General

UNICEF เตรียมปล่อย NFT กว่า 1,000 ชิ้น

Unicef.jpg

ยูนิเซฟทำการฉลองวันครบรอบ 75 ปี ของการก้าวเข้ามาช่วยปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็กด้วยการปล่อย NFT ออกสู่ท้องตลาดทั้งสิ้น 1,000 ชิ้น

ยูนิเซฟ (UNICEF) หรือ องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ตั้งใจที่ปล่อยขาย Non-fungible token (NFT) ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลทั้งสิ้น 1,000 โทเค็น เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความพยายามของพวกเขาเป็นเวลากว่า 75 ปี ในการช่วยชีวิตเด็ก และปกป้องสิทธิของเด็ก ๆ ทั้งหลายในประเทศภายใต้การดำเนินงานทั้งสิ้น 190 ประเทศ

NFT ของ UNICEF มิติใหม่ในการสร้างการรับรู้ขององค์กรการกุศล

คอลเลกชัน NFT ของ UNICEF ชุดนี้จะมีชื่อว่า “Patchwork Kingdoms” ซึ่งมีความหมายว่า อาณาจักรแห่งการเย็บปะติดปะต่อ โดย NFT ที่ว่าทั้ง 1,000 ชิ้นจะเป็นการปะติดปะต่องานศิลปะของโรงเรียนมากกว่า 280,000 แห่งจาก 21 ประเทศ เข้าไว้ด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นการแสดงพลังครั้งยิ่งใหญ่ของเด็ก ๆ จากทั่วทั้งมุมโลก และทำให้ผู้คนมากมายตระหนักถึงความสำคัญของเด็กนั่นเอง

ทั้งนี้ นอกจาก NFT ดังกล่าวจะเป็นการแสดงพลังของเด็กนานาประเทศผ่านผลงานศิลปะแล้ว มันยังจะถูกใส่ลายน้ำดิจิทัลเพื่อสะท้อนถึงการเฉลิมฉลองวันครบรอบ 75 ปีของ UNICEF อีกด้วย ซึ่งก็คือ วันที่ 11 ธันวาคม ของทุก ๆ ปี

Henrietta Fore ผู้อำนวยการของยูนิเซฟ ได้ออกมาแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ พร้อมทั้งกล่าวว่า

“เป็นเวลากว่า 75 ปีที่ยูนิเซฟเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตเด็ก และเมื่อเรามองย้อนกลับไปที่ประวัติศาสตร์ของเรา นั่นยิ่งทำให้เราต้องมองไปข้างหน้า และพร้อมที่จะคว้าทุกโอกาสที่จะดำเนินการอย่างสร้างสรรค์เพื่อรักษาอนาคตของลูกหลานของเราเอาไว้”

คุณค่าของ NFT ที่มากกว่าการ เก็งกำไร

สาเหตุที่ยูนิเซฟตัดสินใจใช้ NFTs ในการเฉลิมฉลองก้าวสำคัญของพวกเขาก็มาจากแผนการในที่ว่าพวกเขากำลังพยายามจะเชื่อมต่อ “ช่องว่างทางดิจิทัล” ทั่วโลกให้เข้าถึงกันมากยิ่งขึ้น พูดง่าย ๆ ก็คือ เมื่อช่องว่างเหล่านี้แคบลง เราก็สามารถเข้าถึงเด็กมากขึ้นและสามารถสร้างโลกที่ดีขึ้นได้นั่นเอง

ทั้งนี้ รายได้จากการประมูล NFT ทุกบาท ทุกสตางค์จะถูกส่งไปยังโครงการริเริ่มมากมายที่มีความเป็นไปได้ว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงต่อเด็ก ๆ ทั่วโลก โดยเหล่าโครงการที่ UNICEF เล็งให้การสนับสนุนล้วนแต่มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมต่อทุกโรงเรียนทั่วโลกเข้ากับอินเทอร์เน็ตโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ​​เช่น บล็อคเชน แมชชีนเลิร์นนิง และดาวเทียมโคจรรอบโลก

Fore ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า

Ed Fore 1024x683.jpg
Henrietta Fore ผู้อำนวยการของยูนิเซฟ

“มีเด็กมากกว่า 1.3 พันล้านคนที่ขาดการเชื่อมต่อ (จากอินเทอร์เน็ต) ในโลกที่มีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น เราไม่สามารถปล่อยให้เด็กเหล่านี้เติบโตมากับข้อมูลที่จำกัด ทั้งยังต้องอยู่กับทรัพยากรจำนวนน้อยในการเรียนรู้ และเติบโต แถมยังโดนตัดขาดจากข้อมูล รวมไปถึงโอกาสมากมายมหาศาลที่มีอยู่ทางออนไลน์ไปอีกด้วย”

การกระทำข้างต้นของ UNICEF เป็นเพียงแค่หนึ่งในสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า โลกของโทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แห่งนี้นั้นมีคุณค่ามากกว่าไว้ใช้แค่เพียงเก็งกำไรอยู่มากมายเลยทีเดียว โดยองค์การสหประชาชาติ หรือ UN ผู้ซึ่งเป็นหัวใหญ่ของ UNICEF นั้นก็จัดเป็นหน่วยงานระดับแนวหน้าในการนำ NFT ไปใช้ในการสร้างแรงกระเพื่อมที่โดดเด่นต่อโลกไปนี้ ยกตัวอย่างเช่น โครงการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลกด้วย NFT ที่มีชื่อเรียกว่า DigitalArt4Climate

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC
Bitkub เปิดตัว Open Beta ของ 'TSX by Astronize' โปรเจกต์เกมใหม่ล่าสุดบน Bitkub Chain