ที่จริงแล้ว Bitcoin ล้มเหลวมาตลอด 11 ปี

สกุลเงินคริปโตชนิดแรกของโลกอย่าง Bitcoin ได้รับความสนใจจากสื่ออย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาซึ่งสอดคล้องกับราคาที่พุ่งทยานทะลุจุดสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นจนสามารถเกือบแตะราคาที่ 50,000 ดอลลาร์ ได้ และเราต่างรู้กันดีว่าแรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้เป็นผลกระทบเชิงสถาบันของการเข้าซื้อ Bitcoin ด้วยเงินกว่า 1.5 ดอลลาร์ ครั้งล่าสุดของ Tesla อย่างไรก็ตาม Nassim Nicholas Taleb ซึ่งเคยทำงานเป็นนักวิเคราะห์ความเสี่ยง และนักเทรดออปชั่นกลับไม่คิดเห็นเช่นนั้น โดยเขานั้นมองว่าภาพรวมของ Bitcoin (BTC) นั้นอยู่ต่ำกว่าในแง่ดี

“ฉันได้กำจัด BTC ของฉันแล้ว”  Taleb กล่าวในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 กุมภาพันธ์) ตามการรายงานของ BNN Bloomberg "ทำไมถึงขายน่ะหรอ? เพราะสกุลเงินไม่ควรมีความผันผวนมากไปกว่าสิ่งที่คุณซื้อ และขายด้วยมันยังไงล่ะ” เขาอธิบาย และตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า

"คุณยังไม่สามารถกำหนดราคาสินค้าเป็น BTC ได้ หามองในแง่นั้น นี่ถือเป็นความล้มเหลวอย่างยิ่ง (อย่างน้อยก็ในตอนนี้) เหรียญนี้ได้ถูกครอบงำด้วยความสามารถของโควิดในการทลายความบ้าคลั่งเหล่านี้ด้วยความซับซ้อนของอะมีบา"

มุมมองที่ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงในสกุลเงินดิจิทัลชนิดแรกของโลก

หัวใจหลักในวิสัยทัศน์ของ Taleb ต่อ Bitcoin ก็คือ BTC นั้นเป็นสกุลเงินไม่ใช่สินทรัพย์เก็บรักษามูลค่า (Store of value) แม้ว่าในช่วงหลัง ๆ นี้จะมีการกำหนดบทบาทของสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ในบางแง่มุมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่น ผู้สนับสนุนหลักในสกุล Bitcoin Cash (BCH) อย่าง Roger Ver ได้โต้แย้งว่า BTC ควรมีไว้เพื่อใช้เป็นวิธีการชำระเงินเท่านั้น โดย Ver มักระบุว่ากรอบปัจจุบันของ Bitcoin ยังไม่อนุญาตให้สกุลเงินดังกล่าวมีบทบาทในการทำธุรกรรมดังกล่าวนั่นเอง ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความกังวลของ Taleb ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังมี Peter Schiff ผู้ให้การสนับสนุนด้านทองคำ และผู้บรรยายด้านการเงินมักพูดต่อต้าน Bitcoin แม้ว่าบริษัท กระแสหลักจำนวนมากจะคิดต่างกันอย่างเห็นได้ชัดโดยเห็นคุณค่าในสินทรัพย์ดิจิทัล

แต่ทว่าทาง Michael Saylor ซีอีโอของ MicroStrategy หนึ่งในผู้สนับสนุนรายใหญ่ของ Bitcoin กลับ มองว่า Bitcoin เป็นวิธีการรักษามูลค่าในขณะที่สินทรัพย์และสกุลเงินอื่น ๆ มีมูลค่าน้อยลง