโกงในสมัยก่อนซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยีล่าสุดในปัจจุบัน ถึงแม้ว่านักลงทุนจะได้รับเงินคืนแต่สำนักงาน ก.ล.ต. ปรับผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม DeFi 13 ล้านดอลลาร์เนื่องจากกองทุน DeFi Money Market Fund ไม่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์จริงอย่างเต็มที่ หน่วยงานของรัฐบาลกลางได้ดำเนินการตามแผนแล้วแต่อาจมีการดำเนินการมากกว่านี้