ต้นทุนเฉลี่ยของนักเก็งกำไรพุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์ เสริมแนวรับให้ Bitcoin ขณะตลาดเริ่มย่อตัว
ข้อมูลจาก Glassnode ชี้ว่า ต้นทุนเฉลี่ยของผู้ถือ Bitcoin ระยะสั้น เพิ่มขึ้นเกิน 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก สะท้อนถึงแนวรับที่สำคัญ ขณะเดียวกันนักลงทุนทั้งรายใหญ่ รายย่อย และผู้ถือระยะยาวต่างเริ่มขายทำกำไรหลังราคาทำสถิติใหม่ ส่งผลให้มีการขายทำกำไรกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง

ข้อมูลจาก Glassnode ชี้ว่า ต้นทุนเฉลี่ยของผู้ถือ Bitcoin ระยะสั้น เพิ่มขึ้นเกิน 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก สะท้อนถึงแนวรับที่สำคัญ ขณะเดียวกันนักลงทุนทั้งรายใหญ่ รายย่อย และผู้ถือระยะยาวต่างเริ่มขายทำกำไรหลังราคาทำสถิติใหม่ ส่งผลให้มีการขายทำกำไรกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง
Bitcoin กำลังได้รับแรงหนุนจากฐานต้นทุนใหม่ที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์ หลังจากราคาพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ และเริ่มมีการย่อตัวจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนหลากหลายกลุ่ม ทั้งนักเก็งกำไร, วาฬ และผู้ถือสินทรัพย์ระยะยาว
ข้อมูลล่าสุดจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Glassnode เปิดเผยว่า ต้นทุนเฉลี่ยของผู้ถือ Bitcoin ระยะสั้น (Short-Term Holders: STH) หรือกระเป๋าของผู้ที่ถือครอง Bitcoin มาเป็นเวลาน้อยกว่า 155 วัน ได้พุ่งขึ้นแตะระดับหกหลัก หรือมากกว่า 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมา โดยนักลงทุนกลุ่มนี้คือผู้ที่เข้าซื้อ Bitcoin ภายในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มตอบสนองต่อความผันผวนระยะสั้นของตลาดไวกว่านักลงทุนระยะยาว
ต้นทุนเฉลี่ยในระดับนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากสามารถกลายเป็นแนวรับสำคัญในช่วงตลาดขาขึ้น หากราคามีการปรับฐาน โดย Glassnode ระบุว่า ต้นทุนในลักษณะนี้ หรือที่เรียกว่า “Realized Price” มักจะมีบทบาทเป็นแนวรับที่แข็งแรงในช่วงตลาดกระทิง
นอกจากนั้น ยังพบว่านักลงทุนทั้งกลุ่มระยะสั้นและระยะยาว ได้เริ่มทยอยขายทำกำไรแล้ว โดยในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุดจนถึงเวลา 4:00 น. ของวันอังคารตามเวลาของสหรัฐฯ มีการเทขายทำกำไรเกิดขึ้นรวมกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง Glassnode ระบุว่า เป็นหนึ่งในวันที่มีการขายทำกำไรมากที่สุดของปีนี้ โดยส่วนใหญ่เกิดจากกลุ่มผู้ถือระยะยาว
ก่อนหน้านี้ Glassnode ได้เตือนในรายงาน Market Pulse ว่ากำไรสะสมที่เกิดขึ้นจากราคาที่พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว อาจจูงใจให้นักลงทุนจำนวนมากตัดสินใจขาย แม้จะเป็นผู้ที่ถือ Bitcoin มานานก็ตาม พร้อมระบุว่า “ตัวชี้วัดกำไร/ขาดทุนเริ่มส่งสัญญาณเตือน โดยมีการขายทำกำไรเพิ่มขึ้น และเกือบ 99% ของเหรียญในระบบตอนนี้อยู่ในสถานะกำไร ซึ่งสะท้อนความคึกคักในตลาดที่อาจตามมาด้วยความเสี่ยงในการปรับฐาน”
ไม่เพียงแต่นักลงทุนทั่วไป กลุ่มวาฬก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยหนึ่งในกระเป๋าที่มีการถือครอง Bitcoin มานานกว่า 14 ปีและไม่ได้เคลื่อนไหว ได้กลับมาใช้งานอีกครั้ง พร้อมโอน Bitcoin จำนวนมหาศาล 40,000 BTC ไปยังกระเป๋าเงินที่เชื่อมโยงกับ Galaxy Digital เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก Arkham
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว