แผนการอัปเกรดครั้งใหญ่ของ Ethereum ในการก้าวไปสู่ ETH 2.0 ซึ่งตั้งใจจะเปลี่ยนการใช้ proof-of-work ในการทำงานในปัจจุบันไปสู่ proof-of-stake นั้นถือว่าทำให้เหรียญดังกล่าวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะประหยัดพลังงานไปมากเลยทีเดียว
เหล่า HODLers หรือผู้ถือเหรียญระยะยาวของ Ethereum ได้ขายเหรียญที่พวกเขาถือครองมาเป็นระยะเวลานานเพื่อทำกำไรก่อนที่แนวโน้มของตลาดนั้นจะกลับไปสู่ช่วงขาลงอย่างชัดเจน และนั่นทำให้ จำนวนที่อยู่ Ethereum ที่ถือเหรียญ ETH อย่างน้อย 10 เหรียญนั้นแตะระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน
Ethereum ซี่งเป็น Altcoin ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกครั้ง โดยพุ่งทยานทำลายสถิติเก่าอย่างขาดลอย และ ณ ปัจจุบันมีราคาเกิน 3,000 ดอลลาร์ เข้าให้แล้ว อะไรกันที่ทำให้เจ้า ETH นี้เติบโตอย่างบ้าคลั่งในปี 2021 วันนี้เรามาหาคำตอบกัน
สถานการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นทั่วทั้งวงการ Cryptocurrency ได้ทำให้ความเชื่อมั่นของเหรียญต่าง ๆ รวมทั้ง Ether ยังคงอยู่ในขาลง แต่ทว่าเหล่ามหาเศรษฐีกลับไม่คิดเช่นนั้น เพราะนี่คือเวลาทองที่พวกเขาจะเข้าช้อนสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 2 มาครอบรองได้โดยง่าย
Coinbase เดินหน้าเสริมธุรกิจ Stablecoin หลังรายมีรายได้เพิ่มขึ้นจนคิดเป็นกว่า 20% ของรายได้ทั้งหมดในไตรมาส 3 ขณะอยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้ายเพื่อซื้อกิจการ BVNK บริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐาน Stablecoin มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์

ธนาคารกลางอินโดนีเซีย เดินหน้าออกเหรียญดิจิทัลที่มีพันธบัตรรัฐบาลหนุนหลัง โดยระบุว่าเป็น “Stablecoin แห่งชาติ” ซึ่งจะถูกผนวกเข้ากับสกุลเงินดิจิทัลรูเปียห์ ที่พัฒนาอยู่ในปัจจุบัน

Bitwise Solana Staking ETF (BSOL) เปิดตัวแรงในวันแรกของการซื้อขายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 55.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในบรรดากองทุนคริปโตทั้งหมดที่เปิดตัวในปี 2025


Bitcoin กลับมาดึงเม็ดเงินลงทุนกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ Realized Cap แตะระดับสูงสุดใหม่เหนือ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนตลาดอาจยังไม่ฟื้นตัว หากกระแสเงินจาก ETF และบริษัท Strategy ของ Michael Saylor ยังไม่กลับมา

Kronos Research มองว่าแรงซื้อของกองทุน Spot Solana ETF จะยังคงดำเนินต่อไปในสัปดาห์หน้า โดยกระแสการย้ายเงินทุนจาก Bitcoin และ Ether มีแนวโน้มจะยังคงอยู่ต่อเนื่อง

ตามสถิติย้อนหลัง Bitcoin มักจะทำผลงานได้ดีที่สุดในเดือนพฤศจิกายน โดยมีค่าเฉลี่ยผลตอบแทนที่ 42.5% ซึ่งหากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ราคาอาจพุ่งทะลุ 160,000 ดอลลาร์ได้ในเดือนนี้