ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ! มีเพียง 5 สกุลเงินดิจิทัลจาก Top 20 เท่านั้นที่มีมูลค่ามากกว่าในอดีต
จะลงทุนทั้งทีต้องคิดหนักเพราะแม้จะเป็น Cryptocurrencies ระดับท๊อปยังเผชิญปัญหาด้านราคา ไม่กี่เจ้าเท่านั้นที่เอาตัวรอดได้
จะลงทุนทั้งทีต้องคิดหนักเพราะแม้จะเป็น Cryptocurrencies ระดับท๊อปยังเผชิญปัญหาด้านราคา ไม่กี่เจ้าเท่านั้นที่เอาตัวรอดได้
จากการที่ Bitcoin (BTC) และสกุลเงิน Altcoin หลักตัวอื่นๆ ยังคงถูกซื้อขายในยอดที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น เรามาย้อนดูกันดีกว่าว่าตั้งแต่เดือนมิถุนายนเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา จนล่วงเลยเวลาไปอีก 12 เดือนข้างหน้า มี Token ใดบ้างที่ฟอร์มไม่เคยตกด้วยการคงมูลค่าตลาดเป็นสีเขียวมาอย่างต่อเนื่องใน 12 เดือน
ซึ่งหากให้นับจากระดับ Top Tier จากทั้งหมด 20 สกุลเงินแล้ว มีเพียงแค่ 5 โทเค็นเท่านั้นที่เข้าเป้าการสำรวจในครั้งนี้
การสูญเสียอย่างถ้วนหน้า
ในขณะที่ตลาด Crypto กำลังอยู่ในสภาวะเร่าร้อนและได้รับความนิยมอย่างเต็มเปี่ยมในช่วงเวลานี้ของปีที่แล้วแต่สถานการณ์ในปัจจุบันกลับพลิกผัน เพราะขณะนี้ Cryptoasset หมายเลขหนึ่งอย่าง BTC มีมูลค่าลดลงมากกว่า 20% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เช่นเดียวกันกับสินทรัพย์ดิจิทัลระดับท๊อปตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Ethereum (ETH), Bitcoin Cash (BCH), Bitcoin SV (BSV) หรือแม้แต่ Litecoin (LTC) ที่การซื้อขายทั้งหมดลดลงมากกว่า 20% ในช่วงเวลาเดียวกัน
โดยในหมู่เหรียญมูลค่าตกเหล่านี้ Litecoin ถือว่าเป็นสกุลเงินที่โดดเด่นในฐานะผู้มีศักยภาพยอดแย่ที่เพราะสูญมูลค่าไปแล้วกว่า 66% (ข้อมูล ณ วันที่ 3 กรกฎาคม เวลา 13:48 UTC)
ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นผู้แพ้
แม้เราจะรับรู้ได้ถึงการสูญเสีย จนกลายเป็นภาพที่ชินตาสำหรับ Cryptoassets เหล่านี้ แต่ก็ยังมี Token บางส่วนที่ทำผลงานได้ดีไม่มีตกด้วยยอดกำไรที่แข็งแกร่งมากจากปีที่ผ่านมา และสกุลเงินที่น่าจับตามองมากที่สุดก็คือ Crypto.com Coin (CRO), Tezos (XTZ) และ OKB ซึ่งทำกำไรภายใน 12 เดือนได้เป็นจำนวน 77%, 97% และ 144% ตามลำดับ
(โทเค็นการแลกเปลี่ยน OKEx ของ OKB ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 14 ในแง่ของมูลค่าตลาดโดย Coinpaprika และ Coingecko ในขณะที่ CoinMarketCap บริษัทลูกของ Binance จัดให้อยู่อันดับที่ 34)
นอกเหนือจากสินทรัพย์ดิจิทัลที่กล่าวมาข้างต้นแล้วยังมี Crypto สกุลอื่นๆจาก Top 20 ที่ทำผลงานได้ดี มีกราฟสีเขียวให้ชื่นใจตลอดช่วงระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมาคือ Chainlink (LINK) และ Cardano (ADA) ซึ่งมีกำไร 45% และ 18% ตามลำดับ (และในทางเทคนิคแล้ว USDC Stablecoin และ Huobi Token (HT) ก็เป็นสีเขียวเช่นกันโดยเพิ่มขึ้น 0.28% และ 0.06% ตามลำดับ แต่อย่างว่าตัวเลขเพียงเท่านี้มีโอกาสกลับกลายเป็นติดลบได้ทุกนาที)
แล้วใครล่ะ? ที่โดดเด่นที่สุด
หากเราเจาะลึกลงไปอีกเล็กน้อยและมองบทวิเคราะห์แบบออนไลน์สำหรับสินทรัพย์แต่ละรายการที่จัดทำโดยบริษัทวิเคราะห์ด้าน Blockchain อย่าง Into The Block จะเห็นได้ชัดเลยว่า LINK นั้นโดดเด่นมากที่สุดในบรรดาผู้ชนะเหล่านี้ เพราะโทเค็น LINK ของ Chainlink สามารถสร้างผลกำไรให้กับผู้ถือครองจำนวนมากที่สุด ซึ่งครอบครองโทเค็นทั้ง 100% ในปัจจุบันกล่าวว่ามันเป็น “In The Money - ITM” หรือออพชั่นในการซื้อขายที่มีกำไรแฝงตัว จะถูกนำมาใช้เมื่อการเทรด binary option ในสินทรัพย์ที่ตนเองได้เลือกเทรดหรือเปิดสัญญาแล้วมีราคาขายเมื่อเทียบกับราคาอ้างอิงไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม Chainlink “ITM” นั้นก็ยังมีม้ามืดอย่าง Crypto.com ตามมาติดๆที่ตัวเลข 96% ของผู้ถือสามารถทำกำไรได้
สิ่งที่น่าสนใจคือแม้ว่า BTC จะลดลงในปีนี้แต่ผู้ถือ Bitcoin จำนวนมากก็ยังคง “ITM ด้วยผลกำไร 70% ในปัจจุบัน
