แม้ราคาของ Bitcoin จะชะลอตัวอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 110,000 ดอลลาร์เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่ความต้องการจากนักลงทุนสถาบันยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนจากกระแสเงินไหลเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF และข้อมูลจากตลาดอนุพันธ์ที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มเชิงบวก
กองทุน Spot Bitcoin ETF ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ มียอดเงินไหลเข้าสุทธิรวมกว่า 381.3 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นมูลค่าสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน ขณะที่มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมทะยานต่อเนื่องในช่วงวันหยุดยาว
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันศุกร์นี้อาจกลายเป็นสัญญาณลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก รวมถึง Bitcoin ซึ่งเคยร่วงกว่า 20–30% ทุกครั้งหลัง BoJ ขึ้นดอกเบี้ยในรอบที่ผ่านมา

XRP ETF ดูดซับเหรียญกว่า 506 ล้านโทเค็นภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน หนุนแนวโน้มราคาขาขึ้น และเพิ่มโอกาสให้ XRP ทำจุดสูงสุดใหม่ภายในปี 2026

Eric Balchunas ผู้เชี่ยวชาญด้านกองทุน ETF ระบุว่า Bitcoin ที่ยืนหยัดมาได้นานถึง 17 ปี และการฟื้นตัวจากวิกฤตหลายครั้ง ทำให้การเปรียบเทียบกับภาวะฟองสบู่ทิวลิปนั้นล้าสมัยไปแล้ว แม้จะมีการวิจารณ์อย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

นักวิเคราะห์จาก Bitfinex ชี้ถึงปัจจัยสำคัญหลายประการ เช่น สภาวะ "การล้างสัญญาเก็งกำไรขั้นรุนแรง" และตัวชี้วัดอื่น ๆ ที่สามารถช่วยให้ Bitcoin สามารถรักษาฐานราคาไว้ได้และมีศักยภาพในการปรับตัวสูงขึ้นต่อไป

รัฐบาลท้องถิ่นของเท็กซัสเข้าถือ Spot Bitcoin ETF และจัดสรรอีก 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับการเข้าซื้อ Bitcoin โดยตรงผ่านการเก็บรักษาด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับรัฐของสหรัฐฯ ที่กำลังเพิ่มขึ้น


บริษัทจัดการสินทรัพย์คริปโตรายใหญ่เชื่อว่า ความต้องการสินทรัพย์ทางเลือกและการปรับท่าทีของหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ จะเป็นตัวเร่งสำคัญให้ Bitcoin พุ่งทำสถิติใหม่ในครึ่งปีแรกของ 2026

จำนวน Bitcoin ที่ถือโดยนักลงทุนระยะยาวลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่าหากแนวรับสำคัญไม่สามารถรักษาระดับราคาไว้ได้ อาจเกิดการปรับฐานลึกถึง 68,500 ดอลลาร์